วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

227. พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก สายวัง ฝีมือช่างสิบหมู่ สมัย ร.5

ผู้เขียนเคยเรียนบทความเกี่ยวกับ
พระชัยวัฒน์ หรือ 
พระไชยวัฒน์ ของสายวังที่สร้างโดยช่างสิบหมู่มาก่อนหน้านี้  ได้เขียนพร้อมทั้งอ้างอิงมากมาย ว่า องค์นั้น องค์นี้ สร้างใน พ.ศ. อะไร? ในรัชกาลใด?

ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลที่ได้รับพระเมตตาจากพระเบื้องบน...สงเคราะห์ แต่มีข้อมูลอีกด้านหนึ่ง เป็นข้อมูลสืบค้นจากทางประวัติศาสตร์ที่ผู้เขียนได้พบมานานแล้ว

ดังนั้นในกระทู้นี้จะนำข้อมูลเหล่านี้มาเปิดเผย เรียบเรียง เพื่อให้กระชับ ด้วยการสรุปเนื้อหาเป็นช่วงๆ


พระชัยวัฒน์ หรือ พระไชยวัฒน์ที่สร้างในสมัย ร.3 หาข้อมูลยาก
พระชัยวัฒน์ หรือ พระไชยวัฒน์ที่สร้างในสมัย ร.4 หาข้อมูลพอได้บ้าง
พระชัยวัฒน์ หรือ พระไชยวัฒน์ที่สร้างในสมัย ร.5 หาข้อมูลได้ ไม่ยาก แต่ไม่ทั้งหมด


ดังนั้นในกระทู้นี้ผมจะขอกล่าวถึง พระชัยวัฒน์ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 


มีตำราหลายเล่มลอกกันไปลอกกันมาว่า พระชัยวัฒน์ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นพระชัยวัฒน์ทองคำหนัก 1 เฟื่อง พร้อมทั้งนำรูปพระชัยวัฒน์องค์เล็กๆมาแสดงพร้อมทั้งอ้างว่าเป็นพระไชยวัฒน์ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 พร้อมทั้งราคาขาย(ให้เช่า) ราคาคนชั้นกลางไม่สามารถซื้อได้

1. ศึกษาเรื่อง พิธีกรรมในการสร้างพระชัยวัฒน์มีขั้นตอนการสร้างอย่างไรเมื่อ พ.ศ.2436
บันทึกเรื่อง การ พระ ราช พิธี หล่อ พระไชยวัฒน์ รศ.112 หรือ พ.ศ.2436 

***หมายเหตุ***
    /// บันทีกเรื่อง การพระราช พิธี หล่อ พระไชยวัฒน์ " สังเกตุสักนิดจะพบว่าหล่อ พระไชยวัฒน์ ไม่ได้ระบุว่าเป็นโลหะธาตุชนิดใด
ผู้เขียนขอย่อสรุป เพื่อให้กระชับเนื้อหา
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(พ.ศ.2436 คือ รัชกาลที่ 5) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ตั้งพระราชพิธีหล่อ พระไชยวัฒน์ที่วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ "วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน พระนครศรีอยุธยา"

ขั้นตอนการเตรียมพิธีหล่อ พระไชยวัฒน์
- พนักงานได้จัดการในพระอุโบสถ  ตั้งพระแท่นมณฑลอย่างน้อย ประดิษฐานพระไชยวัฒน์ประจำราชกาลทั้ง 5 องค์  และพระเนาวโลหะ 1 องค์
- หลังพระแท่นมณฑลตั้งพานรองหุ่นพระพุทธรูปที่จะหล่อใหม่ 
- ริมพระแท่นมีปืนมหาฤกษ์  มหาไชย  มหาจักร์  มหาปราบยุค
- ตั้งเตียงสงฆ์ สวดภาณ  หน้าประตูพระอุโบสถตรงพระแท่นมณฑล และตั้งกระโจมเทียนไชยหน้าเตียงสงฆ์
- ปลูกประรำำที่จะหล่อพระพระพุทธรูป  ที่ชาลาหน้าพระอุโบสถ
- มีศาลเทพรักษ์ สูงเพียงตาสำหรับโหรบูชาเทพดาทั้ง 4 ทิศ
 
หมายกำหนดการของพิธีหล่อ พระไชยวัฒน์
วันที่ 19 สิงหาคม รศ.112(พ.ศ.2436) 
- เป็นวันเริ่มการพระราชพิธี  พระสงฆ์ราชาคณะ 10 รูป  พร้อมอยู่ในพระอุโบสถ
- เวลาทุ่มเศษ ร.5 เสด็จพระราชดำเนินจากพระราชวังบางปะอินด้วยเรือพระที่นั่งทองทั้งแท่ง ไปประทับวัดนิเวศฯ์ธรรมประวัติ
- เสด็จเข้าสู่พระอุโบสถทรงจุดเทียนนมัสการ
- พระเจ้าน้องยาเธอ กรม หมื่น วชิรญาณ วโรรส ถวายศลี 
- พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์สัตปริตร (พระพุทธมนต์ใน เจ็ดตํานานที่เรียกว่า สัตปริตร และสิบสองตํานานที่เรียกว่า ทวาทศปริตร, ตํานานหนึ่ง เรียกว่า ปริตรหนึ่ง)
-โปรดเกล้าฯ  ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเสด็จไปจุดเทียนบูชาเจดียฐาน  ในบริเวณพระอารามนี้
- พระสงฆ์สวดมนต์จบแล้ว ร.5 เสด็จสู่พระราชวัง

วันที่ 20 สิงหาคม รศ.112(พ.ศ.2436) 
- เวลาย่ำรุ่งครึ่ง(ประมาณ 5.30 น.)  ร.5 เสด็จประทับในพระอุโบสถวัดนิเวศ์ธรรมประวัติ  พระสงฆ์ราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย และพระพิธีกรรมรวม 30 รูป พร้อมกันอยู่ในพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนนมัสการ ทรงศลีแล้ว 
- พระราชทานเทียนทอง ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรม หมื่น วชิรญาณ วโรรส ทรงจุดเทียนไชย  ขณะนั้นพระสงฆ์สวดคาถา
- เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์ พิณพาทย์ พร้อมกัน
- พระสงฆ์ 30 รูปได้รับพระราชทานฉัน และพระพิธีธรรม  ได้ผลัดเปลี่ยนกันสวดพุทธาภิเศก
- พระราชาคณะนั่งปรกประจำเทียนไชยต่อไปจึงเสร็จการพระราชพิธี
- เวลายามเศษ(ประมาณ 7.00-8.00 น.)  ร.5 เสด็จประทับในพระอุโบสถทรงจุดเทียนนมัสการ  พระสงฆ์ 30 รูปเจริญพระพุทธมนต์แล้วเสด็จกลับ


วันที่ 21 สิงหาคม รศ.112(พ.ศ.2436) 
- เวลาเช้า 4 โมง ( 10.00 น.) พระสงฆ์รับพระราชทานฉัน
- เวลาค่ำเจริญพระพุทธมนต์
- โปรดเกล้าฯ ให้พระบรมโอรสาธิราบเสด็จไปบำเพ็ญพระราชกุศล

วันที่ 22 สิงหาคม รศ.112(พ.ศ.2436) 
- โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช  เสด็จไปถวายอาหารบิณฑบาตพระสงฆ์ 30 รูป รับพระราชทานฉัน  ในพระอุโบสถเหมือนวันก่อน
- เวลาค่ำ ร.5 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดเทียนนมัสการ  พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์แล้วเสด็จกลับ


วันที่ 23 สิงหาคม รศ.112(พ.ศ.2436) 
- เวลาเช้า 3 โมงครึ่ง (9.30 น.)  ร.5 เสด็จพระราชดำเนินไปวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ  ประทับในพระอุโบสถ ทรง จุดเทียนนมัสการ ทรงศลีแล้ว
- เสด็จประทับในโรงหล่อหน้าพระอุโบสถ
- ทรงเท ทอง หล่อ 
     1. พระไชยเนาวโลหะองค์ใหญ่ 1 องค์  
     2. พระไชยเนาวโลหะองค์เล็ก 1 องค์  
     3. พระไชยวัฒน์(พระชัยวัฒน์)องค์เล็กหล่อ 25 องค์   
     4. พระพุทธรูปประจำพระชนม์พรรษาปีนี้ 1 องค์
***หมายเหตุ***
    /// สังเกตุสักนิด  
        ทรงเท ทอง หล่อ พระพุทธรูปในครั้งนี้มี 4 แบบ  และไม่ได้ระบุเป็นเนื้อทองคำ 
        ทุกๆปี ร.5 ทรงเท ทอง หล่อ พระพุทธรูปประจำพระชนม์พรรษาปีละ 1 องค์ 
        เมื่อสิ้นประชนม์จำนวนพระ...ที่หล่อมี 52 องค์ และไม่มีองค์ใดที่มีมองแล้วเป็นเนื้อทองคำทั้งองค์ 
        แต่ที่พบพระพุทธรูปประจำพระชนม์พรรษา ร.5 เป็นเนื้อนวโลหะ
    /// คำว่า "ทรงเท ทอง หล่อ" ให้ท่านสืบค้นในอินเตอร์เน็ต ด้วยคำว่า "ทรงเท ทอง หล่อ" จะพบว่า ประธานในพิธี ทรง เท ทองคำ หล่อ ร่วมกับโลหะประเภทอื่นฯที่ผสมเตรียมรอไว้อยู่ในเบ้า 
    /// หากท่านใดเคยร่วมพิธีหล่อพระ...คงนึกภาพออกว่าเป็นเช่นไร
    /// ดูรายการ ทรงเท ทอง หล่อ  พระ...
     1. พระไชยเนาวโลหะองค์ใหญ่ 1 องค์  
     2. พระไชยเนาวโลหะองค์เล็ก 1 องค์  
     ระบุชัดเจนว่าเป็นเนื้อ เนาวโลหะ  หรือ สมัยนี้ที่เรียกกันว่า เนื้อนวโลหะ  
     สรุป  พระไชยวัฒน์ ที่หล่อ ในครั้งนี้เป็นเนื้อนวโลหะ จะเป็นโลหะประเภทอื่นย่อมเป็นไปไม่ได้
- ขณะนั้นพระสงฆ์สวดไชยมงคล  เจ้พนักงานประโคมดุริยดนตรี  และยิงปืนมหาฤกษ์  มหาไชย  มหาจักร์  มหาปราบยุค  สลูด 21 นัด  
- แล้วเสด็จในพระอุโบสถ  ทรงประเคนอาหารบิณฑบาต  พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้วสมเด็จพระวันรัตดับเทียนไชย  เสร็จการพิธี


