วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

218. ขัดใจเซียนตำรา

กระทู้นี้เป็นกระทู้ ขัดใจเซียนตำรา

มีญาติธรรมส่งข้อมูลมาให้ เป็นความรู้เกี่ยวกับพระสายวังอีกกลุ่มหนึ่ง  เมื่อผู้เขียนเข้าไปชมแล้วมีพลังดี จึงได้แนะนำหากใครได้ผ่านไป

 วัด พระธาตุแม่เจดีย์ ตั้งอยู่ที่บ้านแม่เจดีย์ใหม่  ตำบลแม่เจดีย์  อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย มีพระครูไพบูลย์พัฒนาภิรักษ์ เป็นเจ้าอาวาส

เข้าไปเยี่ยมชมวัตถุมงคลที่ ขัดใจเซียนตำราดูสักครั้งก็ไม่เลวครับ ประดับเป็นความรู้อีกทางหนึ่ง
หรือ จะเยี่ยมชม เว็ปของทางวัดที่ได้สร้างขึ้นที่  หน้าพิพิธภัณฑ์พระเครื่อง
วัด พระธาตุแม่เจดีย์ ต.แม่เจดีย์ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย (คลิก...)
 
 รูปเหมือนเจ้าประคุณ สมเด็จพุฒาจารย์โต พิมพ์นี้งดงามครับ


นำพระเครื่อง... แปะฝาผนังและฝาเพดาน ทำอย่างนี้ เซียนตำราเห็นแล้วขัดใจอย่างแรง 


พระพุทธรูปบูชา พระสิงห์ 1  และ พระสิงห์ 3  เนื้อทองคำ ที่ขุดจากใต้ดินขึ้นมามีน้ำหนักระดับ 7 กิโลกรัม  

จากการสอบถามพระเบื้องบน...พระสององค์นี้สร้างก่อนยุคเชียงแสน ซึ่งทำให้ทราบจากที่เขาว่าๆกันว่า พระเชียงแสนสิงห์1 สิงห์2 และสิงห์3 สร้างในยุคเชียงแสนนั้นผิด  เพราะสององค์นี้สร้างก่อนยุคสมัยเชียงแสนอีกทั้งฝีมือการสร้างขัดใจและขัดตาเซียนอีกเช่นเคย

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

217. ปัจจัยตัง


ปัจจัยตัง 
เมื่อวันที่ 26-27 พ.ค.2555 ได้ไปกราบไหว้ครูบาร์อาจารย์ได้รับข้อมูลและพบเห็นเหตุการณ์เกี่ยวกับเรื่องปัจจัยตัง และความรู้เกี่ยวกับเรื่องธรรมที่นำไปปฏิบัติ  จึงได้เขียนรวบรวมไว้เพื่อเป็นความรู้สำหรับคนที่เชื่อเรื่องเหล่านี้ ถ้าไม่เชื่อก็นึกว่าเป็นนิยายเรื่องหนึ่งเล่าสู่กันฟัง
 
