วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ตรวจสอบพระเครื่องว่าเป็น ของแท้ไม่แท้มี 6 วิธี

วิธีตรวจสอบพระเครื่องและวัตถุมงคลในปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 6 วิธี
แต่ละวิธีทำกันอย่างไร มีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด

1. ตามตำรา  เรียนมาจากหนังสือ คู่มือ ว่าด้วยวิธีก้มๆเงยๆ พร้อมอาวุธ คู่กาย "กล้องส่องพระ" 
     - ดูพิมพ์ทรง มวลสาร ความเก่า ฯลฯ 
     - ดูแล้วศึกษาแล้วก็ต้องเชื่อตามตำรา  ถูกต้องตามตำราแท้  นอกเหนือจากตำรา "พิมพ์ไม่ใช่ เนื้อไม่ถึง" 
     - ทันสมัยหน่อย ประยุคฯด้วยการ ถ่ายรูปขยายดูจากหน้าจอคอนพิวเตอร์

2. ส่องพระเครื่องแบบไฮเทค เป็นพระแท้ไม่แท้ ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM (เซ็ม หรือ เอสอีเอ็ม) (SEM คือ Scanning Electron Microscope ภาษาไทยเรียกว่ากล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด เป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์ประเภทหนึ่ง )  
       ส่องพระเครื่อง แบบไฮเทคโนโลยี ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนฯ และวิเคราะห์ธาตุด้วยเครื่อง EDS
     - วิธีนี้คล้ายกับประเภทที่ 1 อาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยกว่า "กล้องส่องพระ" ใช้ประสบการณ์ ความชำนาญ ความรอบรู้ ตาถึง  จึงจะสามารถบอกได้ว่าเป็นของแท้หรือไม่แท้
     - ส่องด้วยกล้อง SEM จุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด และเครื่องวิเคราะห์ธาตุ EDS,EDX  จำเป็นต้องมีองค์ครูเป็นองค์ตัวอย่างเพื่อเปรียบเทียบกับองค์ที่ต้องการตรวจสอบ  ถ้าองค์ครูผิด ผลสรุปที่วิเคราะห์ออกมาก็ผิดเช่นกัน
     - วิธีนี้ไม่สามารถบ่งบอกถึง ปี พ.ศ. ที่สร้างได้  ระบุได้แต่เพียงว่าเหมือนหรือคล้ายกับองค์ต้นแบบเท่านั้น
     - เครื่องมือที่ใช้มีราคาแพง  ค่าตรวจแพง

3.พิสูจน์วิเคราะห์พระ เก๊ แท้  ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์อายุพระและมวลสาร
     - เกิดจากการทดสอบสร้างน้ำยาหาค่าความเป็นไปได้ของมวลสารว่าน่าจะมีความเก่าอายุกี่ปี?
     - สร้างมาตราฐานของแถบสีเพื่อเป็นตัวกำหนดอายุของวัตถุที่นำมาทดสอบเพื่อเปรียบเทียบอายุ
     - ความน่าเชื่อถือ ยังไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรใดๆ รับรองว่าผลที่นักวิเคราะห์ๆออกมาน่าเชื่อถือหรือไม่?
     - การวิเคราะห์ทดสอบ ไม่เปิดเผย ไม่เหมือนกับห้องแลปวิทยาศาสตร์ที่มีความมาตราฐานเปิดเผยและตรวจสอบได้ การวิเคราะห์ที่อำพลางซ่อนเร้น ความน่าเชื่อถือก็น้อยตาม ทำเองรู้เอง วิเคราะห์เอง ที่ไม่มีอะไรมารองรับ
     - ผลสรุปการวิเคราะห์มีความคลาดเคลื่อน  ไม่ตรงกับปีที่สร้างจริง  และไม่สามารถตรวจสอบได้กับมวลสารพระเครื่องทุกประเภท 
     -  มวลสารต่างประเภทกัน สร้างใน พ.ศ. เดียวกันไม่สามารถให้ผลสรุปได้ว่าสร้างในปี พ.ศ. เดียวกัน  สาเหตุเกิดจากน้ำยาทางเคมีวิเคราะห์การเปรียบเทียบกับอายุของมวลสารแต่ละชนิดได้ในวงจำกัดไม่เหมือนกัน
     - การกล่าวอ้างน้ำยาต่างประเทศ...จริงหรือ?  น่าเชื่อถือได้...จริงหรือ?   ผลวิเคราะห์...ตรงจริงหรือไม่?  มีข้อมูลอะไรมารองรับว่า...ที่วิเคราะห์ทดสอบพิสูจน์แล้วใช่...
     - วิธีนี้เป็นวิธีที่ผู้ทดสอบวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายได้เป็นเหตุผลในการรองรับ...แต่ผลที่ได้รับมีเพียงใบประกาศใบเดียวออกโดยผู้เชียวชาญ...ว่ามีความเก่าอายุ...ปี  จริงหรือไม่?