วันที่ 24 สิงหาคม รศ.112(พ.ศ.2436) 
- เวลาเช้า 5 โมงเศษ(11.00 น. กว่าๆ) เจ้าพนักงานและกรรมการกรุงเก่า  ได้เวียนเทียนสมโภชพระพุทธรูปที่หล่อใหม่  ตามธรรมเนียม

2271001 
พระชัยวัฒน์องค์เล็ก พ.ศ.2436 ปางมารวิชัย ก้นทองคำ



2271002
พระชัยวัฒน์องค์เล็ก พ.ศ.2436 ปางมารวิชัย ก้นเงิน





2. ศึกษาเรื่อง การฉลอง พระไชยวัฒน์ พ.ศ.2437 (รศ.113)

บันทึกเรื่อง การ ฉลอง พระไชยวัฒน์ รศ.113 หรือ พ.ศ.2437 *** เป็นการฉลองพระไชยวัฒน์ที่สร้างในปี พ.ศ.2437 ไม่ใช่ พ.ศ.2436 นะครับ อย่างนำเรื่องด้านบนมาคิดว่าเป็นพระ...ที่หล่อในพิธีเดียวกัน  

วันที่ 14 พฤศจิกายน รศ.113(พ.ศ.2437) 
- โปรดเกล้าฯ ให้จัดการ  ฉลอง พระไชยวัฒน์ 26 องค์ 
***ข้อสังเกต 
      พ.ศ.2436 ทรงครองราชสมบัติ 25 ปี หล่อพระชัยวัฒน์ 25 องค์
      พ.ศ.2437 ทรงครองราชสมบัติ 26 ปี หล่อพระชัยวัฒน์ 26 องค์
- ที่หล่อพระราชวังบางปะอิน  ที่พระที่นั่้งอมรินทร วินิจฉัย
***ข้อสังเกต 
      พ.ศ.2436 ที่หล่อวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ
      พ.ศ.2437 ที่พระที่นั่งอมรินทร วินิจฉัย
- เจ้าพนักงานได้เชิญ พระไชย ประจำราชกาลนี้ (ร.5) และพระชัยวัฒน์ 26 องค์นั้น ขึ้นประดิษฐานบน พระที่นั่งเสวตรฉัตร  
- ถัดออกมาตั้งพระแท่นมีเทียน 26 เล่ม  เครื่องนมัสการตามธรรมเนียม
- เวลา 4 ทุ่มเศษ ณ.5 เสด็จออกทรงจุดเทียนนมัสการ
- พระเจ้าน้องยาเธอ กรม หมื่น วชิรญาณ วโรรส ถวายศลี 
- ทรงศลีแล้ว  พระสงฆ์ 26 รูป  เจริญพระพุทธมนต์  จบแล้วทรงประเคน  จีวร  สาลู และขาญชีเครื่องไทยธรรมล้วนเป็นเภสัช
- และโปรดให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราล และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ พระเจ้าลูกเธอ  ทรงประเคนพระองค์ละรูปตามเลขในฉลาก

วันที่ 15 พฤศจิกายน รศ.113(พ.ศ.2437) 
- เวลาเช้าเจ้าพนักงานได้นำเข้ากระทง  ที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช  สมเด็ยพระเจ้าลูกยาเธอ  และพระเจ้าลูกเธอทรงจัดไปถวายพระสงฆ์  ที่ได้มาเจริญพระพุทธมนต์ตามฉลากนั้น
- เวลา 2 ทุ่มเศษ  ร.5 เสด็จออกทรงจุดเทียนนมัสการ  พระราชกวีถวายเทศนา 1 กัณฑ์ 
- จบแล้ว  ทรงประเคนเครื่อง บรีก ขาร และกับปัจจัย 10 ตำลึง
- พระราชกระวี ถวาย อดิเรก ถวายพระพรลา
- แล้วพระราชทาน พระไชยวัฒน์ แก่ สมเด็จ พระบรมโอรสาธิราช  สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ  และพระเจ้าลูกเธอพระองค์ละองค์
- เวลา 2 ยามเศษ เสด็จขึ้น
- ในการนี้มีดอกไม้เพลิงทั้ง 2 เวลา

3. ศึกษาเรื่อง การพระราชทาน พระไชยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ.2435 (รศ.111)

***หมายเหตุ***
    ///  สังเกตุสักนิดจะพบว่า การพระราชทาน พระไชยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ.2435 (รศ.111)ไม่ได้ระบุว่าเป็นโลหะธาตุชนิดใด

วันที่ 18 กันยายน รศ.111(พ.ศ.2435) 
- ในพระราชพิธีศรีสัจปานกาล(พิธีสาบานตน)  ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระไชยวัฒน์องค์เล็ก...
- เจ้าพนักงานได้จัดพระแท่นมณฑล  ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนสาสดาราม  ตั้งพระขันหยกและพระเต้าต่างๆ  และพาดพระแสดงต่างๆ  เชิญพระไชยวัฒน์ประจำรัชกาลปัจจุบันนี้(ร.5)  ขึ้นสถิตย์และตั้งหม้อน้ำพระพุทธมนต์ตามธรรมเนียม
- นิมนต์พระสงฆ์ราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อย 38 รูป  พร้อมกันในพระอุโบสถ
- เวลา 2 ยามเศษ  ร.5 เสด็จพระราชดำเนินโดยพระราชยาน  ไปประทับเกยหน้าประตูวัดพระศรีรัตนสาสดาราม  ด้านตะวันตกแล้วทรงพระดำเนินสู่พระอุโบสถ ทรงจุดเทียนนมัสการ
- พระเจ้าน้องยาเธอ  กรมหมื่น วชิรญาณ วโรรส ถวายศลี
- ทรงศลีแล้ว  ขุนพิพิธอักษรพรรณ์กรมพระอาลักษณ์ อ่านประกาศเรื่องรัตนพิมพ์วงษ์จบแล้ว
- พระสงฆ์เจริญ พระพุทธมนต์ทวาทสปริต (พระพุทธมนต์ใน เจ็ดตํานานที่เรียกว่า สัตปริตร และสิบสองตํานานที่เรียกว่า ทวาทศปริตร, ตํานานหนึ่ง เรียกว่า ปริตรหนึ่ง)

- เวลา 7 ทุ่มเศษ  เสด็จกลับจากพระอุโบสถ  
- พระสงฆ์สวดมนต์จบแล้วกลับไป
- พราหมณ์อ่านดุษดีสังเวย  สรรเสริญพระมหามณีรัตนปฏิมากรต่อไป

วันที่ 19 กันยายน รศ.111(พ.ศ.2435) 
- เวลาเข้า 4 โมง  พระสงฆ์ที่สวดมนต์ 18 รูป  รับพระราชทานฉันที่พระที่นุ่งพุทไธสวริยประสาท  แล้วมาพร้อมกันในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนสาสดาราม
- เวลาบ่าย 2 โมง  ร.5 เสด็จออกพระที่นั่งจักรกรีมหาปราสาท ประทับพระราชยานลงยาราชาวดีเสด็จพระราชดำเนิน  พร้อมด้วยกระบวนตำรวจ ทหารมหาดเล็ก แห่นำขบวนตามเสด็จพระราชดำเนินไปถึงเกย  หน้าประตูวัดพระศรีรัตนสาสดารามแล้ว  ทรงพระดำเนินไปประทับในพระอุโบสถ
- ทรงจุดเทียนนมัสการ ทรงศลีแล้ว
- หลวงราชมุนี ปลัด กรม พราหมณ์พิธี เชิญพระแสง ศร พรหม บาศ ประลัยวาต อัคนีวาต  อ่านโองการแล้วเชิญ ลง ชุบใน พระขันหยก และอ่านแช่งน้ำตามแบบพรหมณ์จบแล้ว
- ขุนวิจิตร ราชสาสน กรมพระอาลักษณ์ ประกาศแช่งน้ำ
- ในขณะนี้มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ดำรัสให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฏราชกุมาร  เสด็จไปเฉพาะหน้าพระที่นั่ง  มีพระราชดำรัส  เป็นพระบรมราโชวาทก่อนแล้ว
- ทรงสรวมสร้อยมีพระไชยวัฒน์ องค์เล็ก  พระราชทาน
     สมเด็จ พระบรมโอรสาธิราช 
       ///  สังเกตุสักนิดจะพบว่า การพระราชทาน พระไชยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ.2435 (รศ.111)ไม่ได้ระบุว่าเป็นโลหะธาตุชนิดใด
- ต่อด้วยพิธีสาบานตนฯลฯ

