วิธีตรวจสอบพระเครื่องและวัตถุมงคลในปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 6 วิธี
แต่ละวิธีทำกันอย่างไร มีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
1. ตามตำรา เรียนมาจากหนังสือ คู่มือ ว่าด้วยวิธีก้มๆเงยๆ พร้อมอาวุธ คู่กาย "กล้องส่องพระ"
- ดูพิมพ์ทรง มวลสาร ความเก่า ฯลฯ
- ดูแล้วศึกษาแล้วก็ต้องเชื่อตามตำรา ถูกต้องตามตำราแท้ นอกเหนือจากตำรา "พิมพ์ไม่ใช่ เนื้อไม่ถึง"
- ทันสมัยหน่อย ประยุคฯด้วยการ ถ่ายรูปขยายดูจากหน้าจอคอนพิวเตอร์
2. ส่องพระเครื่องแบบไฮเทค เป็นพระแท้ไม่แท้ ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM (เซ็ม หรือ เอสอีเอ็ม) (SEM คือ Scanning Electron Microscope ภาษาไทยเรียกว่ากล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด เป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์ประเภทหนึ่ง )
ส่องพระเครื่อง แบบไฮเทคโนโลยี ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนฯ
และวิเคราะห์ธาตุด้วยเครื่อง EDS
- วิธีนี้คล้ายกับประเภทที่ 1 อาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยกว่า "กล้องส่องพระ" ใช้ประสบการณ์
ความชำนาญ ความรอบรู้ ตาถึง จึงจะสามารถบอกได้ว่าเป็นของแท้หรือไม่แท้
- ส่องด้วยกล้อง SEM จุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด และเครื่องวิเคราะห์ธาตุ EDS,EDX จำเป็นต้องมีองค์ครูเป็นองค์ตัวอย่างเพื่อเปรียบเทียบกับองค์ที่ต้องการตรวจสอบ ถ้าองค์ครูผิด ผลสรุปที่วิเคราะห์ออกมาก็ผิดเช่นกัน
- วิธีนี้ไม่สามารถบ่งบอกถึง ปี พ.ศ. ที่สร้างได้ ระบุได้แต่เพียงว่าเหมือนหรือคล้ายกับองค์ต้นแบบเท่านั้น
- เครื่องมือที่ใช้มีราคาแพง ค่าตรวจแพง
3.พิสูจน์วิเคราะห์พระ เก๊ แท้ ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์อายุพระและมวลสาร
- เกิดจากการทดสอบสร้างน้ำยาหาค่าความเป็นไปได้ของมวลสารว่าน่าจะมีความเก่าอายุกี่ปี?
- สร้างมาตราฐานของแถบสีเพื่อเป็นตัวกำหนดอายุของวัตถุที่นำมาทดสอบเพื่อเปรียบเทียบอายุ
- ความน่าเชื่อถือ ยังไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรใดๆ รับรองว่าผลที่นักวิเคราะห์ๆออกมาน่าเชื่อถือหรือไม่?
- การวิเคราะห์ทดสอบ ไม่เปิดเผย ไม่เหมือนกับห้องแลปวิทยาศาสตร์ที่มีความมาตราฐานเปิดเผยและตรวจสอบได้ การวิเคราะห์ที่อำพลางซ่อนเร้น ความน่าเชื่อถือก็น้อยตาม ทำเองรู้เอง วิเคราะห์เอง ที่ไม่มีอะไรมารองรับ
- ผลสรุปการวิเคราะห์มีความคลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับปีที่สร้างจริง และไม่สามารถตรวจสอบได้กับมวลสารพระเครื่องทุกประเภท
- มวลสารต่างประเภทกัน สร้างใน พ.ศ. เดียวกันไม่สามารถให้ผลสรุปได้ว่าสร้างในปี พ.ศ. เดียวกัน สาเหตุเกิดจากน้ำยาทางเคมีวิเคราะห์การเปรียบเทียบกับอายุของมวลสารแต่ละชนิดได้ในวงจำกัดไม่เหมือนกัน
- การกล่าวอ้างน้ำยาต่างประเทศ...จริงหรือ? น่าเชื่อถือได้...จริงหรือ? ผลวิเคราะห์...ตรงจริงหรือไม่? มีข้อมูลอะไรมารองรับว่า...ที่วิเคราะห์ทดสอบพิสูจน์แล้วใช่...
- วิธีนี้เป็นวิธีที่ผู้ทดสอบวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายได้เป็นเหตุผลในการรองรับ...แต่ผลที่ได้รับมีเพียงใบประกาศใบเดียวออกโดยผู้เชียวชาญ...ว่ามีความเก่าอายุ...ปี จริงหรือไม่?