4.บดพระผง วิเคราะห์อายุโดยสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ
     - เกิดจากการนำพระเนื้อดินหรือเนื้อผง บดทำลาย นำเข้ากระบวนทางวิทยาศาสตร์วิเคราะห์ความเก่า(อายุ)ของมวลสาร  ลักษณะการทำเช่นนี้จะต้องมีพระเครื่องที่เหมือนๆกันหลายๆองค์
     -  ผลสรุปที่ได้  ไม่ได้บอกว่าสร้าง ณ ปี พ.ศ.ใดตรงๆ  ผลสรุปจะมีความคลาดเคลื่อนเช่น ไม่เกิน 20 ปี
     -  ค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์แพงมากๆ
     - วิธีนี้ยังไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมที่สุด เพื่อใช้วิเคราะห์มวลสารพระเครื่อง...มีอายุการสร้างกี่ปี? เพราะพระเครื่ององค์ที่นำมาวิเคราะห์อายุจะต้องบดทำลาย

5.  วิเคราะห์โลหะธาตุด้วย เครื่อง X-ray Fluorescence Spectrometer รุ่น EDX - 720  อ้างอิงลิงก์ http://wrsytc1.blogspot.com/2012/12/39-xrf.html
   - วิเคราะห์โลหะธาตุของ วัตถุมงคลที่เป็นเนื้อโลหะ ว่ามีมวลสารอะไรบ้าง
   - ไม่สามารถบ่งชี้ถึงความเก่าของโลหะธาตุ
   - เป็นเครื่องมือทันสมัยมีความน่าเชื่อถือสูงมาก และนิยมนำมาวิเคราะห์สิ่งประดิษฐในห้องแลปทางวิทยาศาสตร์ของโรงงานยักษ์ใหญ่ทั่วโลก เฉพาะประเทศไทยมีมากกว่า 200 เครื่อง  เพื่อนำผลการวิเคราะห์เป็นหลักฐานยืนยันมาตราฐานของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นในแต่ละรอบการผลิต

6. ตรวจสอบความแท้และอายุของการสร้างด้วยญาณ...(ตาใน)
     -  เป็นเรื่องอจินไตย เฉพาะบุคคลพิเศษเท่านั้น คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้
     -  ความสามารถของผู้...ที่สามารถสัมผัสได้  ความรู้ที่ได้รับ(เห็น) ไม่เท่ากัน
     -  บางคนใช้วิธีจับพลังได้เพียงแค่พลังว่าแรงหรือไม่  พระเก๊-ปลอมเรียนแบบถ้านำผงพระแท้โรยผสมจับพลังได้เช่นกัน  คนที่ยังด้อย...จะหลงเข้าใจคิดไปเองว่าใช่ของแท้ก็มีมาก
     -  บางคนสามารถจับพลังได้ว่ามีพลังแรงระดับใด กล่าวยกตัวอย่างเป็น % พอพบองค์ที่แรงกว่าเลยอธิบายได้ยาก  การสัมผัสพลังที่ถูกต้องไม่ใช่วิธีจับพลัง  เป็นวิธีการสัมผัสพลังด้วยญาณ....เป็นเรื่องอจินไตย...ผู้ที่ปฏิบัติถึงแล้วจึงจะทราบด้วยตนเอง
     -  บางคนสามารถแยกพลังได้ว่าเป็นพลังของครูบาอาจารย์ท่านใดสร้างอธิษฐานจิต
     -  บางคนสามารถทราบได้ว่าสร้างในวาระ พ.ศ. ใด........
     -  พลังที่พบ...เช่น
        ***พลังด้านพุทธบารมี คือ พระบรมสารีริกธาตุ  พระอรหันต์ธาตุ พระธาตุข้าวของพระพุทธเจ้า...               ***พลังด้านคงกระพัน  คือ เหล็กไหล... 