หมายเหตุ จาก ราชกิจจานุเบกษา กรุงเทพมหานครในพระบรมมหาราชวังที่บันทึก รัตนโกสิทร์(รศ.) 111 - 113 (พ.ศ.2435 - พ.ศ.2437)
       ///  พระไชยวัฒน์ที่ ร.5 ทรง พระราชทาน บันทึก "พระไชยวัฒน์ องค์เล็ก" ตั้งแต่ พ.ศ.2435 - พ.ศ.2437  ไม่ได้ระบุว่าเป็นเนื้อโลหะธาตุอะไร
       ///  สาเหตุ เพราะว่า "พระไชยวัฒน์ องค์เล็ก" ทั้งหมดที่สร้างเป็นพระไชยวัฒน์เนื้อนวโลหะ หรือ เนาวโลหะ ดังรายละเอียดที่พบในบันทึกฯ วาระ ทรง เท ทอง หล่อพระไชยวัฒน์ในปี พ.ศ.2436 

4. ศึกษาเรื่อง การพระราชทาน พระไชยวัฒน์ทองคำ องค์เล็ก พ.ศ.2428 (รศ.104)

***หมายเหตุ***
    ///  สังเกตุสักนิดจะพบว่า การพระราชทาน พระไชยวัฒน์ทองคำ องค์เล็ก พ.ศ.2428 (รศ.104) ระบุว่าเป็นโลหะธาตุ ทองคำ
    ///  พระไชยวัฒน์ เป็น เนื้อ ทองคำ ทั้งองค์ หรือว่าผู้บันทึกราชกิจจานุเบกษาเข้าใจผิด?

ในบันทึก อ้างถึง(อดีต เกี่ยวกับพระไชยวัฒน์) ซึ่งเป็นการสร้างในวาระครั้งที่ 1 มีรายละเอียดดังนี้
- เรื่องเดิมพระไชยวัฒน์ทองคำองค์เล็กนั้น เดิมจะทรงพระกรุณาโปรดให้พระเจ้าลูกเธอ 4 พระองค์  ซึ่งจะกล่าวนามภายหลัง  เสด็จออกไปเรียนวิชาในเมืองอังกฤษ  ซึ่งเป็นหนทางไกลนั้น
- จะโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ส่ิงสำคัญอันใดอันหนึ่ง  ที่เนื่องในพระพุทธสาสนาให้ทรงไว้เป็นเครื่องรฦถบูชา  ในเวลาที่ต้องเสด็จจากประเทศสยามไปช้านาน
- ครั้นจะโปรดเกล้าฯ  พระราชทานพระพุทธรูปฤาสิ่งใดที่มีอยู่แล้ว  ในหอหลวง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นของใหญ่โต เป็นการลำบากที่นำไปนำมาทุกสิ่งทุกอย่าง
- จึงทรงพระราชดำริห์ที่จะทรงหล่อพระพุทธรูป อย่างที่เรียกว่าพระไชยวัฒน์ องค์หนึ่ง มีทองคำ หนัก 1 เฟื้อง
       ///  ขยายประโยคที่บันทึก

             ถ้อยคำประโยคนี้ ผู้เขียนขยายความได้ดังนี้ ให้สร้างเรียนแบบพระชัยวัฒน์ทองคำในอดีตองค์หนึ่งมีน้ำหนัก 1 เฟื้อง
             พระชัยวัฒน์ทองคำในอดีตองค์หนึ่งมีน้ำหนัก 1 เฟื้อง มีสร้างในสมัย รัชกาลที่ 4 และสมัยรัชกาลที่ 3 รูปแบบพระชัยวัฒน์องค์เล็กทั้งสองราชกาลนี้มีน้ำหนัก 1 เฟื่อง


วันเสาร์ เดือนแปด ขึ้น 9 ค่ำ รศ.104 (พ.ศ.2428) 
- ตั้งการพระราชพิธีสวดมนต์ครบ 3 จบแล้ว
       ///  สังเกตุสักนิดจะพบว่า 
      ในปี พ.ศ.2428 ไม่ได้กล่าวรายละเอียดในการเตรียมพิธีการต่างๆ...
         พิธีฯร ายละเอียดหากไปดูวาระที่ทรง เท ทองหล่อฯ ในปี พ.ศ.2436 จะพบ รายละเอียดที่ได้บันทึกไว้

วันอังคาร เดือนแปด ขึ้น 12 ค่ำ รศ.104 (พ.ศ.2428) เวลาอีก 3 วันต่อมา
- เป็นวันทรง เท ทองคำ  หล่อในครั้งนี้ 50 องค์
- และโปรดเกล้าฯ ให้สร้างตลับสำหรับทรงพระไชยนี้  "ด้วยทองคำลงยา" ตลับนั้นทำรูปและลวดลายคล้ายกับดวงตรารูปประทุมอุณาโลม  ประจำแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์
- แต่ตลับนี้ตรงกลางเป็นแก้วเปล่าไม่มีอุณาโลม  และมีสร้อยสำหรับสรวมคอด้วย
 
วันจันทร์ เดือนแปด แรม 3 ค่ำ รศ.104 (พ.ศ.2428) เวลาอีก 6 วันต่อมา
- ได้มีการสวดมนต์ฉลองพระไชยวัฒน์นี้
       ///  สังเกตุสักนิดจะพบว่า 
      ภายหลังจากหล่อพระไชย์วันเสร็จ มีเวลา 5 - 6 วัน  ช่างสิบหมู่มีเวลาที่จะต้องเร่งงาน คือ
         1. ตบแต่งเกลา พระไชย์วัฒน์ ให้งดงาม
         2. ชุบพระไชยวัฒน์เนื้อเนาวโลหะ หรือ เนื้อนวโลหะ ให้มีวรรณะสีผิวเป็นเนื้อทองคำ ที่เรียกว่า เปรียกทอง หรือ เคลือบผิวพระไชยวัฒน์ให้เป็นผิวทองคำ 
         3. ทำตลับทองคำลงยา
         4. สร้อยคอทองคำ ในงานนี้ช่างสิบหมู่ไม่จำเป็นต้องสร้าง  ในท้องพระคลัง มีเยอะแยะ  ถ้าจะสร้างจริง  เป็นหน้าที่ของกรมช่างทอง  ไม่ใช่หน้าที่ของกรมช่างหล่อ  
 
วันอังคาร เดือนแปด แรม 4 ค่ำ รศ.104 (พ.ศ.2428) วันถัดมา
- เป็นวันที่พระเจ้าลูกยาเธอทั้ง 4 พระองค์ จะเสด็จไปประเทศยุโรป
- ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระไชยวัฒน์ในจำนวนนี้แก่
     พระเจ้าลูกเธอ  พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ 1 องค์
     พระเจ้าลูกเธอ  พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ 1 องค์
     พระเจ้าลูกเธอ  พระองค์เจ้าประวิฺตรวัฒโนดม 1 องค์
     พระเจ้าลูกเธอ  พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช 1 องค์
- เป็นครั้งแรกที่ได้พระราชทานพระไชยวัฒน์จำนวน 50 องค์นี้

วันพฤหัศบดี เดือนแปด แรม 13 ค่ำ รศ.104 (พ.ศ.2428) เวลาอีก 9 วันต่อมา
- ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งพระไชยวัฒน์องค์เล็กในจำนวนนี้  ออกไปพระราชทาน
     พระเจ้าน้องยาเธอ  กรมหมื่นนเรศ วรฤทธิ์ 1 องค์
     พระเจ้าน้องยาเธอองค์เจ้า โสณบัณฑิตย์ 1 องค์
     ซึ่งเสด็จออกไปอยู่กรุงลอนดอนทั้งสองพระองค์
- อนึ่งพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ์  ซึ่งอยู่ประเทศยุโรปในเวลานั้นด้วยไม่ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานออกไปนั้น  
- เพราะเมื่อเวลาพระองค์เจ้า สวัสดิ โสภณ  จะเสด็จออกไปยุโรปได้ โปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระพุทธรูปทองคำองค์เล็ก  มีอาการอย่างนี้เหมือนกัน  แต่โตกว่าพระไชยวัฒน์ครั้งนี้หน่อยหนึ่ง
- ได้หล่อครั้งนั้นใน พ.ศ.2427(รศ103)จำจำนวน 4 องค์ โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระองค์เจ้าสวัสดีโสภณไป 1 องค์  
- ครั้งนี้จึงไม่ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานไป
       ///  สังเกตุสักนิดจะพบว่า 
      1. ได้เคยมีการหล่อพระไชย์ในสมัย รัชกาลที่ 5 ครั้งแรก จำนวน 4 องค์  มีขนาดใหญ่กว่าพระไชยวัฒน์ที่หล่อขึ้นในปี พ.ศ.2428(รศ.104) หน่อยหนึ่ง
         2. หล่อพระไชยวัฒน์หล่อใน พ.ศ.2427 (รศ.103) จำนวน 4 องค์ พระราชทานไป 1 องค์  คงเหลือพระไชยวัฒน์ที่มีขนาดใหญ่กว่าพระชัยวัฒน์ที่สร้างในปี พ.ศ.2428(รศ.104) จำนวน 3 องค์

2271003
พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ.2428 ปางมารวิชัย



2271004
พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ.2428 ปางสมาธิ



วันพฤหัศบดี เดือนแปด แรม 13 ค่ำ รศ.104 (พ.ศ.2428) เวลาอีก 9 วันต่อมา
- ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระไชยวัฒน์จำนวนใหม่นี้(พ.ศ.2428, รศ.104) แด่
     พระวงษเธอ พระองค์เจ้าสายสินิทธวงษ 1 องค์