 เรื่อง พญามาร (ขอกล่าวสรุปเนื้อหาโดยรวม อาจไม่ตรงกันทุกคำพูด แต่เนื้อหาโดยรวมครบถ้วน)
ช่วงเช้าของวันที่ 26/05/2555 ขณะที่ผู้เขียนอยู่ในห้องสนทนาธรรม มีญาติธรรมเดินทางมาร่วมรวมอยู่ในห้องนับร้อยคน มีทั้งญาติธรรมที่นั่งอยู่ในที่เรียบร้อย และมีทั้งญาติธรรมที่กำลังนำปัจจัยมาน้อมถวายพ่อแม่ครูบาร์อาจารย์ สักพักผู้เขียนได้ยินเสียงผู้หญิงพูดเสียงดังมากเหมือนคุยกัน จิตของผู้เขียนนึกขึ้นมาว่า “ใครหนอคุยกันดังขนาดนี้”  เพราะปกติญาติธรรมที่มาฟังธรรมจะไม่ส่งเสียงดังหรือพูดคุยกันในห้องนี้เมื่อหลวงพ่อ...อยู่ในห้อง จึงได้หันไปมองพบเห็นผู้หญิงคนหนึ่งพูดจาเสียงดังฟังชัดทั้งห้อง (ขอเล่าเนื้อหาแบบสรุป เนื่องจากไม่ได้ถอดเทป)
(ผู้หญิง): ได้กล่าวแนะนำตัวเองว่าได้มาเข้าร่าง(ประทับทรง)ของผู้หญิงที่ตนเองมาด้วย กล่าวว่า “ลูกสาวไม่เชื่อแม่(ตนเอง) เชื่อแต่มึง(หลวงพ่อ) กูจึงพามันมาคุยกับมึง เพราะกูบอกให้มัน(ลูกสาว)รับเป็นร่างทรงของแม่ มันไม่ยอม มันเชื่อมึงคนเดียว กูเป็นแม่ของมัน กูคือพระนางจามเทวี กูจึงได้พามันมาเพื่อให้มึงอนุญาต เพราะปู่ของมัน พระข้างบนต่างนั่งดูมัน มองมันว่าไม่เชื่อฟัง มึงเองก็เห็นใช่ไหม...(กล่าวชื่อฉายาหลวงพ่อ) มึงอนุญาตให้กูเป็นร่างของมันใช่ไหม
(ผู้เขียน): มองแปลกดีนะนี่ก็อีกรายหนึ่งที่อ้างว่าเป็นพระนางจามเทวี จึงโน้มจิตสอบถามพระเบื้องบน... ได้รับทราบว่าเป็นของปลอม และได้สอบถามพระเบื้องบน...ว่าตัวผู้หญิงที่ถูกอ้างว่าเป็นลูกสาวในอดีตชาติเธอเคยมาสร้างบารมีด้วยการเป็นลูกชายคนโตของพระนางจามเทวีในสมัยก่อนใช่หรือไม่? สรุปว่าใช่
       ผู้เขียนยังนึกในใจว่า มาทั้งทีไม่รู้เลยหรือไงว่า ที่พูดกับหลวงพ่อ...ในอดีตท่านเป็นพระฤาษีวาสุเทพมีความเกี่ยวข้องกับพระนางจามเทวี เรื่องนี้ชอบกลดี
(หลวงพ่อ): เรื่องของคนอื่น ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน ฉันจะไปยุ่งด้วยไม่เหมาะ
(ผู้อ้างเป็นพระนางจามเทวี): มันเชื่อมึงคนเดียว มันบอกกูว่าอย่าพูดจากกับท่านไม่สุภาพเป็นการไม่เคารพ กูพอใจที่จะพูดอย่างนี้จะทำไม มันเอาเชือกของมึงผูกที่มือ 1 เส้น และสวมที่คอ 1 เส้น  เพื่อไม่ให้กูเข้าร่างมันแต่กูให้มันแกะออกและมันไม่เชื่อฟังกู มันบอกมันเชื่อแต่มึง(กล่าวชื่อฉายาหลวงพ่อ)คนเดียว วันนี้มึงจะต้องยุ่งอนุญาตต่อหน้าพระ(พระสงฆ์ที่อยู่ในห้องสนทนาธรรม)เป็นสักขีพยานให้มัน มึง(กล่าวชื่อฉายาหลวงพ่อ)จะว่าอย่างไร?
(หลวงพ่อ): เมื่ออยากให้ฉันยุ่ง ฉันก็จะยุ่งบอกว่าไม่อนุญาต ไม่อนุญาต
(ผู้หญิงที่ถูกอ้างเป็นลูกสาว): หลวงพ่อช่วยหนูด้วย แม่ไม่ยอม แม่เขาดึงหนู หนูเจ็บ หนูไม่อยากเป็นแบบนี้
(ผู้อ้างเป็นพระนางจามเทวี): มันไม่ยอมกู กูเป็นแม่มัน กูจะบังคับให้มันยอม มันไปทำบุญที่ไหนที่ผ่านมากูขัดขวางมันตลอด ถ้าไม่ยอมกูจะเอาให้มันตาย ทั้งๆที่มันมีผัวยังหนุ่ม
(ผู้หญิงที่ถูกอ้างเป็นลูกสาว): หลวงพ่อช่วยหนูด้วยแม่ไม่ยอม
(หลวงพ่อ): คนที่เป็นพ่อแม่ ไม่มีใคร ไม่ปรารถนาให้ลูกได้ดีมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นสัตว์...หรือมนุษย์ต่างเหมือนกัน
(ผู้หญิงที่ถูกอ้างเป็นลูกสาว): หลวงพ่อเขาเป็นใครเขาไม่ใช่แม่หนู หนูทำกรรมอะไรไว้ หลวงพ่อบอกหนูเถอะ หนูรับได้ หนูทำกรรมกับเขาชาติไหน
(หลวงพ่อ): เรื่องของอดีต รู้ไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร เป็นเรื่องของเก่าที่ผ่านไปแล้วแก้ไขอะไรให้เหมือนเดิมไม่ได้ เป็นเรื่องในอดีตที่ไปฆ่าเขาเมื่อ 10 ชาติที่แล้ว
(ผู้อ้างเป็นพระนางจามเทวี): มันฆ่ากู มันทำร้ายฆ่ากูทั้งครอบครัว กูจะให้มันไม่ได้ดี กูจะเอาให้มันตาย
(ผู้หญิงที่ถูกอ้างเป็นลูกสาว): หลวงพ่อช่วยหนูด้วย
(ผู้เขียน): มองที่องค์หลวงพ่อ...เห็นหลวงพ่อจุดธูปแล้วส่งไปให้สามีของ (ผู้หญิงที่ถูกอ้างเป็นลูกสาว) เพื่อส่งต่อ...
(หลวงพ่อ): พนมมือแล้วว่าตามฉัน
(ผู้หญิงที่ถูกอ้างเป็นลูกสาว): หลวงพ่อเขาดึงมือหนู หนูเจ็บ หลวงพ่อช่วยหนูด้วย
(ผู้เขียน): มองที่ (ผู้หญิงที่ถูกอ้างเป็นลูกสาว) แขนทั้ง 2 ข้างถูกดึงชี้ไปที่ด้านหลังคล้ายกับมีใครมาดึง โดยที่เธอทำหน้าตาแสดงอาการเจ็บปวด
(หลวงพ่อ): ดึงมือมาได้ ดึงมา
(ผู้หญิงที่ถูกอ้างเป็นลูกสาว): เธอพยายามดึงมือขวามาด้านหน้าได้หนึ่งมือ สามีเธอรีบส่งธูปไปให้ และเธอรับไว้ พร้อมทั้งพูดว่า หลวงพ่อเขาไม่ยอม เขาดึงมือหนูไว้ หนูเจ็บ
(หลวงพ่อ): เขาดึงก็ปล่อยเขา ว่าตามฉัน (หลวงพ่อกล่าวนำเพื่อขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร)  
(ผู้อ้างเป็นพระนางจามเทวี): มันฆ่ากูทั้งครอบครัว กูไม่ยอมจะทำไม มันฆ่ากูตายทั้งหมด โดยมีมึง(กล่าวชื่อฉายาหลวงพ่อ)เป็นผู้นำ ในสมัยนั้นเรียกว่า สงครามเก้าทัพ มึงชื่อว่า บวรสิงหนาทฯ (สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท) มันรบเก่งมาก มันฆ่าครอบครัวกูตายหมด มันเก่งมันครอบกายแก้ว คิดว่าจะช่วยมันได้ กูเป็นพญามาร เจ้ากรรมของมัน ต่อให้มีกายแก้วก็ช่วยอะไรมันไม่ได้ กูจิกถือหัวมันอยู่ ไม่มีใครช่วยมันได้
(ผู้เขียน): มองที่องค์หลวงพ่อ...เห็นท่านนำเชือก...ขึ้นมาเส้นหนึ่งแล้วผูกมัดเป็นสายสร้อย พร้อมทั้งอธิษฐานจิตและส่งมอบให้กับสามีของ(ผู้หญิงที่ถูกอ้างเป็นลูกสาว)ให้นำไปสวมคอ(ผู้หญิงที่ถูกอ้างเป็นลูกสาว)
(พญามาร): เท่าที่ผู้เขียนฟังพูดจาฟังไม่ได้ ไม่เกรงกลัวผู้ใด ไม่เคารพพระรัตนตรัย
(หลวงพ่อ): พูดด้วยเสียงดังฟังชัด (ผู้เขียนจำคำพูดได้ไม่หมดทุกคำพูดจึงขอสรุปดังนี้) หลวงพ่อได้อุทิศบุญที่หลวงพ่อได้สร้างมาตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบันทั้งหมดยกให้กับ (พญามาร): พร้อมทั้งขอให้พญามารเลิกจองเวรซึ่งกันและกัน
(พญามาร): กูยกให้ เพราะเห็นแก่มึง ที่อุทิศบุญของมึงทั้งหมดให้กู แต่มึงทำแบบนี้บุญมึงหมดไหม บุญมึงยิ่งได้มากกว่าเดิม กูยอมมึงที่เอากูอยู่เชือกของมึงทำให้กูอยู่ไม่ได้ กูขอกล่าวให้คนที่อยู่ในที่นี้ให้สำนึกในบาป กูพญามาร กูจองล้างจองเวรกับมัน มันครอบกายแก้วก็ช่วยอะไรมันไม่ได้ มันไปหาอาจารย์...หลายที่ ไปหาอาจารย์....(ชื่อ)ที่ว่าเก่งมันไม่ยากยุ่งกับกรรมของกมันก็ช่วยอะไรมันไม่ได้ มีมึงที่กูนับถือ 
(เจ้าหน้าที่ฯ): หลวงพ่อเอาหวายที่หลวงพ่อ...ท่านมอบให้ไว้ไหมเจ้าค่ะ
(หลวงพ่อ): โบรกมือไล่
(พญามาร): พูดแบบไม่ต้องหันไปมอง คนอยู่ข้างนอก (นอกห้องที่เข้ามาพูด) อย่าสอดพูดขึ้นมา กูกำลังพูดอยู่ ไม่มีมารยาท เดี๋ยวกูไปตบปากให้หยุดพูดเดี๋ยวนี้
(หลวงพ่อ): โบรกมือไล่ แล้วพูดว่า ใกล้จบแล้ว
(พญามาร): (ผู้เขียนขอสรุปสั้นๆ) พญามารพูดสอนคนในห้องต่ออีก 2-3 ประโยค เกี่ยวกับบาปบุญอย่างได้กระทำ
(หลวงพ่อ): ตัดบทให้หยุดพูด บอกว่ากลับไปได้แล้ว
(ผู้หญิงที่ถูกอ้างเป็นลูกสาว): ทำท่าจะกลับ แล้วหันกลับมากราบหลวงพ่อกล่าวว่า “เขาไม่อยากกลับ เขาอยากฟังธรรมด้วย”
(หลวงพ่อ): หลวงพ่อพยัคฆ์หน้า รับทราบ
(ผู้เขียน): นึกในใจ และก็ยิ้มเล็กน้อย “พญามารกลับใจ”
(หลวงพ่อ): ได้เทศนาเรื่องเกี่ยวกับการเวียนไหว้ตายเกิด เรื่อง เกี่ยวกับร่างกาย (ขัน 5) ไม่ควรยึดติดฯลฯ
(ผู้หญิงที่ถูกอ้างเป็นลูกสาว): ทำท่าจะกลับ กล่าวว่า “เขาอยากฟังธรรมอีก”
(หลวงพ่อ): กลับได้ ไม่เป็นไร
(ผู้หญิงที่ถูกอ้างเป็นลูกสาว): ตัวเธอและสามีจึงได้กราบลาหลวงพ่อ...เดินทางกลับ โดยที่พญามาร(เจ้ากรรมนายเวร)ยอมกลับไปและเลิกรากันด้วยดี
(หลวงพ่อ): ได้พูดคุยกับลูกศิษย์และญาติธรรมที่มาร่วมสนทนาธรรมและบำเพ็ญสร้างบุญบารมีต่างๆ  มีอยู่ช่วงหนึ่งได้กล่าวว่า “ถ้ากลับช้ากว่านี้ สงสัยวันนี้คงจะได้รำงิ้ว” (ไล่พญามาร)  และหลวงพ่อ...ยังกล่าวอีกว่าเรื่องทำนองนี้ในประเทศไทยและที่พบมีเยอะ(ผู้เขียนตีความหมายว่า การเข้าทรงองค์เจ้าที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวรมาหลอกมีเยอะ ยังไม่รวมพวกที่ไม่มีองค์แต่หลอกว่ามีองค์อีกนับไม่น้อย)
(ผู้เขียน): ได้น้อมจิตกล่าวโมทนาผลบุญที่หลวงพ่อ...ได้เมตตาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้
*** ผู้เขียน เคยเขียนและเคยกล่าวไว้ในบล็อกว่า “ต่อให้มีวัตถุมงคลดีเพียงใด ถ้ามีเจ้ากรรมนายเวรมาส่งผล ช่วยได้จากหนักเป็นเบา และจากเบาเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น” ดังเหตุการณ์เรื่อง พญามารที่ผู้เขียนได้ประสบพบในครั้งนี้ ผู้หญิงที่ถูกพญามารตามจองเวร สามารถฝึก...ตั้งองค์พระเป็นกายแก้วครอบเอาไว้ พญามารก็ยังสามารถมาทำมิดีมิร้ายต่อเธอได้...เรื่องเล่านี้เป็นเรื่องปัจจัยตัง พบ รู้ เห็น สัมผัสได้ด้วยเฉพาะบุคคล  พยายามลด เลิก ละ ในบาปที่ก่อให้น้อยที่สุด