        ดังนั้นวิธีการตรวจสอบพระแท้ สร้างวาระ พ.ศ.ใด เหมาะสมที่สุดคือ วิธีที่ 6 ด้วยการตรวยสอบทางตาใน   ผู้ที่สามารถตรวจสอบและสัมผัสได้ในประเทศไทยมีมาก  บุคคลเหล่านี้มีทั้งสมมุติสงฆ์และฆารวาส  คนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะไม่เปิดเผย  และเป็นวิธีสรุปจบที่ดีที่สุดสำหรับผู้เขียนเองนั้น 5 วิธีแรกยังไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดสำหรับในความคิดของผมที่ได้สัมผัสมา  และวิธีที่ 6 นี้ระวังเรื่องอุปทานครับผม.....
       พระอริยเจ้าในเมืองไทยมีเยอะอยู่ที่ท่านรู้หรือไม่ เชื่อและศรัทธาหรือไม่?
       
       เล่นพระตามเซียนตำรา คุณก็ต้องเปิดตำราของเซียนกลุ่มนั้นที่เล่น

       เล่นพระตามกลุ่มวิเคราะห์มวลสารทางวิทยาศาสตร์ คุณก็ต้องหาพระ...ที่มีมวลสารเหมือนของกลุ่มดังกล่าวที่เล่น

       เล่นพระ...ตามกลุ่มอภิญญา คุณก็ต้องเชื่อและศรัทธาตามผู้มีตาในที่เขาเล่นกัน  คุณก็จะได้พระ...แท้  ที่มีพลังแรง...แต่ราคามิตรภาพ

      เรื่องออร่า ออร่าเป็นรังสีที่เปล่งออกจากวัตถุมงคลรวมถึงคนปฏิบัติธรรม  พลังที่บรรจุไว้ในวัตถุมงคลในวัตถุมงคล  ท่านมีจิตสัมผัสที่เก่งมาก  เห็นแสงออร่าจากองค์พระรวมถึงคนปฏิบัติธรรม แยกแยะคุณสมบัติของสีออกมา  ดังนี้
                        สีแดง        เป็นพลัง ด้านคงกระพันชาตรี
                        สีส้ม          เป็นพลัง ด้านแคล้วคลาด& B/ d. X2 [  g) T8 h, d
                        สีม่วง         เป็นพลัง ด้านคุ้มภัย รักษาโรค
                        สีเขียว       เป็นพลัง จากญาณสมาธิ  อภิญญา
                        สีเหลือง    เป็นพลัง พุทธคุณ  พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์
                        สีขาว         เป็นพลัง พระโพธิ์สัตว์0 ]7 l. m4 p* J8 D* E
                        สีฟ้า          เป็นพลัง ส่งเสริมอำนาจ บารมี  โภคทรัพย์
! E                     สีชมพู       เป็นพลัง เมตตามหานิยมEมห





วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

พระเครื่องและวัตถุมงคลที่น่าสนใจ

ขอแนะนำ และเชิญชวนญาติธรรมเข้าไปเยี่ยมชม

บล๊อกสรุปพระเครื่องที่น่าสนใจ และ
ห้องแบ่งปั่นให้บูชา พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ข้าพเจ้ามีให้กับคนทีสนใจแต่ไม่มี ด้วยราคามิตรภาพ  มากด้วยพลานุภาพ ของดีของแท้มีน้อยหมดก็คือไม่มี..........

