วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

73. พระชัยวัฒน์ ตอนที่ 2




พระชัยวัฒน์(พระไชยวัฒน์) ประจำรัชกาล หรือ พระชัยวัฒน์ที่สร้างโดยฝีมือของช่างสิบหมู่ในรัชกาลนั้นๆ


พระชัยวัฒน์องค์เล็ก ประจำรัชกาล ที่สร้างขึ้นโดยช่างหลวงหรือช่างสิบหมู่จะมีน้ำหนักองค์พระมาตราฐานใกล้เคียงกัน ดังนี้
  • พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก ประจำรัชกาลที่ 3 - 4  มีน้ำหนักประมาณ 2 กรัม หรือ มีน้ำหนัก 1  เฟื้อง 
  • พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก ประจำรัชกาลที่ 5 มีน้ำหนักประมาณ 4 กรัม หรือ มีน้ำหนัก 4  เฟื้อง  

มาตราโบราณเทียบมาตราเมตริก
1 บาท
หนัก = 4 สลึง
เทียบเท่ากับ 15.16 กรัม (ทองรูปพรรณ)
1 สลึง
หนัก = 2 เฟื้อง
เทียบเท่ากับ 3.79 กรัม
1 เฟื้อง
หนัก = 4 ไพ
เทียบเท่ากับ 1.90 กรัม



พระชัยวัฒน์องค์เล็ก ประจำรัชกาลที่สร้าง นิยมสร้างประกอบด้วย 2 พิมพ์ คือ
1. พิมพ์ปางมารวิชัย (พระเชียงแสน สิงห์ 1)
2. พิมพ์ปางสมาธิ แยกออกเป็น 2 พิมพ์ คือ  
    2.1 พิมพ์ปางสมาธิ   
    2.2 พิมพ์ปางสมาธิ + น้ำเต้า


โลหะธาตุ
พระชัยวัฒน์องค์เล็ก ประจำรัชกาล โลหะธาตุส่วนผสมที่สร้างตั้งแต่รัชกาลที่ 3 ถึงรัชกาลที่ 5 จะสร้างด้วยเนื้อเนาวโลหะ หรือ เนื้อสัมฤทธิ์ หรือ เนื้อนวโลหะ มีรายละเอียดดังนี้
   1. พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก เนื้อ นวโลหะเปียกทองคำ หรือ ชุบทองคำ
   2. พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก เนื้อ นวโลหะลงรัก(สีดำ)ปิดทองคำเปลวทั้งองค์
   3. พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก สมัยรัชกาลที่ 2 บุแผ่นทองคำบางๆทั้งองค์


เม็ดกริ่งพระชัยวัฒน์องค์เล็ก
พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก สร้างในรัชกาลเดียวกันมีทั้งรุ่นก้นตันและมีบางรุ่นใต้ฐานองค์๋พระฯมีบรรจุดเม็ดกริ่ง อยู่ด้านใน เม็ดกริ่งนี้ เป็น "เหล็กไหล" 


แผ่นปิดก้นฐานพระชัยวัฒน์องค์เล็ก
  • พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 มีแผ่นปิดทองคำ เงิน และนาค
  • พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 มีแผ่นปิดทองคำ และเงิน

รายละเอียดการตบแต่ง
1. พิมพ์มาตราฐาน ขัดเกลาตบแต่งความสวยงาม
2. ก้นฐานบางองค์ ปิดแผ่น ทองคำ  เงิน  นาค  มีทั้งจารและไม่ได้จารอักขระในแต่ละวาระที่สร้างแตกต่างกัน
3. มีบางรัชกาลได้ตอกอักขระยันต์ใต้ฐานพระชัยวัฒน์องค์น้อย


พุทธานุภาพ  ครอบจักรวาล

พุทธลักษณะ องค์พระชัยวัฒน์องค์น้อย ประจำรัชกาล


---พระชัยวัฒน์องค์เล็ก ประจำรัชกาล ที่ 3
  • สร้าง พ.ศ 2370  
  • พิมพ์ปางสมาธิ ออกแบบคล้ายกับพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 3
  • เนื้อนวโลหะ สัมฤทธิ์เดช (สีนาค,แดง-อ่อน) 
  • ก้นตัน 
  • องค์พระฯสูงประมาณ 18.65 มิลลิเมตร
พระชัยวัฒน์องค์เล็ก พิมพ์สมาธิ ฐานพระชัยวัฒน์รุ่นนี้ เรียนแบบฐานพระ 3 ชั้น อิงแบบพิมพ์จากพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 3


