เนื่องจากในอดีตสืบมาถึงปัจจุบัน มีญาติธรรมกลุ่มหนึ่ง มักจะส่งรูปภาพพระมาทางอีเมล์บ้าง และทางมือถือบ้าง ผู้เขียนจะตอบไปและมีเงื่อนไขดังนี้
1. จะไม่ดูพระให้ด้วยการใช้ลูกตามองรูปว่าใช่หรือไม่?
2. จะไม่ตอบผู้ที่ส่งรูปมาแล้ว ไม่กล่าวอะไร? หรือกล่าวสั้นๆในลักษณะที่เขียนเองรู้เอง ว่าถามอะไร?
3. ถ้าจะให้ผู้เขียนช่วยดูพระให้ ด้วยการสอบถามพระเบื้องบน จะต้องนำพระองค์จริงมาให้ผู้เขียนสัมผัสเท่านั้น เพราะการส่งรูปมาผู้เขียนถือว่าทำเกินกว่าเหตุ จะไม่สอบถามพระเบื้องบนให้ และส่วนใหญ่รูปที่ส่งมาไม่มีความคมชัดและชัดเจนพอ ในบางรูปที่มีคนส่งมามองจมูก หน้าตา องค์พระยังไม่เห็น จะให้ตอบว่ากระไร
4. การนำองค์พระมาให้ผู้เขียนสอบถาม อย่ามาในลักษณะแอบแฝง(พบเหตุบ่อย) เข้าข้างตัวเองคิดว่าผู้เขียนจะซื้อพระของท่าน ในอดีตที่ผ่านมาถึงปัจจุบันผู้เขียนไม่เคยแม้นแต่ครั้งเดี่ยวที่มีความคิดซื้อพระของบุคคลที่นำมาให้ผู้เขียนสอบถามพระเบื้องบน เพราะว่าพระที่ผู้เขียนมีครอบครองมีมากพอแล้ว
5. ติดต่อเข้ามาเพื่อที่จะให้ผู้เขียนหาที่ปล่อยพระให้ เสียเวลาครับไม่ต้องโทรมา
6. ค่าใช้จ่ายในการสอบถามพระเบื้องบน ผู้เขียนคิดค่าใช้จ่ายหรือไม่?
ตอบว่า
ในอดีตวาระเริ่มแรกไม่ได้คิด แต่ผ่านมามีคนเอาพระมาเยอะมาก ชนิดไม่เกรงใจกัน มีญาติธรรมแนะนำว่าที่ไหนๆ เขาก็คิดก้น ให้เก็บค่าใช้จ่ายเอาไปทำบุญก็ได้
วาระที่ 2 ผู้เขียนจึงบอกกล่าวไปว่า ให้ทำบุญหากสอบถามพระเบื้องบน ผู้เขียนจะนำเงินไปทำบุญ ได้บุญร่วมกัน ทำให้จำนวนของคนที่นำพระมาให้สอบถามพระเบื้องบนลดลง มีเวลาทำอย่างอื่นได้บ้าง ผ่านมาระยะหนึ่งเก็บเงินค่าทำบุญมาเยอะสำหรับบางคน ภายหลังจึงไม่ได้เก็บใครให้ก็รับ ใครไม่ให้ก็เฉยๆ พอไม่เก็บเหมือนวาระที่แรกไม่มีผิด
ในปัจจุบัน ขอตั้งกฏให้ทราบกันว่า ถ้าจะให้ผู้เขียนสอบถามพระเบื้องบน จะต้องนำองค์พระมาให้ผู้เขียนสัมผัส พร้อมทั้งมีคำถามมาว่าคุณต้องการถามอะไรที่ใช่หรือไม่ใช่? และเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อนำเงินไปทำบุญองค์ละ 300 บาท
1. จะไม่ดูพระให้ด้วยการใช้ลูกตามองรูปว่าใช่หรือไม่?
2. จะไม่ตอบผู้ที่ส่งรูปมาแล้ว ไม่กล่าวอะไร? หรือกล่าวสั้นๆในลักษณะที่เขียนเองรู้เอง ว่าถามอะไร?
3. ถ้าจะให้ผู้เขียนช่วยดูพระให้ ด้วยการสอบถามพระเบื้องบน จะต้องนำพระองค์จริงมาให้ผู้เขียนสัมผัสเท่านั้น เพราะการส่งรูปมาผู้เขียนถือว่าทำเกินกว่าเหตุ จะไม่สอบถามพระเบื้องบนให้ และส่วนใหญ่รูปที่ส่งมาไม่มีความคมชัดและชัดเจนพอ ในบางรูปที่มีคนส่งมามองจมูก หน้าตา องค์พระยังไม่เห็น จะให้ตอบว่ากระไร
4. การนำองค์พระมาให้ผู้เขียนสอบถาม อย่ามาในลักษณะแอบแฝง(พบเหตุบ่อย) เข้าข้างตัวเองคิดว่าผู้เขียนจะซื้อพระของท่าน ในอดีตที่ผ่านมาถึงปัจจุบันผู้เขียนไม่เคยแม้นแต่ครั้งเดี่ยวที่มีความคิดซื้อพระของบุคคลที่นำมาให้ผู้เขียนสอบถามพระเบื้องบน เพราะว่าพระที่ผู้เขียนมีครอบครองมีมากพอแล้ว
5. ติดต่อเข้ามาเพื่อที่จะให้ผู้เขียนหาที่ปล่อยพระให้ เสียเวลาครับไม่ต้องโทรมา
6. ค่าใช้จ่ายในการสอบถามพระเบื้องบน ผู้เขียนคิดค่าใช้จ่ายหรือไม่?
ตอบว่า
ในอดีตวาระเริ่มแรกไม่ได้คิด แต่ผ่านมามีคนเอาพระมาเยอะมาก ชนิดไม่เกรงใจกัน มีญาติธรรมแนะนำว่าที่ไหนๆ เขาก็คิดก้น ให้เก็บค่าใช้จ่ายเอาไปทำบุญก็ได้
วาระที่ 2 ผู้เขียนจึงบอกกล่าวไปว่า ให้ทำบุญหากสอบถามพระเบื้องบน ผู้เขียนจะนำเงินไปทำบุญ ได้บุญร่วมกัน ทำให้จำนวนของคนที่นำพระมาให้สอบถามพระเบื้องบนลดลง มีเวลาทำอย่างอื่นได้บ้าง ผ่านมาระยะหนึ่งเก็บเงินค่าทำบุญมาเยอะสำหรับบางคน ภายหลังจึงไม่ได้เก็บใครให้ก็รับ ใครไม่ให้ก็เฉยๆ พอไม่เก็บเหมือนวาระที่แรกไม่มีผิด
ในปัจจุบัน ขอตั้งกฏให้ทราบกันว่า ถ้าจะให้ผู้เขียนสอบถามพระเบื้องบน จะต้องนำองค์พระมาให้ผู้เขียนสัมผัส พร้อมทั้งมีคำถามมาว่าคุณต้องการถามอะไรที่ใช่หรือไม่ใช่? และเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อนำเงินไปทำบุญองค์ละ 300 บาท