วันศุกร์ เดือนสิบ ขึ้น 3 ค่ำ รศ.104 (พ.ศ.2428) ประมาณ 2 เดือนต่อมา
- ทรงบำเพญพระราชกุศลในสมัย ซี่ง ร.5 เจริญพระชนพรรษาเสมอด้วยถึงพระชนพรรษาในพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 
- ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระไชยวัฒน์จำนวนใหม่นี้(พ.ศ.2428, รศ.104) แด่
     พระเจ้าบรมวงษเธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมสมเด็จพระบำราบปรปักษ (แต่เมื่อเวลานั้นดำรงพระยศกรมพระ) 1 องค์
     พระเจ้าราชวรวงเธอ กรมขุนเจริญผลภูลสวัสดิ  1 องค์
     สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงษ กรมพระภาณุพันธุวงษวรเดช (ในสมัยนั้นดำรงพระยศกรมหลวง) 1 องค์
     พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นอดิศรอุดมเดช 1 องค์
     พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสิริอัชสังกาศ 1 องค์
     พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค์ (เวลานั้นยังไม่ได้รับกรม) 1 องค์
     พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงษาโรประการ (เวลานั้นดำรงตำแหน่งพระยศกรมหมื่น) 1 องค์
     พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสมมตอมรพันธุ (เวลานั้นยังไม่ได้รับกรม) 1 องค์
     
วันสุกร(วันศุกร์ครับผม)  เดือนสิบ ขึ้น 10 ค่ำ รศ.104 (พ.ศ.2428) อีก 7 วันต่อมา
- ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระไชยวัฒน์จำนวนใหม่นี้(พ.ศ.2428, รศ.104) แด่
     พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษศิลปาคม 1 องค์
     พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ (เมื่อเวลานั้นยังไม่ได้รับกรม) 1 องค์
    
วันสุกร(วันศุกร์)  เดือนสิบเอ็ด ขึ้น 15 ค่ำ รศ.104 (พ.ศ.2428) เดือนต่อมา
- ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน แด่
     พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร (เมื่อเวลานั้นดำรงพระยศในที่กรมหมื่น) 1 องค์
     พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ 1 องค์

วันเสาร์  เดือนยี่ แรม 4 ค่ำ รศ.104 (พ.ศ.2428) ถ้าเป็นสมัยนี้เปลี่ยน พ.ศ.แล้วครับ  แต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 เปลี่ยน พ.ศ. วันสงกรานต์
- ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน แด่
     สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนตรัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ เมื่อวันรับกรม 1 องค์

วันพุฒ(วันพุธ)  เดือนสี่ ขึ้น 6 ค่ำ รศ.104 (พ.ศ.2428) ถ้าเป็นสมัยนี้เปลี่ยน พ.ศ.แล้วครับ  แต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 เปลี่ยน พ.ศ. วันสงกรานต์
- ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน  แด่
     พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนนริศรานุวัติวงษ 1 องค์

สรุป ในปี พ.ศ.2427- พ.ศ.2428

     1. พระไชยวัฒน์องค์เล็ก สร้างวาระ พ.ศ.2427(รศ.103)ทั้งหมด 4 องค์
     2. พระไชยวัฒน์องค์เล็ก สร้างวาระ พ.ศ.2428(รศ.104)ทั้งหมด 50 องค์

    
5. ศึกษาเรื่อง การพระราชทาน พระไชยวัฒน์ทองคำ องค์เล็ก พ.ศ.2434 (รศ.110) 
 

วันที่ 24 กันยายน รศ.110 (พ.ศ.2434)
- ร.5 เสด็จออกที่ศัลลักษณสฐาน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระไชยวัฒน์ ทองคำ องค์เล็กและตลับทองคำ เป็นรูปตราประทุมลงยาราชาวดี และมีสร้อยทองคำ แก่
     พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงษ์ 1 องค์
     พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าไชยันตมงคล 1 องค์

สรุปการศึกษาเรื่อง พระไชยวัฒน์ที่สร้างในสมัย ร.5 
     ที่พบมีการเทหล่อสร้างพระไชยวัฒน์องค์เล็ก 4 วาระ(พ.ศ.)
     --- ครั้งที่ 1 พ.ศ.2427 จำนวนการสร้าง  4 องค์
     --- ครั้งที่ 2 พ.ศ.2428 จำนวนการสร้าง 50 องค์
     --- ครั้งที่ 3 พ.ศ.2435 จำนวนการสร้าง 25 องค์
     --- ครั้งที่ 4 พ.ศ.2436 จำนวนการสร้าง 26 องค์
     รวมการสร้างพระไชยวัฒน์องค์เล็ก สมัยรัชกาลที่ 5 ทั้ง 4 ครั้ง จำนวนพระไชยวัฒน์ที่สร้างหล่อขึ้นทั้งหมด 105 องค์ 
     พระไชยวัฒน์องค์เล็กที่พบ มี 2 พิมพ์ คือ ปางสมาธิและพิมพ์มารวิชัย 
     พระชัยวัฒน์องค์เล็กที่สร้างในสมัย ร.5 วาระแรกๆ เป็นพระชัยวัฒน์ก้นตัน  
     พระชัยวัฒน์ในปี พ.ศ.2436 ที่พบก้นบรรจุเม็ดกริ่ง มีการปิดก้นด้วยแผ่นทองคำและแผ่นเงิน  เพื่อพิธีการดังนี้
     ///ก้นทองคำ มีไว้สำหรับโปรดเกล้าฯ พระราชทานบุคคลผู้ใกล้ชิดหรือมียศฐานบันดาศักดิ์สูง  
     ///ก้นเงินมีไว้สำหรับโปรดเกล้าฯ พระราชทานบุคคลที่มียศฐานบันดาศักดิ์น้อยกว่ากลุ่มก้นทองคำ  

     พระไชยวัฒน์ที่สร้างในวาระปี พ.ศ.2427  พ.ศ.2428  พ.ศ.2435  และ พ.ศ.2436 ที่ผู้เขียนพบทั้งหมดเป็น พระไชยวัฒน์ เนื้อเนาวโลหะ หรือ เนื้อนวโลหะ เปรียกทอง
      ไม่เป็นที่แปลกใจสำหรับผู้เขียน ในกรณีที่ผู้มีหน้าที่บันทึกในราชกิจจานุเบกษาได้บันทึกในปี พ.ศ.2427-พ.ศ.2434  เป็น พระไชยวัฒน์ทองคำองค์เล็ก  เพราะท่านผู้บันทึก  บันทึกตามวรรณะสีผิวของพระไชยวัฒน์ที่พบเห็น
     แต่ต่อมาภายหลัง ปี พ.ศ.2535 - พ.ศ. 2537 บันทึกใน ราชกิจจานุเบกษา บันทึก พระไชยวัฒน์องค์เล็ก  ไม่มีคำว่า ทองคำ เพราะเวลาผ่านมา 7 ปี  ทำให้ทราบว่าพระไชยวัฒน์องค์เล็กที่มีวรรณะสีทอง ไม่ใช่ ทองคำ ทั้งองค์  
     ผู้บันทึก ราชกิจจานุเบกษาฯ ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2535 - พ.ศ. 2537 จึงบันทึกเพียง พระไชยวัฒน์องค์เล็ก
 

อ้างอิง ราชกิจจานุเบกษา กรุงเทพมหานครในพระบรมมหาราชวัง รัตนโกสินทร์ศก 103 - 113



เพิ่มเติมรูปภาพ 31/7/2555

พระชัยวัฒน์องค์เล็ก พ.ศ.2427 หรือ
พระไชยวัฒน์องค์เล็ก พ.ศ.2427 
ปางมารวิชัย กับ ปางสมาธิ (จับคู่เปรียบเทียบ ความเหมือนและแตกต่างของพิมพ์ทรง)
พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ.2427 รูปด้านหน้า

พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ.2427 รูปด้านหลัง


พระชัยวัฒน์องค์เล็ก พ.ศ.2428 หรือ
พระไชยวัฒน์องค์เล็ก พ.ศ.2428
ปางมารวิชัย กับ ปางสมาธิ (จับคู่เปรียบเทียบ ความเหมือนและแตกต่างของพิมพ์ทรง)
พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ.2428  พิมพ์ปางมารวิชัย และ พิมพ์ปางสมาธิ รูปด้านหน้า

พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ.2428  พิมพ์ปางมารวิชัย และ พิมพ์ปางสมาธิ รูปด้านหลัง

พระไชยวัฒน์องค์เล็ก พ.ศ.2428 ปางมารวิชัย เปรียบเทียบกับเหรียญ 1 บาท

พระชัยวัฒน์องค์เล็ก พ.ศ.2436 หรือ
พระไชยวัฒน์องค์เล็ก พ.ศ.2436
ปางมารวิชัย ฐานบรรจุเม็ดกริ่ง ก้นปิดแผ่นทองคำ

พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ.2436  ปางมารวิชัย ฐานบรรจุเม็ดกริ่ง ก้นปิดแผ่นทองคำ
แผ่นปิดก้นทองคำ พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก ปางมารวิชัย พ.ศ.2436
พระไชยวัฒน์องค์เล็ก พ.ศ.2436
ปางมารวิชัย ฐานบรรจุเม็ดกริ่ง ก้นปิดแผ่นเงิน


พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ.2436  ปางมารวิชัย ฐานบรรจุเม็ดกริ่ง ก้นปิดแผ่นเงิน
แผ่นปิดก้นเนื้อเงิน พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก ปางมารวิชัย พ.ศ.2436


***ภาพชุดนี้ ถ่ายใหม่เมื่อคืนนี้  เพื่อให้เห็นวรรณะสีผิวความเก่า เมื่อ 119 ปี ที่ผ่านมา
     - ความเก่งของโลหะกลับดำลักษณะสีดำ+สีเขียวเข้ม+อมแดง  ไม่ใช่ดำสนิท
     - มีสนิทเขียว  เกิดขึ้น ด้วยระยะเวลาการสั่งสม 119 ปี  
     - กระไหล่ทองที่ฉาบไว้บางๆ เมื่อ พ.ศ.2436 เสียหายด้วยการเกิดปฏิกริยากับอากาศและอื่นๆ
     - พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก ที่สร้างในวาระ พ.ศ.2428 ผิวด้านนอกยังคงพบเห็นเป็นสีทองคำ แต่มีสนิมเขียวที่เกิดจากการทำปฏิกริยาทางอากาศ บางจุดที่มีเนื้อทองคำบาง(หรือถูกสัมผัส) จะพบเห็นเนื้อโลหะด้านในเป็นเนื้อนวะโลหะ

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

226. ช่างสิบหมู่ หรือ ช่างศิลป์หมู่

ช่างสิบหมู่และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างพระเครื่องของสายวัง ในสมัย รัชกาลที่ 3 ไล่มาถึง สมัยรัชกาลที่ 4 และต่อมาถึงรัชกาลที่ 5 มีใครบ้าง?