---พระชัยวัฒน์องค์เล็ก ประจำรัชกาล ที่ 4
พ.ศ. 2394 สร้างวาระที่ 1
15 พฤษภาคม  พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันนี้เป็นวันวิสาขบูชาด้วย


แบบที่ 1 พิมพ์ปางสมาธิ
  • องค์พระชัยวัฒน์ นวโลหะ เนื้อสัมฤทธิ์เดช(สีนาค) 
  • ก้นเชื่อมประสานด้วยแผ่นปิดก้นทองคำ, ก้นนาค, ก้นเงิน 
  • บรรจุเม็ดกริ่งเหล็กไหล 
  • ความสูงประมาณ 17.75 มิลลิเมตร

พิมพ์ปาง สมาธิ, ก้นทองคำ, จารยันต์พุทธซ้อน 
เม็ดกริ่งเป็นเหล็กไหล - มีทั้งก้นทองคำ, ก้นเงิน, และแบบไม่ได้บรรจุเม็ดกริ่ง, เนื้อนวโลหะกระไหล่ทองคำ(เปียกทอง)
สังเกตุสักนิดจะพบว่า พระกริ่งสมเด็จย่า ได้นำแบบพิมพ์พระชัยวัฒน์ปางสมาธินี้ ไปใช้โดยออกแบบใหม่เพิ่มเติม

แบบที่ 2 พิมพ์ปางมารวิชัย (เชียงแสนสิงห์ 1)
  • องค์พระชัยวัฒน์ นวโลหะ เนื้อสัมฤทธิ์เดช(สีนาค) 
  • ก้นเชื่อมประสานด้วยแผ่นปิดก้นทองคำ, ก้นนาค, ก้นเงิน 
  • บรรจุเม็ดกริ่งเหล็กไหล 
  • ความสูงประมาณ 17.75 มิลลิเมตร
พิมพ์ ปางมารวิชัย, ก้นเงิน, จารยันต์พุทธซ้อน, เนื้อนวโลหะกระไหล่ทองคำ (เปียกทอง)
ก้นทองคำ, จารยันต์พุทธซ้อน
ก้นเงิน, จารยันต์พุทธซ้อน
ก้นนาค, จารยันต์พุทธซ้อน

แบบที่ 3 ก้นตัน ประทับอักขระยันต์ พ.ศ.2399
  • องค์พระชัยวัฒน์ นวโลหะ เนื้อสัมฤทธิ์เดช(สีนาค) 
  • ผิวพระชัยวัฒน์ เปียกทอง (กระไหล่ทอง, ชุบทองคำ)
  • ก้นตัน ประทับอักขระยันต์ มะ อุ อะ

เนื้อนวโลหะ(สีนาค,แดง-อ่อน) กระไหล่ทองคำหรือเปียกทองคำ

ก้นตัน ประทับอักขระยันต์ มะ อุ อะ



พระชัยวัฒน์องค์นี้ เปิดร้านขายอยู่ในเวบฯ พันทิพย์ อ้างว่าเป็นพระชัยวัฒน์หัวไม้ขีด สมเด็จสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ ซึ่งข้อมูลไม่ถูกต้อง อันที่จริงเป็นพระชัยวัฒน์สร้างในสมัย ร.4  
  • องค์พระชัยวัฒน์ นวโลหะ เนื้อสัมฤทธิ์โชค(สีเหลืองอ่อน) 
  • ผิวพระชัยวัฒน์ ลงลักปิดทอง สภาพเดิมๆ
  • ก้นตัน ประทับอักขระยันต์ มะ อุ อะ
  • การหล่อ ด้วยวิธีเป้าพิมพ์ประกบ 2 ด้าน
พระชัยวัฒน์หัวไม้ขีด    ลิงค์อ้างอิง
ก้นตัน ประทับอักขระยันต์  มะ อุ  อะ


พ.ศ. 2404 สร้างวาระที่ 2
10 ธันวาคม - จัดทัพไปรบเชียงตุง มีกรมวงษาธิราชสนิทเป็นแม่ทัพ เพื่อไปช่วยเมืองเชียงรุ่ง
ชื่อพระไชยวัฒน์(ชัยวัฒน์) "เฉลิมพล"