เรื่อง การชำระหนี้สงฆ์ (ผู้เขียนขอสรุปเนื้อหาเพื่อความกระชับ)
(หลวงพ่อ): ได้กล่าวและยกตัวอย่างเป็นนิทานเรื่องเล่า พร้อมทั้งให้เห็นภาพว่าถ้าตกนรกของที่เป็นของสงฆ์ จะเป็นโทษหนักที่สุดอันดับต้นๆ รายละเอียดเรื่องเกี่ยวกับของสงฆ์มีมาก อีกทั้งยังทำความเข้าใจได้ยาก
สรุปว่า ใครมีวัตถุมงคลที่ไม่ทราบที่มา ไม่ว่าจะเป็นของเก่าหรือของใหม่ ให้หมั่นชำระหนี้สงฆ์บ่อยๆ (ผู้เขียนเข้าใจว่า ถ้าได้มาทุกๆครั้งให้ชำระหนี้สงฆ์) 
พร้อมทั้งหลวงพ่อชี้แนะช่องทางออกให้ 3 ข้อ
  1. ฉันได้ชำระหนี้สงฆ์แล้ว (ต้องชำระเป็น ชำระหนี้สงฆ์ตั้งแต่อดีตชาติ สืบต่อๆมาถึงปัจจุบันและตราบเท้าเข้าสู่พระนิพพาน)
  2. เจตนาของฉัน ฉันนับถือพระพุทธเจ้า   ฉันเก็บมาเพื่อนำมาไว้ในที่สูง
  3. ฉันไม่ทราบที่ไปที่มาของวัตถุ...เหล่านั้น...การไล่ที่ไปที่มา ยากที่จะหาหลักฐานมากล่าวอ้าง จะจริงหรือเท็จไม่ทราบได้
เรื่อง การอาราธนาบามีพระเบื้องบน(ผู้เขียนขอสรุปเนื้อหาเพื่อความกระชับ)
(หลวงพ่อ): ได้กล่าวให้อาราธนาบามีพระพุทธเจ้า 30 ทัศ ด้วยพุทธานุภาพที่ได้สร้างบารมี ตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าช่วยสงเคราะห์ ฯลฯ