4.บดพระผง วิเคราะห์อายุโดยสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ
- เกิดจากการนำพระเนื้อดินหรือเนื้อผง บดทำลาย นำเข้ากระบวนทางวิทยาศาสตร์วิเคราะห์ความเก่า(อายุ)ของมวลสาร ลักษณะการทำเช่นนี้จะต้องมีพระเครื่องที่เหมือนๆกันหลายๆองค์
- ผลสรุปที่ได้ ไม่ได้บอกว่าสร้าง ณ ปี พ.ศ.ใดตรงๆ ผลสรุปจะมีความคลาดเคลื่อนเช่น ไม่เกิน 20 ปี
- ค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์แพงมากๆ
- วิธีนี้ยังไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมที่สุด เพื่อใช้วิเคราะห์มวลสารพระเครื่อง...มีอายุการสร้างกี่ปี? เพราะพระเครื่ององค์ที่นำมาวิเคราะห์อายุจะต้องบดทำลาย
- วิเคราะห์โลหะธาตุของ วัตถุมงคลที่เป็นเนื้อโลหะ ว่ามีมวลสารอะไรบ้าง
- ไม่สามารถบ่งชี้ถึงความเก่าของโลหะธาตุ
- เป็นเครื่องมือทันสมัยมีความน่าเชื่อถือสูงมาก และนิยมนำมาวิเคราะห์สิ่งประดิษฐในห้องแลปทางวิทยาศาสตร์ของโรงงานยักษ์ใหญ่ทั่วโลก เฉพาะประเทศไทยมีมากกว่า 200 เครื่อง เพื่อนำผลการวิเคราะห์เป็นหลักฐานยืนยันมาตราฐานของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นในแต่ละรอบการผลิต
6. ตรวจสอบความแท้และอายุของการสร้างด้วยญาณ...(ตาใน)
- เป็นเรื่องอจินไตย เฉพาะบุคคลพิเศษเท่านั้น คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้
- ความสามารถของผู้...ที่สามารถสัมผัสได้ ความรู้ที่ได้รับ(เห็น) ไม่เท่ากัน
- บางคนใช้วิธีจับพลังได้เพียงแค่พลังว่าแรงหรือไม่ พระเก๊-ปลอมเรียนแบบถ้านำผงพระแท้โรยผสมจับพลังได้เช่นกัน คนที่ยังด้อย...จะหลงเข้าใจคิดไปเองว่าใช่ของแท้ก็มีมาก
- บางคนสามารถจับพลังได้ว่ามีพลังแรงระดับใด กล่าวยกตัวอย่างเป็น % พอพบองค์ที่แรงกว่าเลยอธิบายได้ยาก การสัมผัสพลังที่ถูกต้องไม่ใช่วิธีจับพลัง เป็นวิธีการสัมผัสพลังด้วยญาณ....เป็นเรื่องอจินไตย...ผู้ที่ปฏิบัติถึงแล้วจึงจะทราบด้วยตนเอง
- บางคนสามารถแยกพลังได้ว่าเป็นพลังของครูบาอาจารย์ท่านใดสร้างอธิษฐานจิต
- บางคนสามารถทราบได้ว่าสร้างในวาระ พ.ศ. ใด........
- พลังที่พบ...เช่น
***พลังด้านพุทธบารมี คือ พระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันต์ธาตุ พระธาตุข้าวของพระพุทธเจ้า... ***พลังด้านคงกระพัน คือ เหล็กไหล...
ดังนั้นวิธีการตรวจสอบพระแท้ สร้างวาระ พ.ศ.ใด เหมาะสมที่สุดคือ วิธีที่ 6 ด้วยการตรวยสอบทางตาใน ผู้ที่สามารถตรวจสอบและสัมผัสได้ในประเทศไทยมีมาก บุคคลเหล่านี้มีทั้งสมมุติสงฆ์และฆารวาส คนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะไม่เปิดเผย และเป็นวิธีสรุปจบที่ดีที่สุดสำหรับผู้เขียนเองนั้น 5 วิธีแรกยังไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดสำหรับในความคิดของผมที่ได้สัมผัสมา และวิธีที่ 6 นี้ระวังเรื่องอุปทานครับผม.....
พระอริยเจ้าในเมืองไทยมีเยอะอยู่ที่ท่านรู้หรือไม่ เชื่อและศรัทธาหรือไม่?
เล่นพระตามเซียนตำรา คุณก็ต้องเปิดตำราของเซียนกลุ่มนั้นที่เล่น
เล่นพระตามกลุ่มวิเคราะห์มวลสารทางวิทยาศาสตร์ คุณก็ต้องหาพระ...ที่มีมวลสารเหมือนของกลุ่มดังกล่าวที่เล่น
เล่นพระ...ตามกลุ่มอภิญญา คุณก็ต้องเชื่อและศรัทธาตามผู้มีตาในที่เขาเล่นกัน คุณก็จะได้พระ...แท้ ที่มีพลังแรง...แต่ราคามิตรภาพ
เรื่องออร่า ออร่าเป็นรังสีที่เปล่งออกจากวัตถุมงคลรวมถึงคนปฏิบัติธรรม พลังที่บรรจุไว้ในวัตถุมงคลในวัตถุมงคล ท่านมีจิตสัมผัสที่เก่งมาก เห็นแสงออร่าจากองค์พระรวมถึงคนปฏิบัติธรรม แยกแยะคุณสมบัติของสีออกมา ดังนี้
สีแดง เป็นพลัง ด้านคงกระพันชาตรี
สีส้ม เป็นพลัง ด้านแคล้วคลาด& B/ d. X2 [ g) T8 h, d
สีม่วง เป็นพลัง ด้านคุ้มภัย รักษาโรค
สีเขียว เป็นพลัง จากญาณสมาธิ อภิญญา
สีเหลือง เป็นพลัง พุทธคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
สีขาว เป็นพลัง พระโพธิ์สัตว์0 ]7 l. m4 p* J8 D* E
สีฟ้า เป็นพลัง ส่งเสริมอำนาจ บารมี โภคทรัพย์
! E สีชมพู เป็นพลัง เมตตามหานิยมEมห