แบบที่ 1 
  • เนื้อนวโลหะ สัมฤทธิ์เดช (สีนาค,แดง-อ่อน) 
  • ก้นตัน ประทับอักษร "เฉลิมพล"
  • องค์พระฯ สูง 16.75 มิลลิเมตร

แบบที่ 2  
  • เนื้อนวโลหะ สัมฤทธิ์เดช (สีนาค,แดง-อ่อน)
  • ก้นบรรจุเม็ดกริ่ง
  • แผ่นปิดก้นเนื้อนาค ก้นบุแผ่นทองคำ
  • จารอักขระยันต์ " อุ "
  • องค์พระสูงประมาณ 16.75 มิลลิเมตร


    พระชัยวัฒน์ "เฉลิมพร" ร.4 เนื้อสัมฤทธิ์เดช(สีนาค) ก้นบรรจุเม็ดกริ่ง, ปิดด้วยแผ่นประกบก้นเนื้อนาค
     

    ฐานพระใต้กรีบบัว บ่งบอกถึงแนวคิดในการออกแบบของช่างสิบหมู่สมัย ร.4 - ร.5

    แผ่นปิดประกบก้นเนื้อนาค, ก้นบุแผ่นทองคำ จารอักขระยันต์ ( อุ )


    แบบที่ 3  
    • เนื้อนวโลหะ สัมฤทธิ์เดช (สีนาค,แดง-อ่อน) 
    • ก้นบรรจุเม็ดกริ่ง
    • แผ่นปิดก้นเนื้อนาค ก้นบุแผ่นทองคำ
    • จารอักขระยันต์ " อุ " 
    • องค์พระเปียกทองคำหรือกระไหล่ทอง(ชุบทองคำ)
    • องค์พระสูงประมาณ 16.75 มิลลิเมตร



    พระชัยวัฒน์องค์เล็ก ประจำรัชกาล ที่ 5 
    สร้างรวม 105 องค์ พิมพ์ที่สร้างจะประกอบด้วยปางสมาธิและปางมารวิชัย(เชียงแสนสิงห์ 1)
     

    พ.ศ. 2427 สร้างวาระที่ 1 จำนวนพิมพ์ปางสมาธิ 2 องค์ และพิมพ์ปางมารวิชัย 2 องค์ รวมเป็น 4 องค์
    ชื่อพระไชยวัฒน์(ชัยวัฒน์).............
    องค์พระชัยวัฒน์สร้างวาระที่ 1 จะมีขนาดที่สร้างโตกว่าในวาระที่ 2 และ 3 นิดหน่อย 

    ขนาดน้ำหนัก 1 สลึง หรือ 2 เฟื้อง ประมาณ 3.79 กรัม

    • องค์พระชัยวัฒน์ นวโลหะ เนื้อสัมฤทธิ์เดช(สีนาค) 
    • ผิวองค์พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก กระไหล่ทอง(ผิวกระไหล่ทองบางเกินไป อากาศที่ทำปฏิกริยากับผิวขององค์พระทำให้กระไหล่ทองเสียหาย)
    • ก้นตัน


    องค์ต้นแบบ 
    พระชัยวัฒน์ พ.ศ. 2427
    องค์ที่ 1 ซ้ายมือ พิมพ์ปางสมาธิ  , องค์์ที่ 2 ขวามือ พิมพ์ปางมารวิชัย
    • องค์พระชัยวัฒน์ต้นแบบ นวโลหะ เนื้อสัมฤทธิ์เดช(สีนาค) 
    • ก้นตัน


    พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ. 2428 
    ชื่อพระไชยวัฒน์(ชัยวัฒน์) "ศิริวัฒน์"
    สร้างวาระที่ 2   ขนาดน้ำหนัก 1 สลึง หรือ 2 เฟื้อง ประมาณ 3.79 กรัม 
    จำนวนการสร้าง: 50 องค์  แบ่งเป็น
                          ปางมารวิชัย จำนวน 25 องค์
                          ปางสมาธิ    จำนวน 25 องค์ 


     แบบที่ 1 พิมพ์ปางมารวิชัย จำนวน 25 องค์

    • องค์พระชัยวัฒน์ นวโลหะ เนื้อสัมฤทธิ์เดช(สีนาค) 
    • ผิวองค์พระกระไหล่ทอง(เปียกทอง,ชุบทองคำ)
    • ก้นตัน
    พระชัยวัฒน์ ปางมารวิชัย ร.5 พ.ศ. 2428 เนื้อสัฤทธิ์เดช (สีนาค) เปียกทอง(ชุบทองคำ), ก้นตัน