ผู้เขียนขออธิบาย บารมี 30 ทัศ เพิ่มเติม
     การบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ บารมีที่บำเพ็ญ คือ
--- ทานบารมี
--- เนกขัมมบารมี
--- ปัญญาบารมี
--- วิริยบารมี
--- ขันติบารมี
--- สัจจบารมี
--- อธิษฐานบารมี
--- เมตตาบารมี
--- และอุเบกขาบารมี รวมเรียกว่าบารมี 30
     โดยแบ่งเป็นบารมีชั้นธรรมดา 10 (บารมี) บารมี ชั้นกลาง 10 (อุปบารมี) และ บารมีชั้นสูง 10 (ปรมัตถบารมี) รวมเป็นบารมี 30 ประการ

เรื่อง เพชรนาคาหรือเพชรพญานาค... (ผู้เขียนขอสรุปเนื้อหาเพื่อความกระชับ)
ในวันที่ 27/05/2555 ผู้เขียนได้ถวายเพชรพญานาคให้กับพ่อแม่ครูบาร์อาจารย์ ท่านได้กล่าวว่า
(หลวงพ่อ): ลูกแก้วนี้เหาะได้ไหม
(ผู้เขียน): ลูกแก้วนี้เสด็จมาทางอากาศครับ
(หลวงพ่อ): ในสมัยที่หลวงพ่อฤาษี...มีผู้มอบลูกแก้ว(พญานาค) ลูกแก้วนี้เหาะได้ แต่หลวงพ่อฤาษี...ไม่ได้รับไว้ ของวิเศษจากคนสร้างขึ้น หรือใครก็แล้วแต่ที่สร้างขึ้นไม่สามารถช่วยให้ไปนิพพานได้  ทำให้ยึดติดกับของเหล่านี้  สมัยก่อนฉันก็ชอบเสาะแสวงหาของเหล่านี้ ของวิเศษต่างๆไม่เหมาะสำหรับช่วยเหลือคนในจำนวนมากๆ แต่ใช้สำหรับช่วยเหลือตัวเองจะดีกว่า กรณีเกิดน้ำท่วมจะไม่ให้น้ำท่วมเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นกรรมของส่วนรวม  แต่ถ้าช่วยเหลือเฉพาะตนเองได้
*** สรุป จากจิตของผู้เขียน ลูกแก้วพญานาถสามารถช่วยเรื่องเหาะหืนเดินอากาศได้ และช่วยเรื่องป้องกันน้ำท่วมได้(อยู่ที่บารมีของผู้ใช่ว่ามีจาคะหรือไม่)

เรื่อง คาถาเงินล้าน(ผู้เขียนขอสรุปเนื้อหาเพื่อความกระชับ)
(หลวงพ่อ): คาถาเงินล้านของหลวงพ่อฤาษี...คนที่นำไปใช้ 
--- ผลที่ได้ในอดีตมีผู้นำไปใช้แล้วประสบความสำเร็จ  จึงได้มีผู้นำไปใช้กันมาก  มีผู้ที่นำไปใช้แล้วไม่เกิดผลอะไรก็มีมาก ----- จะนำคาถาเงินล้าน...ไปบอกให้กับใคร  ต้องบอกให้ครบนะ เพราะใช้ไม่ได้ผลกับทุกคน  จะใช้ได้ดีเช่นฉัน แล้วบอกให้ท่องตามฉันอย่างนี้ไม่ประสบความสำเร็จนะ
--- คาถาเงินล้านนี้จะได้ผลดีกับผู้ที่ไม่มีจาคะ  แต่ถ้าใช้ได้ผลแล้วเกิดความโลภอยากได้อีกมากๆก็จะเสื่อม
จาคะ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จาคะ แปลว่า ความเสียสละ, การแบ่งปัน, ความเอื้อเฟื้อ มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า ทาน และ บริจาค
จาคะ หมายถึงการสละสิ่งของและความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น และหมายรวมถึงการสละละทิ้งกิเลส ละความโลภ ความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ ความใจแคบ และการเลิกละนิสัย ตลอดถึงความประพฤติที่ไม่ดี ที่ทำให้เกิดความเสียหาย ก่อความบาดหมางทะเลาะเบาะแว้ง เป็นต้นด้วย
จาคะ เป็นคุณธรรมที่ เป็นเหตุให้ผู้ปฏิบัติมองเห็นและเอื้ออาทรต่อความทุกข์ยากและความต้องการของ คนอื่น นำให้เป็นคนไม่คับแคบ ไม่เห็นแก่ตัวแล้วให้ความช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ด้วยความเห็นอกเห็นใจ เป็นคนชอบให้ ชอบแบ่งปันคิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง

เรื่อง สัจจะบารมี (ผู้เขียนขอสรุปเนื้อหาเพื่อความกระชับ)
(หลวงพ่อ): เรื่องสัจจะบารมี ได้ตกลงกับใครไว้แล้วผิดสัจจะไม่หนักเท่ากับการผิดสัจจะกับพระ เช่น ว่าจะถวายอย่างนั้นอย่างนี้แล้วไม่ถวาย การผิดสัจจะบารมีจะทำให้เกิดความไม่คร่องตัว ของที่จะได้มาทำให้ไม่ได้ ทำให้หลุดรอยไป ภายหลังทำตามสัจจะก็จะทำให้ได้อย่างอื่นมาแทน
     เพียงแค่คิดว่าจะกระทำ เช่น ยกของชิ้นหนึ่งให้พระ เพียงแค่นี้ก็สำเร็จด้วยจิตแล้ว ของๆชิ้นนั้นก็จะตกเป็นของสงฆ์ทันที ถ้าผิดสัจจะบารมีจะมีผลกับผู้ที่ผิดสัจจะบารามี

เรื่อง เกิดมาทำไหม ในยุคนี้ที่เสี่ยงต่อการตกนรกสูง  (ผู้เขียนขอสรุปเนื้อหาเพื่อความกระชับ)
(หลวงพ่อ):  (ได้ตั้งคำถามไว้มากมายเพื่อให้คิดและหาเหตุและผล)
--- ในยุคของการเสื่อม ไม่มีพระพุทธเจ้า อยู่บนวิมานดีๆลงมาเกิดทำไม
--- ในยุคที่มีพระพุทธเจ้า เกิดขึ้นมากมายทำไมถึงไม่เลือกลงมาเกิด ทำไมถึงเลือกลงมาเกิดในช่วงนี้ 
--- ถ้าหากศรัทธาบารมีเต็มฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าเพียงแค่จบเดียวก็จบกิจได้แล้วทำไมไม่เลือกมาเกิด เพราะอะไร
--- การเลือกเกิดในช่วงนี้เป็นช่วงที่เสี่ยงอย่างมากที่จะถูกสิ่งรอบข้างชักนำให้ตกนรก ทำไมไม่เลือกเกิดในช่วงที่มีผู้คนนับถือและศรัทธาพระพุทธศาสนาทั่วทั้งแผ่นดิน ทำไมถึงเลือกเกิดในช่วงนี้
--- หาคำตอบได้ไหม หรือว่าตามใครเขามา มีหน้าที่อะไร

เรื่อง ภัยพิบัติ (ผู้เขียนขอสรุปเนื้อหาเพื่อความกระชับ)
(หลวงพ่อ): ได้กล่าวถึง เรื่องภัยพิบัติ  ให้ทุกคนหมั่นปฏิบัติเอาตัวเองให้รอด เพราะในเวลาอันสั้นนี้ 4 – 5 ปี  จะไม่มีใครช่วยเหลือใครได้  ต้องช่วยเหลือตัวเอง  เพราะจะตายกันมาก

 เรื่อง การวิ่งหาข้อปฏิบัติ(ผู้เขียนขอสรุปเนื้อหาเพื่อความกระชับ)
 (หลวงพ่อ): ได้ชี้แนะไว้ 
--- ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น หลวงพ่อฤาษี...(วัดท่าซุง)ได้ทดสอบได้ปฏิบัติตามการชี้แนะสั่งสอนจากครูบาอาจารย์และพระพุทธเจ้า จึงได้นำผลที่ปฏิบัติมาสอนให้ปฏิบัติ พบปัญหาอะไรในการปฏิบัติมีกล่าวไว้ครบเลือกนำไปฟัง นำไปปฏิบัติ เป็นทางลัดที่ไม่ต้องค้นคว้าให้เสียเวลา
--- ในอดีตหากผู้ปฏิบัติมีกำลังใจเต็ม ต้องการไปนิพพาน จะต้องบำเพ็ญบารมีเวียนไหว้ตายเกิด ใช้ความสามารถของตนเองศึกษาปฏิบัติ 
***ถ้าเป็นสาวกฯต้องใช้เวลา บำเพ็ญบารมี 1 อสงไขยกำไรแสนกัป(เป็นเวลาอย่างน้อย)
***ถ้าเป็นพระปัจเจพุทธเจ้าต้องใช้เวลา 2 เท่าของสาวกฯ คือ บำเพ็ญบารมี 2 อสงไขยกำไรแสนกัป (เป็นเวลาอย่างน้อย)
--- หลวงพ่อฤาษี...(วัดท่าซุง) ได้วางรากฐาน  ติดขัดเรื่องอะไร  ให้เปิดเทปของท่านฟัง  จำไม่ได้ก็เปิดฟังเอา  เป็นทางลัดไม่ต้องมานั่งศึกษาเอง ร่นระยะทางในการบำเพ็ญเพื่อจะได้ไม่ต้องมาเวียนไหว้ตายเกิด

 เรื่อง การแจกธรรมะ(ผู้เขียนขอสรุปเนื้อหาเพื่อความกระชับ)
 (หลวงพ่อ): แจกแผ่นคำสอนของหลวงพ่อไป 100 แผ่น เท่ากับแจกคน 100 คน ถ้ามีเพียง 1 แผ่นหรือ 1 คนเชื่อและนำไปใช้ปฏิบัติ นับว่าได้ประสบความสำเร็จ  อีก 99 แผ่น คนไม่เชื่อไม่ศรัทธา 99 คนอยากตกนรกก็ปล่อยให้ตกไป


วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

216. ใครบ้างที่เข้ามาชมบล๊อก

นำสถิติของบล๊อก นี้ ที่มีคนเข้ามาชมจากทั่วโลกแยกตามประเทศ และช่องทางการใช้เครื่องมือ(เบราว์เซอร์)ที่เข้ามา  และแยกตามโปรแแกรมคอมพิวเตอร์(ระบบปฏิบัติการ) ที่ได้เข้ามา


เป็นสถิติสูงสุด 10 อันดับ(ประเทศ)แรก ประมาณ 17 วันของเดือนพฤษภาคม 2555 มาให้ได้ชม  โดยแยกเป็นสถิติที่เคยเข้ามาดูข้อมูลของบล๊อกสูงสุดจากมากไปหาน้อย

 
         ที่น่าสนใจคือ มีประเทศ เคนยา เข้ามาชมบล๊อกนี้อยู่ในลำดับ 10 กว่าๆ ซึ่งทำให้ทราบว่ามีคนไทยที่สนใจเกี่ยวกับวัตถุมงคลอยู่ในประเทศนี้ที่เข้ามาเยี่ยมชมพอสมควร
         ตลาดพระเครื่องและวัตถุมลคลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ขอยกให้เป็นประเทศสหรัฐอเมริกา  อันดับที่ 3 ประเทศสิงคโปร์  ตามติดๆอันดับที่ 4 ประเทศมาเลเซีย... 
         หากใครสังเกตุสักนิดจะพบตรงตามข้อมูลที่มีผู้เข้ามาเยี่ยมชม เช่น ตลาดพระในเมืองไทยที่ใหญ่ที่สุด มีฝรั่งเดินชมพระกันมากกว่าชาติอื่นยกเว้นพี่ไทย  ตามสถานที่ท่องเที่ยวหากเป็นมัคคุเทศในอดีตที่ผ่านมาจึงได้ค่าน้ำ(เปอร์เซนต์)ส่วนแบ่งจากชาวต่างชาติที่สนใจในวัตถุมงคล จากกลุ่มเหล่านี้เป็นกอบเป็นกำพอสมควร 
         กล่าวได้ว่าข้อมูลของผู้เข้าชมของแต่ละประเทศเป็นสถิติที่น่าสนใจมาก  ทำให้แยกได้ว่าในประเทศใดมีนักนิยมวัตถุมงคล ที่เชื่อถือศรัทธาเพื่อนำเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ อันมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุด

215. ครุฑ หรือ พญาครุฑ

เมื่อหลายวันก่อนผู้เขียนได้พบครุฑ หรือ พญาครุฑซึ่งได้เคยเขียนกล่าวไว้ในกระทู้ที่

171. พญาครุฑ พ.ศ.2399...(คลิก)...

ข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับ   ครุฑ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี...(คลิก)

จึงได้นำภาพมาให้ได้ชื่นชมวัตถุมงคลประเภท ครุฑ หรือ พญาครุฑ ที่เป็นฝีมือการสร้างของช่างสิบหมู่ ในสมัยรัชกาลที่ 3 พ.ศ.2399 และ สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสีอธิษฐานจิต ที่มีรูปร่างกำยำ สวยงาม สมส่วน มาให้ชมอีกครั้งหนึ่ง

พญาครุฑนั้นมีผู้กล่าวไว้ว่า ใครมีไว้บูชาจะก่อเกิด   อำนาจ วาสนา โชคลาภ เงินทอง  เป็นสื่อนำความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน  ครุฑส่งเสริมสงเคราะห์ช่วย จับ จิก ตี จับดวงวิญญาณร้าย สัมภเวสีกินเป็นอาหาร  กันเขี้ยวงาอสรพิษ พญาครุฑผู้เป็นใหญ่ในอสรพิษ จึงเหนือเขียวงาพิษร้ายทั้งปวง 

พญาครุฑ องค์ที่ 2 สร้างสมัย ร.3 พ.ศ.2399 อธิษฐานจิต โดยเจ้าประคุณสมเด็จพูฒาจารย์โต พรหมรังสี


พญาครุฑ องค์ที่ 3 สร้างสมัย ร.3 พ.ศ.2399 อธิษฐานจิต โดยเจ้าประคุณสมเด็จพูฒาจารย์โต พรหมรังสี


พญาครุฑ มีขนาดความกว้างประมาณ 40 เซนติเมตรและสูงประมาณ 30 เซนติเมตร หรือ กว้าง 16 นิ้ว สูง 12 นิ้ว 

แขนซ้ายของ พญาครุฑ

ปีก สีข้าง และหน้าด้านข้างของ พญาครุฑ



ปีก สีข้าง และ อกของ พญาครุฑ


หน้าท้องของ พญาครุฑ


ขาของ พญาครุฑ


จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนพบเห็น ในปัจจุบันครุฑเป็นที่นิยมของนักสะสมและนักบูชาเฉพาะกลุ่ม กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่มีกิจการห้างฯ ร้านฯ เป็นของตนเอง 

ดังนั้นเรื่องเกี่ยวกับพญาครุฑ ผู้เขียนขอแนะนำเป็นครั้งที่ 2 ว่า  ถ้าเปิดบริษัทฯ ค้าขาย ควรมีท่านไว้บูชา  ยิ่งเป็นพญาครุฑที่สร้างโดยกลุ่มช่างสิบหมู่และสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี (วัดระฆัง)อธิษฐานจิต หายากยิ่งนัก  ใครพบใครเห็นไม่เก็บ ย่อมเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง มีเงินมีทองใช่จะซื้อหาได้ จะต้องประกอบด้วย มีบุญ + โชคดี + เฮง + มีความผูกพันธ์

*** ลืมบอกไปเพิ่มอีกสักนิด พญาครุฑหรือครุฑ รูปร่างหน้าตาและพิมพ์แบบที่ผู้เขียนนำมาให้ได้ชื่นชมบารมี ที่วัดบางพระก็มีการสร้างเหมือนกัน มีรายละเอียดเหมือนกันเกินกว่า 90%  