พระสมเด็จพิมพ์พิเศษองค์นี้ เจ้าของผู้สืบทอดพระเครื่อง...ต้นตระกูลวังหน้า...พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว  นำมาอ้างอิงเพื่อให้เห็นถึงความผูกพันธ์เกี่ยวข้องกับช่างสิบหมู่
จารึกข้อความด้านหลังองค์พระ...
กรม
หมื่น
อดุลักษณสมบัติ
สร้าง 
พ.ศ.2401




*** มองกันให้เห็นชัดๆ ครับ ว่าเนื้อพระสมเด็จ พิมพ์พิเศษ ก็ต้องเป็นผงพิเศษ มวลสารจะต้องไม่ธรรมดา

พระสมเด็จองค์นี้อ้างอิงจากบล๊อก...พระเครื่องทายาทพระวังหน้า...(คลิก)
ซึ่งเจ้าของพระเครื่องกรุนี้เป็นผู้ที่ได้รับสืบทอดมรดกพระเครื่อง...ซึ่งตกทอดมาจากสายวังหน้าของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวสืบต่อๆกันมาถึงปัจจุบัน

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

225. พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาทางอากศเรื่องอจินไตย

เนื่องจากผู้เขียนได้ แนะนำให้ไปสัมผัส
พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาทางอากาศเรื่องอจินไตย  หลายๆท่านได้เดินทางไปแล้ว  สามารถเขียนสิ่งที่ได้พบเห็น  ในกระทู้ที่เว็ปฯพลังจิต  เพื่อช่วยกันเผยแผ่ความรู้ เรื่อง
พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาทางอากศเรื่องอจินไตย  เป็นวิทยาทานสำหรับผู้ที่ยังไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัส
ขอเรียนเชิญท่านที่สนใจ เขียนประสบการณ์ที่พบเห็นได้ในกระทู้

พระบรมสารีริกธาตุ-เสด็จทางอากาศเรื่องอจินไตย (คลิก)

 

วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

224. Phra Kring Pawareth 药师佛, 藥師佛 พระกริ่งปวเรศ

วิเคราะห์โลหะธาตุ ของ
พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข ในวาระต่างๆ
Phra Kring Pawareth  

Medicine Buddha Mantra 

藥師佛心咒


The Ringing Amulet

กระทู้ นี้ รวบรวมสรุปผลรวมวิเคราะห์โลหะธาตุของพระกริ่งสายวังบางรุ่น บางพิมพ์ เพื่อเป็นกรณีศึกษาถึงพระกริ่งสายวังที่อยู่ในยุคของ เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)
เกิด 17 เมษายน พ.ศ. 2331
บรรพชา (บวชเณร) พ.ศ. 2343
อุปสมบท (บวชพระ) พ.ศ. 2351
มรณภาพ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2415
พรรษา 64
อายุ 84   ปี


พระกริ่งสายวังยุคหลัง เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พฺรหฺมรํสี 
--- พระกริ่งฯ (สายวัง) ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ไหน ถ้าหลังจาก สมเด็จโต พฺรหฺมรํสี มรณภาพ(ตาย) ใน พ.ศ.2415 ทั้งหมดกล่าวได้ว่าไม่ทันสมเด็จโต อธิษฐานจิตปลุกเสก  
--- หากสอบถามผู้เขียนว่าน่าสนใจหรือไม่? พระเกจิอาจารย์สมัยโบราณท่านก็เก่งครับ  แต่ไม่ใช่หนึ่งในดวงใจ  ผู้เขียนตอบสั้นๆว่า เฉยๆ


2241101
พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2434
Phra Kring Pawareth 药师佛, 藥師佛 B.E. 2434


พระกริ่งสายวังยุคสมัย เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)
2241103 

พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2411 สร้างยุคสมัย ร. 5
Phra Kring Pawareth 药师佛, 藥師佛 B.E. 2411, Ratchakan5

พระะกริ่งปวเรศ พ.ศ.2411 องค์นี้ผู้เขียนติดทองคำเปลวบูชาไว้ที่ห้องพระ ระยะเวลาหนึ่งผ่านไปพบว่าผิวกลับดำทะลุทองคำเปลว
องค์ขวามือมีคำจารึก โต หมายถึง สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี


บาตรน้ำมนต์ จารีก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมสมเด็จพระปวเรศวริยาลงกรณ์ ได้เลื่อนพระอิศริยยศ  พ.ศ.2434 (ร.ศ.110)

ภานในบาตรน้ำมนต์มีพระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2411 ปริดิษฐานบานดอกบัว

 *** ผลวิเคราะห์โลหะธาตุพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2411 องค์นี้ ให้สังเกตุมีส่วนผสมของ Au(ทองคำ) 0.087%  พระกริ่งสายวังหรือพระเครื่องต่างๆของสายวังที่สร้างในอดีตส่วนผสมสำคัญที่ จะขาดไม่ได้ คือ Au(ทองคำ)


2241104
 พระกริ่ง พิมพ์ฐานใหญ่ พ.ศ.2411 สร้างยุคสมัย ร. 5
 Phra Kring  药师佛, 藥師佛 B.E. 2411, Ratchakan5
*** ผลวิเคราะห์โลหะธาตุพระกริ่งสายวัง พิมพ์ฐานใหญ่ พ.ศ.2411 องค์นี้ ให้สังเกตุมีส่วนผสมของ Au(ทองคำ) 0.907%  พระกริ่งสายวังหรือพระเครื่องต่างๆของสายวังที่สร้างในอดีตส่วนผสมสำคัญที่ จะขาดไม่ได้ คือ Au(ทองคำ) 

 2241105
พระกริ่ง พิมพ์หน้านาง พ.ศ.2411 สร้างยุคสมัย ร. 5
Phra Kring Pawareth 药师佛, 藥師佛 B.E. 2411, Ratchakan5


2241106
พระกริ่ง  พ.ศ.2404 สร้างยุคสมัย ร. 4
Phra Kring Pawareth 药师佛, 藥師佛 B.E. 2404, Ratchakan4

2241107
พระกริ่ง พ.ศ.2401 สร้างยุคสมัย ร. 4
Phra Kring  药师佛, 藥師佛 B.E. 2401, Ratchakan4
*** ผลวิเคราะห์โลหะธาตุพระกริ่งสายวัง พ.ศ.2401 องค์นี้ ให้สังเกตุมีส่วนผสมของ Au(ทองคำ) 0.383%  พระกริ่งสายวังหรือพระเครื่องต่างๆของสายวังที่สร้างในอดีตส่วนผสมสำคัญที่ จะขาดไม่ได้ คือ Au(ทองคำ) 

2241108 

พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2398 สร้างยุคสมัย ร. 4
Phra Kring Pawareth 药师佛, 藥師佛 B.E. 2398, Ratchakan4
ข้อสังเกตุ พระกริ่งปวเรศฯ รุ่น พ.ศ.2398 กับ พ.ศ.2397 ที่แแตกต่างกัน
1. โลหะธาตุส่วนผสมมองด้วยตา เนื้อโลหะขององค์พระกริ่งฯ พ.ศ.2398 ออกสีไปทางเฉดสีแก่ทองเหลือง(สัมฤทธิ์เหลือง)
2. ฐานบัวด้านขวา พระกริ่งฯ พ.ศ.2398 กับ พ.ศ.2397 เจาะข้างเหมือนกัน
3. พระกริ่งฯ พ.ศ.2398 เจาะใต้ฐาน แต่พระกริ่ง พ.ศ.2397 จะไม่มีการเจาะใต้ฐาน
2. ฐานบัวด้านขวา พระกริ่งฯ พ.ศ.2398 กับ พ.ศ.2397 เจาะข้างเหมือนกัน

3. พระกริ่งฯ พ.ศ.2398 เจาะใต้ฐาน แต่พระกริ่ง พ.ศ.2397 จะไม่มีการเจาะใต้ฐาน

2241109
พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2397 สร้างยุคสมัย ร. 4
Phra Kring Pawareth 药师佛, 藥師佛 B.E. 2397, Ratchakan4
ข้อสังเกตุ พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2397
1. โลหะธาตุส่วนผสมมองด้วยตา เนื้อโลหะขององค์พระกริ่งฯ พ.ศ.2398 ออกสีไปทางเฉดสีเแก่ทองแดง(สัมฤทธิ์แดง)
 