    พระชัยวัฒน์องค์เล็กสร้างในวาระ พ.ศ.2428 ก้นตัน

     แบบที่ 2 พิมพ์ปางสมาธิ จำนวน 25 องค์
    พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ. 2428 
    สร้างวาระที่ 2   ขนาดน้ำหนัก 1 สลึง หรือ 2 เฟื้อง ประมาณ 3.79 กรัม
    • องค์พระชัยวัฒน์ นวโลหะ เนื้อสัมฤทธิ์เดช(สีนาค) 
    • ผิวองค์พระกระไหล่ทอง(เปียกทอง,ชุบทองคำ)
    • ก้นตัน
    พระชัยวัฒน์ ปางสมาธิ ร.5 พ.ศ. 2428 เนื้อสัฤทธิ์เดช (สีนาค) เปียกทอง(ชุบทองคำ), ก้นตัน



    พระชัยวัฒน์ องค์เล็ก พ.ศ. 2435
    สร้างวาระที่ 3 ในสมัยรัชกาลที่ 5  จำนวน 26 องค์
      จำนวนการสร้าง: 26 องค์  มีสองลักษณะคือ ปางมารวิชัย และ ปางสมาธิ   
      ขนาดน้ำหนัก: 1 สลึง หรือ 2 เฟื้อง ประมาณ 3.79 กรัม
      ก้นฐาน: บรรจุเม็ดกริ่งเหล็กไหล
      แผ่นปิดฐาน: มี 2 ชนิด คือ เนื้อทองคำ และเนื้อเงิน


    แบบที่ 1 พิมพ์ปางมารวิชัย (เชียงแสน สิงห์ 1)  ผ
    • องค์พระชัยวัฒน์ นวโลหะ เนื้อสัมฤทธิ์เดช(สีนาค) 
    • ก้นบุแผ่นทองคำ 
    • จารอักขระยันต์ มะ อุ อะ 
    • เม็ดกริ่งเหล็กไหล
    ก้นบุแผ่นทองคำ จารอักขระยันต์ มะ อุ อะ



    พิมพ์ปางมารวิชัย                                                                                                                                         
    • องค์พระชัยวัฒน์ นวโลหะ เนื้อสัมฤทธิ์เดช(สีนาค) 
    • ก้นบุแผ่นเงิน
    • จารอักขระยันต์ มะ อุ อะ 
    • เม็ดกริ่งเหล็กไหล
    ก้นบุแผ่นเงิน จารอักขระยันต์ มะ อุ อะ




    พระชัยวัฒน์องค์เล็ก ประจำรัชกาล ที่ 6
    ขนาดน้ำหนัก 1 เฟื้อง หรือ ประมาณ 2 กรัม 


    พระชัยวัฒน์องค์เล็ก ประจำรัชกาลที่ 6   พิมพ์นี้มีหนังสือพระเครื่องฯ และหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย  ต่างเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพระชัยวัฒน์สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5


    กระทู้บทความอ้างอิงที่เกี่ยวข้อง
    70. มีพระกริ่งปวเรศเหตุไฉนจะไม่มีพระชัยวัฒน์หรือพระไชยวัฒน์

    72. พระชัยวัฒน์ ตอนที่ 1



    วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2554

    72. พระชัยวัฒน์ ตอนที่ 1

    พระ ชัยวัฒน์ หรือ พระชัย หรือ พระไชย ได้มีปรากฏ ในพระราชพงศาวดารสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่ในรัชสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า ว่าเป็นตำรับการสร้างของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ( และ สมเด็จ ฯ ท่านยังเป็นผู้รจนาพระคาถาพาหุงมหากา ถวาย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ได้ทรงสวดสาธยายเป็นประจำ จนมีชัยชนะในการศึกมาตลอด ) โดยมีนัยยะ ว่า " ปราบมาร ได้ชัยชนะ " ด้วยแต่เดิมมีความมุ่งหมายที่จะอัญเชิญ ไปในการเสด็จออกพระราชสงคราม ก็ได้มีการอัญเชิญให้ประดิษฐานทั้งทางเรือ และบนหลังช้าง ในยามที่ กองทัพออกศึกสงคราม

    ต่อ มาจึงมีการอัญเชิญพระชัยวัฒน์ มาในงานพระราชพิธีต่าง ๆ เช่น พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา พระราชพิธีโสกันต์ 