     แต่อายุโลหะและสีผิวต่างกันเยอะ ระวังจะเช่า(ซื้อ)มาผิดวัดผิดสำนักนะครับ

วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

214. ฉัพพรรณรังสี นิพพาน

ไปพบเพลงเกี่ยวกับฉัพพรรณรังสี และเกี่ยวกับเพลงนิพพาน จึงได้นำมาให้ได้ฟังและชมภาพของแสงฉัพพรรณรังสีว่ามีลักษณะเช่นไร


 เพลงแสงทิพย์แสงธรรมนำส่อง...(คลิก)

เพลงนิพพาน แสงทิพย์...(คลิก)

 

เพลง ปลายทางคือพระนิพพาน...(คลิก)

พระคาถาอริยทรัพย์    (คลิก)

จิตทิพย์นิพาน...(คลิก)

นิพพานชาตินี้กันเถอะ

มีเพลงสำหรับนั่งสมาธิ หลากหลายใครชอบก็นำไปเป็นตัวช่วยในการทำกรรมฐานดูครับ 
เพลงสำหรับนั่งสมาธิ...(คลิก)
ดนตรีธรรมชาติเพื่อสมาธิ...(คลิก)
เพลงสำหรับนั่งสมาธิ 1...(คลิก) 
เพลงสำหรับนั่งสมาธิ 3...(คลิก)
เพลงสำหรับนั่งสมาธิ 4...(คลิก) 

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

213. พระปิดตายันต์ยุ่ง เนื้อตะกั่วถ้ำชา พ.ศ.2389

พระสมเด็จเนื้อตะกั่วถ้ำชา ที่อธิษฐานจิตโดยเจ้าประคุณ สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดระฆังมีคนกล่าวถึงมานาน และรู้จักกันเฉพาะกลุ่ม การสร้างพระสมเด็จเนื้อตะกั่วถ้ำขา มีผู้กล่าวไว้ในตำรา(เซียน)ว่า สมเด็จพุฒาจารย์โต ท่านมีฝาใบชาเยอะซึ่งฝาใบชาเป็นตะกั่วท่านจึงนำมาหลอมแล้วเทลงเบ้าพิมพ์พระ สมเด็จมีสองแบบคือพิมพ์ตื้นและพิมพ์หนา  

เมื่อหลายวันก่อนได้รับมอบ พระปิดตายันต์ยุ่ง มาองค์หนึ่งจากญาติธรรมที่เดินทางมาจากจังหวัดเพชรบุรี จากการสอบถามพระเบื้องบน...ทราบในเบื้องต้นว่าเป็นวัตถุมงคลที่เจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต อธิษฐานจิต  

พระปิดตายันต์ยุ่ง ที่อธิษฐานจิตโดย เจ้าประคุณ สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดระฆัง เป็นเนื้อตะกั่วถ้ำชา ที่ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2389 ในสมัย รัชกาลที่ 3 เป็นพระปิดตาที่ไม่มีใครเหมือนและเรียนแบบในยุคนี้ 



2131001
--- พระปิดตายันต์ยุ่ง เนื้อตะกั่วถ้ำชา ที่อธิษฐานจิต โดยสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี แห่งวัดระฆัง 
--- ในปี พ.ศ. 2389 
--- และ หลวงปู่พระเทพโลกอุดรทั้งหมด 5 องค์ร่วมอธิษฐานจิต  
--- ที่พิเศษ คือ ได้บรรจุเหล็กไหลไว้อยู่ด้านในพระปิดตายันต์ยุ่ง

ลักษณะการปิดทวารทั้ง 9
ด้านหน้า
--- มือปิดหน้า  
     *** ดวงตาทั้งสองไม่มองสรรพสิ่งใดๆ(ปิด 2 ทวาร)
     *** จมูกทั้งสองไม่ทำการหายใจ(ปิด 2 ทวาร)
     *** ปากปิดไม่เจรจากับผู้ใด(ปิด 1 ทวาร)
     *** มือปิดพุงยันต์ปิด ทวารเบาไม่ทำการถ่าย(ปิด 1 ทวาร)
รูปด้านหลัง
--- มือปิดก้น ทวารหนักไม่ทำการถ่าย(ปิด 1 ทวาร)
ด้านบ้าง
--- ปิดหู 2 หู หูทั้งสองไม่รับฟังสรรพสำเนียงใดๆ(ปิด 2 ทวาร)

พระปิดตานี้เป็นองค์แทนของ พระควัมปติเถระ เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า นับเนื่องในพระอสีติมหาสาวก 80 องค์สำคัญในพระพุทธศาสนาในสมัยต้นพุทธกาล

พระควัมปติเถระ เป็นพระสงฆ์กลุ่มแรก ๆ ในพระพุทธศาสนา โดยท่านเป็นพระสงฆ์ผู้เป็นสหายของพระยสเถระ เมื่อท่านบวชแล้วได้เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในช่วงต้น พุทธกาล


พระปิดตายันต์ยุ่ง เนื้อตะกั่วถ้ำชา องค์นี้เลี่ยมกรอบพลาสติกเปิดหน้าหลัง  เป็นพระปิดตายันต์ยุ่งที่ผู้เขียนพบเห็นเป็นครั้งแรก และได้รับมอบจากญาติธรรมจังหวัดเพชรบุรีที่เดินทางมาพบผู้เขียนเมื่อวันจันทร์ที่ 7 พ.ค. 2555  


นักสะสมที่ชื่นชอบพระเนื้อตะกั่วถ้ำชา ผู้เขียนขอแนะนำำพระปิดตายันต์ยุ่ง พิมพ์นี้ครับของดีที่มีน้อยและหายาก

พุทธคุณเกี่ยวกับพระปิดตา และเกี่ยวกับเรื่องยันต์ยุ่ง อีกทั้งยังเป็นพระปิดตา...พิมพ์พิเศษที่สมเด็จโตฯ และหลวงปู่พระเทพโลกอุดร 5 องค์ร่วมอธิษฐานจิต ก็คิดกันเอาว่าน่าสนใจและเป็นของดีดังที่ผู้เขียนกล่าวหรือไม่

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

212. พระบูชาเชียงแสน สิงห์ 1 สิงห์ 2 และสิงห์ 3 เป็นรูปเหมือนของใคร

พระเชียงแสน 


สิงห์ 1 
สิงห์ 2 และ
สิงห์ 3 เป็นรูปเหมือนของใคร? "รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม"

เมื่อวันที่ 5/5/2555 ขณะที่นั่งพิจารณา พระบูชาเชียงแสน สิงห์ 1  สิงห์ 2 และ สิงห์ 3 อยู่ดีๆจิตคิดขึ้นมาว่า ท่านเป็นรูปเหมือนของใคร?  ทำไมถึงสร้างรูปร่างและหน้าต่างแตกต่างกัน?