และพระเครื่องวัตถุมงคล หลายๆพิมพ์ หลายๆแบบไม่เคยแนะนำที่ใดมาก่อน  จะกล่าวถึงรายละเอียด เช่น ปี พ.ศ.ที่สร้าง ใครสร้าง มีอะไรดีที่เรียกว่าพิเศษฯลฯ ซึ่งมีหลายๆกระทู้กำลังปรับปรุงเพิ่มเติมข้อมูล

(คลิก) รวมสุดยอดพระเครื่อง และวัตถุมงคล  http://phantakityothin.blogspot.com/

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

251. พระกริ่งปวเรศ ราคา 30 - 40 ล้านบาท

มาติดตามข่าวเกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศที่วงการเซียนพระในเมืองไทยเล่นหากัน วงการประเมินราคาพิมพ์ทรงนี้ 30 - 40 ล้านบาท  จากรายละเอียดของข่าว  และยังกล่าวถึงพระกริ่งปวเรศด้านอื่นๆอีกตามข้อมูลของเซียนสายพระกริ่งปวเรศจากลิงก์ สนามพระ 21/04/56 - ข่าวไทยรัฐออนไลน์ 



2511001  
พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2417 องค์ของผู้เขียน
พิมพ์ปกลานโพธิ์ และ 
สนามพระ 21/4/2556 
ข่าวไทยรัฐออนไลน์และหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันอาทิตย์




     พระกริ่งองค์นี้เป็นพิมพ์เดียวกันกับข่าวสนามพระ 21/04/56 - ข่าวไทยรัฐออนไลน์ และมีลงในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันอาทิตย์ 21/04/56 แต่สีที่พิมพ์จะไม่เหมือนสีจริงขององค์พระกริ่งฯ(เกิดจากระบบการปรับสีของเครื่องพิมพ์)  ซึ่งพระกริ่งองค์นี้จะเหมือนกับพระกริ่งในปกหนังสือลานโพธิ์ เล่มที่ 291 ราคาเล่้มละ 7 บาทในสมัยก่อนที่วางขาย และผู้เขียนเคยเขียนไว้ในกระทู้   237. พระกริ่งปวเรศ ปกหนังสือ ลานโพธิ์  
     ดังนั้นพระกริ่งปวเรศของแท้ของจริงจะต้องมีมากกว่า 1 องค์  เพราะเทหล่อเป็นช่อ จะต้องมีหน้าตาพิมพ์ทรงเหมือนกันหลายองค์ ถ้าไม่มีคู่แฝดระวังไว้ครับ  พระของใครและอยู่กับใครอ้างอิงประวัติดีเพียงใด  ถ้าเป็นของแท้ก็คือแท้  หากเป็นของเก๊ปลอมทำเรียนแบบมันก็คือของปลอมพูดยังไงก็ไม่มีทางเป็นของแท้ไปได้
    
     พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2417 พิมพ์นี้ ผู้เขียนมีกับเขาด้วย 1 องค์ดังรูปที่แสดง ใครสนใจขอชมเพื่อศึกษาเรียนรู้ได้ครับ
     
พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2417 ที่พบมี 3 องค์
องค์ที่ 1 
     ในปกหนังสือลานโพธิ์ 

องค์ที่ 2 
     พ.ต.ท.วัชวิศวร์ พงษ์พานิช ลูกชาย คุณมนตรี พงษ์พานิช  จากข่าว(หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ) 
     
องค์ที่ 3  
     ของผู้เขียน ดร.ณัฐชัย เลิศรัตนพล

เพิ่มเติมข้อมูล 10/7/2556
องค์ที่ 4
    รังสรรค์ ต่อสุวรรณ