    ในสมัยรัตนโกสินทร์ จึงได้มีการสร้างพระชัยประจำรัชกาลต่าง ๆ และได้มีการอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ในพระบรมมหาราชวัง

    พระ ชัยวัฒน์ที่สร้างกันในยุคหลัง  ส่วนใหญ่จะนิยมสร้างให้มีขนาดเล็กกว่าพระกริ่ง  เพื่อให้ผู้หญิง และ เด็ก ได้ห้อยบูชาได้ อีกประการหนึ่งก็เพื่อเป็นนัยยะแห่งชัยชนะ เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจแก่ผู้บูชา
    และในยุคนี้(พ.ศ.2554) นิยมสร้างคู่กันกับพระกริ่ง
    พระชัยวัฒน์ เริ่มใช้คำนามนี้ในสมัยรัชกาลที่ 7

    ในสมัยก่อนหน้ารัชกาลที่ 7 ใช้คำนามเรียกว่า พระไชยวัฒน์  มักนิยมเรียกสั้นๆ เช่น พระไชยทอง พระไชยเงิน  พระไชยเนาวโลห

    พระไชยเนาวโลหะ คือ พระอะไร?  ก่อนสมัยรัชกาลที่ 7 จะเรียกว่าพระไชยเนาวโลหะ  ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 สืบๆมาจนถึงปัจจุบัน เรียกว่า พระชัยนวโลหะ ซึ่งก็คือ พระชัยวัฒน์เนื้อนวโลหะหรือเนื้อสัมฤทธิ์

    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลเป็นพระบูชาของพระมหากษัตริย์ไทยประจำรัชกาล ใช้เพื่อประกอบพิธีกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับพิธีกรรมที่ต้องใช้พระพุทธรูป ขนาดหน้าตักในแต่ละรัชกาลมีขนาดแตกต่างกัน

    พระชัยวัฒน์องค์เล็ก  จะมีขนาดประมาณความสูง 1 เซนติเมตร(ไม่รวมฐาน)  ส่วนใหญ่ที่สร้างพระมหากษัตริย์มอบให้กับเชื้อพระวงศ์ และข้าราชการในสมัย ร.3, ร.4 และ ร.5  และสร้างเพื่อใช้ในการประกอบพิธีฯ มีทั้งเนื้อทองคำ เนื้อนวโลหะกะไหล่ทอง(เปียกทอง, ชุบทอง) ประกอบด้วยก้นทองคำ  ก้นเงิน  ก้นนาค ก้นธรรมดา และมีทั้งประเภทมีกริ่งบรรจุอยู่ภายในและแบบไม่มีกริ่ง  มีทั้งจารก้นและไม่ได้จารก้น 

    พระยอดธง เป็นพระชัยวัฒน์องค์เล็กมีทั้งแบบช่อเดือยไม่ได้ตัดออก  และแบบไม่มีช่อเดือยซึ่งก็คือพระชัยวัฒน์นั้นเอง เช่นในสมัยรัชกาลที่ 4 เรียกพระยอดธง "เฉลิมพล" อันเป็นชื่อของ ธงชัยเฉลิมพล ในปัจจุบัน  พระยอดธงแบบหุ้นทองคำก็มี

    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล

    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 1
    พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
    พระชัยวัฒน์                                 พระชัยหลังช้าง



    ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 1  มีพระชัย(พระไชย)อยู่สององค์ องค์หนึ่งมีขนาดเล็กเรียกว่า พระชัยหลังช้าง อีกองค์หนึ่งมีขนาดใหญ่ เรียกว่า พระชัยประจำรัชกาล หรือ พระชัยใหญ่ องค์พระทำด้วยเงิน ฐานเป็นทองทั้งสององค์    

    จากหลักฐานพบว่า ได้มีการหล่อพระชัยสององค์เมื่อปี พ.ศ. 2325 เมื่อจะทำพระราชพิธีปราบดาภิเษก ขนาดหน้าตักกว้าง 21 เซนติเมตร สูงถึงยอดรัศมี 32 เซนติเมตร สูงถึงยอดฉัตร 88 เซนติเมตร เมื่อครั้งที่พม่ายกทัพเข้ามาจะตีพระนคร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้เสด็จทางเรือพระที่นั่งบัลลังก์บุษบกพิศาล พระที่นั่งพิมานเมืองอินทร ทรงพระชัยนำเสด็จ