สรุปได้ข้อมูลจากพระเบื้องบน...ที่ได้เมตตาสงเคราะห์ ในอดีตผู้ที่ได้สร้างพระพิมพ์ทั้ง 3 องค์ให้เป็นรูปเหมือนหรือตัวแทน เช่น

พระเชียงแสน สิงห์ 1 เป็นรูปเหมือนหรือองค์แทนของ
พระพุทธเจ้ากกุสันธะ  
พระองค์นี้เป็นพระสิงห์ 1 สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 พ.ศ.2385 และตบแต่งเพิ่มเติมพระเครื่องใส่ใต้ฐานพระฯ เมื่อ พ.ศ.2411
--- ใบหน้าองค์พระพุทธเจ้ากกุสันธะ จะมีใบหน้าลักษณะคล้ายรูปไข่
พระบูชาสิงห์ 1 หน้าตักขนาด 9 นิ้ว


 

พระเชียงแสน สิงห์ 2 เป็นรูปเหมือนหรือองค์แทนของ
พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ 
พระองค์นี้เป็นพระสิงห์ 2 สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 พ.ศ.2385 และตบแต่งเพิ่มเติมพระเครื่องใส่ใต้ฐานพระฯ เมื่อ พ.ศ.2411
 --- ใบหน้าองค์พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ จะมีใบหน้าลักษณะสี่เหลี่ยม
พระบูชาสิงห์ 2 หน้าตักขนาด 9 นิ้ว





พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ หรือ พระเชียงแสน สิงห์ 2 ขนาดหน้าตัก 1 นิ้ว(ห้อยคอ) สร้างในพุทธศตวรรษที่ 18
 


พระเชียงแสน สิงห์ 3 เป็นรูปเหมือนหรือองค์แทนของ
พระพุทธเจ้ากัสสปะ 
พระองค์นี้เป็นพระสิงห์ 3 สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 พ.ศ.2385 และตบแต่งเพิ่มเติมพระเครื่องใส่ใต้ฐานพระฯ เมื่อ พ.ศ.2411
--- หน้าตาองค์พระพุทธเจ้ากัสสปะ จะมีหน้าตางดงามหมดจดคล้ายกับหน้าสตรี
พระบูชาสิงห์ 3 หน้าตักขนาด 9 นิ้ว


พระพุทธเจ้ากัสสปะ หรือ พระเชียงแสน สิงห์ 3 ขนาดหน้าตัก 1 นิ้ว(ห้อยคอ) สร้างในพุทธศตวรรษที่ 18

 

พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระพุทธเจ้าโคตรมะ ขนาดหน้าตัก 1 นิ้ว(ห้อยคอ) สร้างในยุคเชียงแสน พุทธศตวรรษที่ 18

วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

211. มณีนาคราช เพชรนาคา เสด็จทางอากาศเรื่องอจินไตย

มณีนาคราช เพชรนาคา เสด็จทางอากาศเป็นเรื่อง อจินไตย 

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี อจินไตย - วิกิพีเดียอจินไตย แปลว่าสิ่งที่ไม่ควรคิด หมายถึงสิ่งที่ไม่อาจเข้าใจได้ด้วยตรรกะสามัญของปุถุชน มี 4 อย่างได้แก่

  • พุทธวิสัย วิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
  • ฌานวิสัย วิสัยแห่งอิทธิฤทธิ์ของฌาน
  • กรรมวิสัย วิสัยของกฎแห่งกรรม ที่สามารถติดตามไปได้ทุกชาติ รวมถึงการให้ผล และการรับวิบากกรรม
  • โลกวิสัย วิสัยการมีอยู่ของโลก
เป็นเรื่อง เหนือเหตุและผล ยากที่คนทั่วๆไปจะเข้าใจและทำให้เข้าใจได้ง่าย พระพุทธเจ้าได้กล่าวถึงหลักแห่งความเชื่อเป็นเรื่องของ
กาลามสูตร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี กาลามสูตร - วิกิพีเดีย
กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล (เรียกอีกอย่างว่า เกสปุตติยสูตร หรือเกสปุตตสูตร ก็มี) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่
  1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
  2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
  3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
  4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
  5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
  6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
  7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
  8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
  9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
  10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
กาลามสูตร สรุป เป็นเรื่องอยากรู้ต้องศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง หากเกี่ยวกับเรื่องมณีนาคราช เพชรนาคา เสด็จทางอากาศ ของ วัดป่าประชาสามัคคีธรรม อ.บรบือ จ.มหาสารคาม มีผู้กล่าวถึงมากมายมานานหลายปี  ท่านใดที่ไม่สามารถสัมผัสด้วยตนเองเกี่ยวกับเรื่อง อจินไตย


เรื่อง มหัศจรรย์และอจินไตยช่วงกึ่งกลางพุทธกาล

เรื่องที่เขียนเป็นเรื่องของ ปัจจัตตัง คือ เป็นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะตน รวมไปถึงผู้ที่ไม่สัมผัสพลังลี้ลับทั้งหลาย  ผู้เขียนขอแนะนำ  เชิญช่วยกันไปจับผิดสักครั้งแล้วคุณจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร? หรือ ไปสัมผัสเรื่องอจินไตยของแท้จริงหรือไม่ อย่างไร?


แนะนำศึกษาได้จากลิงก์...(คลิก)
มณีนาคราช เพชรนาคา เสด็จทางอากาศเรื่องอจินไตย