*** ผลวิเคราะห์โลหะธาตุพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2397 องค์นี้ ให้สังเกตุมีส่วนผสมของ Au(ทองคำ) 0.408%  พระกริ่งสายวังหรือพระเครื่องต่างๆของสายวังที่สร้างในอดีตส่วนผสมสำคัญที่ จะขาดไม่ได้ คือ Au(ทองคำ) 

2241110 

พระกริ่งปวเรศ จารึกปวเรศ พ.ศ.2394 สร้างยุคสมัย ร. 4
Phra Kring Pawareth 药师佛, 藥師佛 B.E. 2394, Ratchakan4
พระสมเด็จกลีบบัว ด้านหลังฝังพระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2394
พระสมเด็จฯเนื้อผง กลีบบัว ใต้ฐานจารึก ปวเรศ

กราฟสรุปแสดงผลวิเคราะห์โลหะธาตุของพระกริ่งปวเรศที่ฝังอยู่ด้านหลังของพระสมเด็จกลีบบัวพิมพ์พิเศษ

*** ผลวิเคราะห์โลหะธาตุพระกริ่งปวเรศ(สายวัง) จารึกปวเรศ พ.ศ.2394 องค์นี้เป็นพระสมเด็จกลีบบัวพิมพ์พิเศษด้านหลังฝังพระกริ่งปวเรศ ให้สังเกตุมีส่วนผสมของ Au(ทองคำ) 0.12%  พระกริ่งสายวังหรือพระเครื่องต่างๆของสายวังที่สร้างในอดีตส่วนผสมสำคัญที่ จะขาดไม่ได้ คือ Au(ทองคำ)

2241111
พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2394 สร้างยุคสมัย ร. 4
Phra Kring Pawareth 药师佛, 藥師佛 B.E. 2394, Ratchakan4
1. พระกริ่งปวเรศ(สายวัง) พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2394 องค์นี้ได้ผ่านการล้างผิว จึงทำให้ความเก่าหายไปอย่างหน้าเสียดายในความเก่าอายุ 100 กว่าปี
2. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2394 เป็นพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุขพิมพ์ต้นแบบที่ใช้เป็นพิมพ์ต้นแบบในการสร้างพระกริ่ง ปวเรศพิมพ์สมบูรณ์พูนสุขจนกระทั้งถึง พ.ศ.2434 ด้วยระยะเวลาการใช้ต้นแบบในการสร้าง 41 ปี 
3. พระกริ่งปวเรศพิมพ์สมบูรณ์พูนสุขผ่านการสร้างอันยาวนาน หลากหลายวาระในการสร้างพระกริ่งพิมพ์นี้ ทำให้พบเห็นถึงวิวัฒนาการออกแบบ ส่วนผสมของโลหะที่พัฒนาในวาระ พ.ศ. ต่างๆ รวมไปถึงการเกลาตบแต่งองค์พระกริ่งให้งดงาม  รวมไปถึงเทคนิคการหล่อองค์พระกริ่ง

พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2394 เม็ดงาที่ตอกจะแตกต่างกว่าทุก พ.ศ.ที่สร้าง และเจาะด้านข้างขวาฐานบัวในการบรรจุดเม็ดกริ่ง ก้นหล่อตัน
*** ผลวิเคราะห์โลหะธาตุพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2394 องค์นี้ ให้สังเกตุมีส่วนผสมของ Au(ทองคำ) 2.559%  พระกริ่งสายวังหรือพระเครื่องต่างๆของสายวังที่สร้างในอดีตส่วนผสมสำคัญที่ จะขาดไม่ได้ คือ Au(ทองคำ) 

2241112 

พระกริ่ง พ.ศ.2392 สร้างยุคสมัย ร. 3
Phra Kring Pawareth 药师佛, 藥師佛 B.E. 2392, Ratchakan3
พระกริ่ง พ.ศ.2392 สร้างยุคสมัย ร.3 พุทธลักษณะขององค์พระกริ่งสมเด็จพุฒจารย์โต ผสมโลหะฐานพระพุทธชินสีห์
- ใบหน้ายิ้มหวาน
- จีวรบุแผ่นเงิน
- ศรีษะองค์พระกริ่งบุแผ่นเงิน
- ใต้ฐานองค์พระกริ่งบุแผ่นเงิน
- มีบัวสองชั้นอยู่ด้านหน้า 7 คู่  ด้านหลังไม่มีบัว 
- ฐานพระกริ่งโค้งใหญ่ด้านหลังยื่นออกจากองค์พระ
- ใต้ฐานบรรจุเม็ดกริ่ง 


พระกริ่งฯ พิมพ์นี้ที่พบเหมือนกันแต่สร้างต่างวาระต่าง พ.ศ. จะมีลักษณะที่แตกต่างดังนี้
- ไม่ทันเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต 
- จีวรและศรีษะองค์พระกริ่งไม่มีบุแผ่นเงิน 
- เนื้อโลหะจะออกสีอมเหลือง

พระกริ่งสายวัง พ.ศ.2382 สร้างยุคสมัย ร. 3
Phra Kring Pawareth 药师佛, 藥師佛 B.E. 2382, Ratchakan3
--- เป็นพระกริ่งที่สร้างขึ้นในยุคแรกของวงการพระกริ่งของสายวัง มีเทคนิคการสร้างและฝีมือการสร้างชั้นครู 
--- พระกริ่งรุ่นที่สร้างใน พ.ศ.2382 นี้เจ้าประคุณสมเด็จพุฒจารย์โต วัดระฆัง ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก  เป็นพระกริ่งของสายวังที่มีพลังพุทธานุภาพแรงที่สุดเท่าที่ผู้เขียนเคยพบ  
--- ด้วยอายุการสร้างพระกริ่ง วรรณะสีผิวขึ้นสนิมเขียว(สนิมหยก) หากขยายภาพจะพบเห็นสีทองคำที่ซ่อนอยู่ใต้สนิมเขียวอีกชั้นหนึ่ง(ลงลักปิด ทอง) 
--- พระกริ่ง รุ่นนี้เรียกว่า 
พระกริ่ง ต้นฌาน ที่พบมีหลายพิมพ์ด้วยกัน ดังนี้

2241113 
พระกริ่ง รุ่นต้นฌาน พิมพ์แบบที่ 1 พ.ศ.2382
Phra Kring  药师佛, 藥師佛 B.E. 2382, Ratchakan3
*** ผลวิเคราะห์โลหะธาตุพระกริ่งพิมพ์หน้าอิ่ม รุ่นต้นฌาน พ.ศ.2382 องค์นี้ ให้สังเกตุมีส่วนผสมของ Au(ทองคำ) 1.04%  พระกริ่งสายวังหรือพระเครื่องต่างๆของสายวังที่สร้างในอดีตส่วนผสมสำคัญที่ จะขาดไม่ได้ คือ Au(ทองคำ) 

2241114
พระกริ่ง รุ่นต้นฌาน พิมพ์แบบที่ 2 พ.ศ.2382

Phra Kring  药师佛, 藥師佛 B.E. 2382, Ratchakan3


--- พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ที่พบมากที่สุด น่าจะเป็นพิมพ์ที่ พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข ที่สร้างใน พ.ศ.2394 นำมาพัฒนาเรียนแบบแม่พิมพ์จากพระกริ่ง รุ้นต้นฌาน พิมพ์นี้

*** ผลวิเคราะห์โลหะธาตุพระกริ่งพิมพ์หน้ากลม รุ่นต้นฌาน พ.ศ.2382 องค์นี้ ให้สังเกตุมีส่วนผสมของ Au(ทองคำ) 1.147%  พระกริ่งสายวังหรือพระเครื่องต่างๆของสายวังที่สร้างในอดีตส่วนผสมสำคัญที่ จะขาดไม่ได้ คือ Au(ทองคำ)
  
2241115 

พระกริ่ง รุ่นต้นฌาน พิมพ์แบบที่ 3 พ.ศ.2382
Phra Kring  药师佛,藥師佛 B.E. 2382, Ratchakan3


*** ผลวิเคราะห์โลหะธาตุพระกริ่งพิมพ์หน้ากลม รุ่นต้นฌาน พ.ศ.2382 องค์นี้ ให้สังเกตุมีส่วนผสมของ Au(ทองคำ) 1.014%  พระกริ่งสายวังหรือพระเครื่องต่างๆของสายวังที่สร้างในอดีตส่วนผสมสำคัญที่ จะขาดไม่ได้ คือ Au(ทองคำ)

2241116 

พระกริ่ง รุ่นต้นญาน พิมพ์แบบที่ 4 พ.ศ.2382
Phra Kring  药师佛, 藥師佛 B.E. 2382, Ratchakan3



ตางรางเปรียบเทียบอายุผู้เกี่ยวข้องกับปี พ.ศ. ที่สร้างพระกริ่งฯสายวังในวาระต่างๆ
พระกริ่งสายวัง รุ่นต้นญาน 
ในวาระการสร้าง พ.ศ.2382 แต่ละคนมีอายุเท่าใด?
1. สมเด็จโต อายุ 51 ปี 
เกิด17 เมษายน พ.ศ. 2331 บรรพชา (บวชเณร)พ.ศ. 2343อุปสมบท (บวชพระ)พ.ศ. 2351
*** หากใครศึกษาประวัติเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต เป็นที่ทราบๆกันอายุล่วงมาถึง 51 ปี  เจ้าประคุณสมเด็จโตมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและโด่งดังมากในสมัย ร.3 
*** งานพิธีพุทธาภิเษกที่สำคัญของสายวังย่อมได้รับนิมนต์มาเป็นผู้ร่วมอธิษฐานจิตพระกริ่ง รุ่นต้นฌาน จะขาดท่านฯย่อมเป็นไปไม่ได้
2. รัชกาลที่ 3 เกิด พ.ศ.2330 อายุ 52 ปี
3. รับกาลที่ 4 อายุ 35 ปี
4. พระปิ่นเกล้าฯ อายุ 31 ปี
5. สมเด็จฯ กรมพระยาปวเรศฯ อายุ 30 ปี พรรษายังน้อยหากกล่าวภาษาที่เข้าใจง่ายๆ คือ ณ เวลา พ.ศ.นี้ ยังไม่ใช่ยุคของท่าน  เพราะยังมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงดังอีกหลายๆองค์ที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต


พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข
ในวาระการสร้าง พ.ศ.2394 แต่ละคนมีอายุเท่าใด?
1. สมเด็จโต อายุ 63 ปี 
เกิด17 เมษายน พ.ศ. 2331 บรรพชา (บวชเณร)พ.ศ. 2343อุปสมบท (บวชพระ)พ.ศ. 2351
*** หากใครศึกษาประวัติเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต เจ้าประคุณสมเด็จโตมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและโด่งดังมากในสมัย ร.3 ข้ามมาถึงในยุคครองราชย์ของ ร.4
*** งานพิธีพุทธาภิเษกที่สำคัญของสายวังครั้งนี้ ได้รับนิมนต์มาเป็นผู้ร่วมอธิษฐานจิตพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข รุ่นต้นแบบ

2. รับกาลที่ 4 อายุ 47 ปี
3. พระปิ่นเกล้าฯ อายุ 43 ปี
4. สมเด็จฯ กรมพระยาปวเรศฯ อายุ 42 ปี พรรษา 
- จากบันทึกฯความขัดแย้งของขุนนางในอดีตเกี่ยวกับการขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ.2411 สมเด็จฯกรมพระยาปวเรศฯ ยังไม่ได้มีบทบาทในพิธีกรรมฯต่างๆ
- ใน พ.ศ.2394 พระ เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงดังๆที่มีพรรษาสูงกว่ามีอีกหลายองค์ยังมีชีวิต อยู่  โดยเฉพาะเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต กล่าวได้สั้นๆว่า ตราบใดที่เจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โตมีชีวิตอยู่ย่อมไม่ใช่ยุคของท่านฯที่ จะมาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล 
- ผู้เขียนมั่นใจว่า ภายหลังจากที่เจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต เสียชีวิต(ตาย)ใน พ.ศ.2415 สมเด็จฯกรมพระยาปวเรศจึงจะมีบทบาทในการพุทธาภิเษภวัตถุมงคลของสายวังมากขึ้น ตามลำดับจนกระทั่งถึงบั่นปลายของสมเด็จฯกรมพระยาปวเรศฯ

ตั้งข้อสังเกตุ
1. พระกริ่งสายวัง ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ไหน สร้างในวาระใด สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ส่วนผสมของโลหะ ทองคำ ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า "โลหะธาตุทองคำเป็นโลหะที่ดูดซับพลังพุทธานุภาพได้ดีที่สุด มีเพียงแค่รอยเล็บข่วนใช้ได้แล้ว"

2. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข ที่ผู้เขียนพบกล่าวได้ว่ามีระยะเวลาการสร้างยาวนานตั้งแต่ พ.ศ.2394 - พ.ศ.2434 พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข สร้างครั้งสุดท้ายในยุค ร.5 พ.ศ.2343 จึงกล่าวได้ว่าเป็นพระกริ่งสายวังที่สร้างโดยกลุ่มของสายวังที่มีอายุการ สร้างยาวนานที่สุด 41 ปี
3. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข สร้างในยุคของรัชกาลที่ 4 และในยุครัชกาลที่ 5 มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต พ.ศ.2394 - พ.ศ.2411 ในการอธิษฐานจิต
4. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2394 - พ.ศ.2434 เป็นฝีมือช่างสิบหมู่กลุ่มเดียวกัน  เป็นช่างคนละกลุ่มกับพระกริ่งสายวัง รุ่นต้นฌาน  
5. ฝีมือการหล่อพระกริ่งในยุค พ.ศ.2382 มีเวลาการหล่อและการตบแต่งได้งดงาม อีกทั้งช่างฯในยุคนี้มีเทคนิคการหล่อฐานบรรจุกริ่งพร้อมทั้งมีเทคนิคการทำ แผ่นเบ้าปิดประกบฐานพระกริ่ง
6. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข ใน ปี พ.ศ.2394 - พ.ศ.2398 วิวัฒนาการเรื่องเทคนิคการหล่อฐานตัน ในพ.ศ.2394-พ.ศ.2397ใช้วิธีเจาะด้านข้าง มาในปี พ.ศ.2398 เพิ่มเทคนิคการเจาะฐานด้านข้างขวาและก้นพระกริ่ง ทำให้ทราบว่าช่างสิบหมู่กลุ่มนี้เป็นช่างสิบหมู่คนละกลุ่มที่สร้างพระกริ่ง สายวัง พ.ศ.2382  ผ่านมาถึง พ.ศ.2410 และ พ.ศ.2411 พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข ที่พบการหล่อฐานที่ใช้บรรจุเม็ดพระกริ่งวิวัฒนาการเบ้ามีแผ่นประกบเชื่อปิด ฐานพระกริ่ง
7. จากข้อ 5 และข้อ 6 จึงทำให้ทราบว่าพระกริ่งสายวังที่มีสร้างพบเห็นมากมายหลากหลายพิมพ์  ย่อมเป็นฝีมือของช่างในยุคโบราณที่มีหลากหลายกลุ่ม  ดังนั้นพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุขที่พบเห็นมีมากที่สุดพิมพ์หนึ่ง เป็นกลุ่มช่างที่มีผู้สนับสนุนกำลังทรัพย์และกำลังคนมากที่สุด  ในประเทศสยาม(ประเทศไทย) ในยุครัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 5 ผู้ที่มีเงินทุนและช่างมากที่สุดย่อมเป็นกลุ่มของเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงสุด นั้นก็คือ กลุ่มของวังหลวง วังหลัง และวังหน้า  รวมๆกันผู้เขียนขอเรียกว่า พระกริ่งสายวัง
8. จากหลักฐานที่ผู้เขียนพบ ไม่ว่าจะเป็นห้องพระของเชื้อพระวงศ์ที่ตกทอดสืบๆกันมาถึง พ.ศ.2555 จะเป็นของลูกหลานวังหลวง วังหลัง วังหน้า รวมไปถึงขุนนางในสมัยโบราณ ล้วนแล้วแต่มี พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุขที่ละหลายๆองค์ ยังมีพระสมเด็จฯ พระอื่นๆอีกมากมาย
9. ฯลฯ


2241117

พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข วิเคราะห์โลหะทองคำปิดฐานพระกริ่งฯ
ตารางสรุปผลวิเคราะห์โลหะธาตุของแผ่นทองคำปิดก้นพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข 

Au (ทองคำ) 96.6%  (ทองคำทั่วๆไปในท้องตลาด = 96.5%)
Ag (เงิน) 3.303% 
Cu (ทองแดง) 0.01% 
และ Zn (สังกะสี) 0.091%