    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 2

    พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
    พระชัยวัฒน์ ประจำรัชกาลที่ 2


    พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ได้ทรงสร้างพระชัยประจำรัชกาลขึ้นอีกองค์หนึ่ง มีขนาดใกล้เคียงกันพระชัยในรัชกาลที่ 1 ผิดกันที่องค์พระและฐานเป็นทองทั้งหมด

    แต่ไม่ทันได้ใช้ คงใช้พระชัยในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เพราะพระองค์มาสร้างพระชัยตอนปลายรัชกาล

    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 3

    พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
    พระชัยวัฒน์ ประจำรัชกาลที่ 3
    พระชัยประจำรัชกาล มีขนาดเล็กลงมาก คือ หน้าตักกว้าง 12 เซนติเมตร สูงถึงยอดรัศมี 18 เซนติเมตร สูงถึงยอดฉัตร 57 เซนติเมตร และทำผ้าพิเศษขึ้นเป็นทองลงยา เข้าใจว่าไม่ได้สร้างใหญ่ แต่เลือกพระชัยของเก่ามาซ่อมแซม เพราะพบว่ามีพระชัยขนาดเดียวกันนี้อยู่มาก ในหอพระสุราลัยพิมาน ทำด้วยเงินก็มี ทองก็มี และไม้ก็มี

    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 4
    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
    พระชัยวัฒน์ ประจำ ร.4                            พระชัยเนาวโลหะ(พระชัยนวโลหะเนื้อสัมฤทธิ์เหลือง)

    ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระองค์ ได้อัญเชิญพระชัยมาตั้งรวม 6 องค์ ร่วมกับพระพุทธรูป พระนามอื่นอีก 6 องค์ รวมเป็น 12 องค์ พระชัย(พระไชย)ทั้ง 6 องค์ได้แก่ 
    1. พระปฏิมาไชย 
    2. พระไชยทอง หรือ พระชัยวัฒน์กะไหล่ทอง(เปียกทอง, ชุบทอง)
    3. พระไชยเงิน  
    4. พระไชยนวโลหะ 
    5. พระไชยผ้าห่มลงยาราชาวดี 
    6. และพระไชยพิธี
     
    พระไชยประจำประองค์ในรัชกาลที่ 4 มีขนาดเล็กกว่าในรัชกาลที่ 3 เป็นทองทั้งองค์พระและฐาน หน้าตักกว้าง 10 เซนติเมตร สูงถึงยอดรัศมี 17 เซนติเมตร สูงถึงยอดฉัตร 70 เซนติเมตร

    นอกจากนั้นพระองค์ยังได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง พระชัยวัฒน์ทองเนาวโลหะองค์เล็ก เมื่อปี พ.ศ. 2396 เพื่ออัญเชิญไปในกระบวนเสด็จพระราชดำเนินประทับแรม นอกพระนคร และตั้งในการพระราชพิธีต่าง ๆ

    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 5
     
    พระชัยวัฒน์ประจำ ร.5                                 พระชัยเนาวโลหะ
    ในสมัย ร.5 พระองค์ทรงสร้างพระชัยขึ้นอีกองค์หนึ่ง เอาแบบอย่างพระชัยในรัชกาลที่ 4 มีขนาดเล็ก ใกล้เคียงกับ พระชัยในรัชกาลที่ 1 และที่ 2 คือ หน้าตัก 8 นิ้ว สูงถึงยอด รัศมี 28 เซนติเมตร สูงถึงยอดฉัตร 84 เซนติเมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2412 โดยตั้งโรงพระราชพิธีฯที่หน้าพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม 
    การหล่อพระชัยวัฒน์องค์เล็กครั้งที่ 1 เหมือนกับพระชัยวัฒน์ทองคำองค์เล็กครั้งที่ 2 โตกว่าหน่อยหนึ่ง  ได้หล่อในครั้งนั้น 4 องค์  โปรดพระราชทานให้กับ
    - พระองค์เจ้า สวัสดิโสภณไป 1 องค์ในการเสด็จไปยุโรป