หมายเหตุ ข้อเตือนใจ
พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2382 - 2434 ที่พบมีพิมพ์มากหลากหลายพิมพ์ ที่นำมาแสดงนี้เป็นตัวอย่างเพียงน้อยนิดเท่านั้น ขอยกตัวอย่างเฉพาะพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข เนื่องจากมีการสร้างมากที่สัด ดังนี้
1. เนื้อนวโลหะ มีทั้งชนิดสีเหลืองจำปา
2. เนื้อโลหะคล้ายสีเงิน (นวะโลหะสีขาว)
3. เนื้อทองแดง(อมแดง) คล้ายกับสีนาค
4. เนื้อทองคำ ที่พบมีน้อยมากๆ แต่ของเก๊-ปลอมทำเรียนแบบมีมากกว่าหลายเท่า
5. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุขพิมพ์ตบแต่ง ของจริงที่พบมีน้อยมากๆ แต่ของเก๊-ปลอมทำเรียนแบบมีมากกว่าหลายเท่า ที่พบมีดังนี้
     5.1 หน้าผากฝังหมุดทองคำ และก้นพระกริ่งฯปิดแผ่นทองคำ
     5.2 หน้าผากฝังหมุดทองคำ และก้นพระกริ่งฯไม่ปิดแผ่นทองคำ
     5.3 หน้าผากไม่ฝังหมุด  ก้นพระกริ่งฯปิดแผ่นทองคำ
     5.4 หน้าผากไม่ฝังหมุด  ก้นพระกริ่งฯปิดแผ่นเงิน รุ่นนี้ผู้เขียนพบเห็นไม่เกิน 3 องค์  แต่ ณ เวลานี้ในท้องตลาดมีทำเรียนแบบออกมาเยอะมาก
     5.5 หน้าผากฝังหมุดทองคำ และก้นพระกริ่งฯปิดแผ่นทองคำ มีสร้อยหมุดทองคำ และมีหมุดทองคำที่บัวบนล่าง ระวังของปลอมมีเยอะ หาของจริงได้ยากมาก
     5.6 พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุขที่มีหมุนทองคำและแผ่นปิดก้นทองคำ ที่พบเกือบจะทั้งหมดเป็นพระกริ่งฯที่สร้างในวาระ พ.ศ.2434 ซึ่งไม่ทันเจ้าประคุณ สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี วัดระฆังในขณะที่มีชีวิตอยู่
6. พระ กริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข ที่สร้างในยุคแรกๆความงดงามจะน้อยกว่ายุคหลัง ในยุคแรกๆที่พบบางองค์ตบแต่งเกลาได้งดงามมาก ส่วนโลหะธาตุเช่น เนื้อนวโลหะที่สร้างตั้งแต่ พ.ศ.2410 - พ.ศ.2434 มีสูตรส่วนผสมของโลหะธาตุใกล้เคียงกัน
7. พระ กริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข  เป็นพระกริ่งปวเรศของสายวังกล่าวได้ว่าเป็นพิมพ์ที่สร้างมากที่สุด  และมีการทำเก๊-ปลอมมากที่สุดเช่นกัน  
8. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข ของปลอมส่วนมากที่พบพิมพ์ที่มีหมุดหน้าผากทองคำและแผ่นปิดก้นทองคำ(เนื่องจากมีคนต้องการหาพิมพ์นี้มาก ผลิตของปลอมออกมาขายได้ ของเรียนแบบราคาหลักพันต้นๆถึงหลักหมื่น ต้นทุนผลิตหลักสิบถึงหลักร้อย)  และองค์ที่เป็นพิมพ์มาตราฐาน(ไม่มีหมุดและแผ่นปิดก้นทองคำ)ที่พบมีทำเก๊- ปลอมเรียนแบบมากอีกพิมพ์หนึ่ง ที่พบมีทั้งแต่งให้ดูเก่า และไม่ได้แต่ง ราคาขายที่พบต่ำสุด 60 บาทต่อองค์
9. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข  หากนำไปเข้าเครื่องวิเคราะห์โลหะธาตุ ถ้าหากพระกริ่งฯไม่มีส่วนผสมของทองคำ 100 ทั้ง 100 องค์ ปลอม  (การมองด้วยตาเหมือนเป็นพระ...เก่าไม่ได้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเป็นของแท้)
10. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข  ด้านหลังตอกโค๊ตผอมๆแหลมๆ เอียงไม่ได้แนวดิ่ง 100 ทั้ง 100 องค์ ปลอม (การมองด้วยตาเหมือนเป็นพระ...เก่าไม่ได้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเป็นของแท้)
11. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข ไม่ว่าจะมีหมุดทองคำ หรือไม่มีหมุดทองคำ หากกล่าวถึงพุทธคุณความแรงและวาระการสร้าง 
     11.1 สร้างอธิษฐานจิตในวาระ(รุ่นเดียวกัน) ความแรงเท่ากัน...และในแต่ละวาระที่สร้าง...ทราบหรือไม่ว่าวาระใด...รุ่น ใด...องค์ใด...มีความแรงพุทธคุณด้านใด...น่าสนใจมากที่สุด? 
     11.2 ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อ(เช่าบูชา)ของแพง เช่น องค์ที่มีหน้าผากหมุดทองคำและแผ่นปิดก้นทองคำ เพราะในองค์พระกริ่งปวเรศของสายวังทุกๆองค์มีส่วนผสมของเนื้อทองคำ
     11.3 ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า "เนื้อทองคำเป็นโลหะธาตุที่ดูดซับพลัง...ได้ดีที่สุด  ขอให้มีเพียงเท่ารอยเล็บข่วนเป็นอันใช้ได้"
12. ข้อสำคัญ คือ พระกริ่งปวเรศ ที่ท่านพบ 
     12.1 เป็นพระกริ่งปวเรศ...ที่สร้างถูกยุคถูกสมัยหรือไม่(ไม่ใช่ของปลอม-เก๊เรียนแบบ)?
     12.2 เป็นพระกริ่งปวเรศ...ที่สร้างในวาระ...พ.ศ.อะไร?
     12.3 เป็นพระกริ่งปวเรศ...สร้างในสมัยเจ้าประคุณ สมเด็จพุฒจารย์โตมีชีวิตอยู่ร่วมอธิษฐานจิต...ใช่หรือไม่?
     12.4 หรือเป็นพระกริ่งปวเรศ...ที่สร้างภายหลังจากที่เจ้าประคุณ สมเด็จพุฒจารย์โตได้ละสังขาร(ตาย)...ใช่หรือไม่? 
     12.5 พระกริ่ง...ของสายวังมีสร้างก่อน พ.ศ.2382 ท่านทราบหรือไม่?
 ******************************************************

ข่าวพระราชสำนัก 

สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพิธีทรงเททองหล่อพระกริ่งปวเรศ ณ มณฑลพิธีหน้า พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานครวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2554 เวลา 14.00 น.

มีรายละเอียดกล่าวถึงประวัติการสร้างพระกริ่งปวเรศตั้งแต่ พ.ศ.2382 - พ.ศ.2434 (คลิกที่รูป)

 


4.8 เรื่อง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็น ประธานเททองหล่อพระกริ่งปวเรศ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. (ดูหน้า 24 - หน้า 25)
 ******************************************************

อ้างอิงบทความกระทู้ในอดีต...(คลิกกระทู้ที่สนใจ)
121. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุขที่สร้างยุคแรกถึงยุคสุดท้าย  
118. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข แต่งสวยงามพิเศษ  
116. พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2394  
114. พระกริ่งผสมโลหะฐานพระพุทธชินสีห์  
112. พระกริ่งปเวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข เนื้อนวโลหะ พ.ศ.2416
111. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข เนื้อทองคำ พ.ศ.2411
109. รวมเปรียบเทียบพระกริ่งยอดนิยม
97. พระกริ่งปวเรศ แบ่งออกเป็น 6 ยุค 
95. สมเด็จโต กับ พระบาทสมเด็จฯ ปวเรศ  
94. สมเด็จโต กับ พระกริ่ง  
92. พระกริ่งปวเรศ ทองคำ รุ่น สมบูรณ์พูนสุข  
90. คำว่า ปวเรศ มีที่มาที่ไปอย่างไร? หมายถึงอะไร?  
87. บาตรน้ำมนต์ พระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมสมเด็จพระปวเรศวริยาลงกรณ์  
86. พระ...นอกตาเซียนตำรา... พระดีนอกตาเซียน ผู้เขียนขอแนะนำ ราคาย่อมเยา พุทธคุณสุดบรรยาย ดีจริงจึงบอกเพื่่อน... 
85. พระกริ่ง พิมพ์ปวเรศ "สมบูรณ์พูนสุข" สร้าง พ.ศ.2411 กับ พ.ศ.2434 เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?  
81. องค์พระกริ่งฯมีรัศมีคุ้มครอง 10 กิโลเมตร  
80. พระกริ่งปวเรศ เนื้อทองคำ.................
77. เนื้อสัมฤทธิ์ ชนิดที่ 3 เนื้อสัมฤทธิ์โชค มีลักษณะเช่นไร?
76. เรียนรู้...พระ ---พระชัยวัฒน์องค์เล็ก ประจำรัชกาล ที่ 4
อักขระยันต์และพุทธานุภาพ
71 ภัยพิบัติกับพุทธานุภาพของพระกริ่งปวเรศและพระเครื่องของสายวัง
70. มีพระกริ่งปวเรศเหตุไฉนจะไม่มีพระชัยวัฒน์หรือพระไชยวัฒน์
69.อ้างลอกกันไปลอกกันมา...ฮา
68. ต้นตำนานพระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2404
67. พระกริ่งปวเรศ เก๊ ปลอม ระบาด
64. ราคาพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข
59. พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 วาระ 2
58. เก็บสะสมพระกริ่งปวเรศ สร้างวาระไหนดีที่สุด
56. ชันโรงอุดพระกริ่งปวเรศ พิมพ์ สมบูรณ์ พูนสุข
55. อักขระยันต์และลายมือการจารก้น
51. พระกริ่งบัวรอบ
45. พระกริ่งหลังไม่มีบัว เนื้อทองเหลืองบุเงิน
42. พระสมเด็็จเนื้อทองคำ สร้างวาระ ร.4 ครองสิริราชย์สมบัติ
41. พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข มีของแท้ ย่อมต้องมีของปลอม
40. มีใครที่ไหนซื้อ-ขายพระกริ่งปวเรศกันบ้างในเว็บไซต์
39. วิเคราะห์พระกริ่งปวเรศด้วยเครื่อง XRF
38. วิเคราะห์เม็ดกริ่งของพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์ พูนสุข
37. วิเคราะห์โลหะธาตุพระกริ่งฯขัดด้วยน้ำยา wenol
36. ฝีมือการเกาตบแต่งพระกริ่งฯ 
35. ร่องรอยเบ้าประกบ พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข  
34. เบ้าประกบวัดบวรนิวเศวิหาร  
33. อ้างอิงราคาซื้อ-ขาย จากบทความในพระพันตา  
32. คาถาจารอักขระยนต์ฐานกริ่งหมุดทองคำ  
31. วิธีทำน้ำพุทธมนต์ด้วยพระกริ่งปวรเรศ  
30. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศ Phra Kring Powareth
25. เม็ดพระศก (รอยตอกตุ๊กตู่) ของพระกริ่งปวเรศ มีลักษณะเช่นไร?
24. พระกริ่งกลับดำ วรรณะสีผิวเป็นเช่นไร?
23. ผลวิเคราะห์พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์ พูนสุข ด้วยเครื่อง XRF
22. น่าจะ...สรุป --- คิดไปเอง 
21. โค๊ต พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์ พูนสุข  
18. คิดไปเอง  
17. ประวัติการสร้างพระกริ่งปวเรศ วาระต่างๆบางส่วน  
16. วงการพระกริ่งปี 2553-2554  
15. ออร่าของพระกริ่งปวเรศ พิมพ์ สมบูรณ์ พูนสุข  
14. วิเคราะห์พระกริ่งปวเรศ องค์เก๋งจีนวัดบวรนิเวศ  
13. จำลองเบ้าพิมพ์ประกบพระกริ่งปวเรศ