    การหล่อพระชัยวัฒน์องค์เล็กครั้งที่ 2
    มีชื่อเรียกว่า พระชัยวัฒนมงคลวราภรณ์ (พระชัยศิริวัฒน์) เป็นพระชัยวัฒน์ขนาดเล็กที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2428 (ค.ศ. 1885)
    ในปี พ.ศ. 2428 (ร.ศ.104)  ได้มีการหล่อพระชัยวัฒน์องค์เล็กเนื้อทองคำขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 
         ครั้งที่ 2 เริ่มพิธีวันเสาร์ เดือนแปดขึ้นเก้า ถึงจันทร์ เดือนแปดแรม 3 ค่ำ ในการสร้างครั้งนี้ ทรงโปรดพระกรุณาโปรดให้พระเจ้าลูกเธอ 4 พระองค์ เสด็จออกไปเรียนวิชาในเมืองอังกฤษ เพื่อเป็นเครื่องบูชาในเวลาที่จากประเทศสยามไปช้านาน  ครั้นจะโปรดเกล้า พระราชทานพระพุทธรูปหรือสิ่งใดที่มีอยู่แล้วในหอหลวง ก็ล้วนแต่เป็นของใหญ่โตเป็นการนำไปมาลำบากทุกสิ่งทุกอย่าง  จึงทรงพระราชดำริห์ที่จะหล่อพระพุทธรูป ที่เรียกว่าพระชัยวัฒน์ทองคำหนัก 1 เฟื้อง
         จำนวนในการหล่อครั้งนี้ 50 องค์ และทรงโปรดให้สร้างตลับพระไชยด้วยทองคำลงยา   ตลับทำรูปคล้ายดวงตราปทุมอุณาโลม ประจำแผ่นดินพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ตลับนี้ตรงกลางเป็นแก้วปล่าวไม่มีอุณาโลม และมีสร้อยสวมต่อด้วย
    พระราชทานครั้งที่ 1 ในจำนวน 50 องค์ที่สร้าง วันอังคารเดือน 8 แรม 4 ค่ำ พ.ศ.2428
    1. พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์
    2. พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์
    3.พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม
    4.พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช


    พระราชทานครั้งที่ 2 ในจำนวน 50 องค์ที่สร้าง วันพฤหัสบดี เดือน 8  แรมสิบสามค่ำ พ.ศ.2428
    โปรดเกล้าให้ส่งพระชัยวัฒน์ทองคำองค์เล็กออกไปพระราชทานที่ลอนดอน
    1. พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนเรศวรฤทธิ์
    2. พระเจ้าน้องยาเธอ องค์เจ้าโสณบัณฑิตย์


    พระราชทาน พ.ศ.2434 ในวันที่ 24 กันยายน
    โปรดเกล้าพระราชทานพระชัยวัฒน์ทองคำองค์เล็ก
    1. พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้า วัฒนานุวงษ์
    2. พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าไขยันตมงคล


    พระราชทาน พ.ศ.2435 ในวันที่ 25 กันยายน รศ. 111
    โปรดเกล้าพระราชทานพระชัยวัฒน์ทองคำองค์เล็กในพิธีแต่งตั้งองค์มนตรีทั้งหมด 12 องค์


    การหล่อพระชัยวัฒน์องค์เล็กครั้งที่ 3
    ในปี พ.ศ. 2436 (ร.ศ.112) เริ่มพิธีวันที่ 19 - 23 สิงหาคม พระองค์ได้ทรงหล่อในวันที่ 23 สิงหาคม 
    1. พระชัยเนาวโลหะองค์ใหญ่ 1 องค์ 
    2. พร้อมด้วย พระชัยเนาวโลหะองค์เล็กอีก 1 องค์  พระชัยเนาวโลหะหล่อในพิธีอีก 25 องค์ รวมเป็น 26 องค์ ที่วัดนิเวศธรรมประวัติ
    พระราชทานครั้งที่ 1 ของพระชัยวัฒน์เนื้อนวโลหะจำนวน 25 องค์ พระราชทานใน พ.ศ. 2436 ให้กับ
    - สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ(ร.6)
    - พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าอาภรกรเกียรติวงษ์
    - พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้า สวัสดิโสภณ (ได้รับครั้งที่ 1 และครั้งที่ 3 รวม 2 รุ่นอย่างละองค์)
    เนื่่องในการเสด็จไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ

    พระราชทาน พ.ศ.2440 ในวันที่ 9 พฤษภาคม รศ.116 โปรดเกล้าพระราชทานพระชัยวัฒน์ทองคำองค์เล็ก 2 องค์

    พระราชทาน พ.ศ.2441 ในวันที่ 7 เมษายน รศ.117 โปรดเกล้าพระราชทานพระชัยวัฒน์ทองคำองค์เล็ก 1 องค์

    พระราชทาน พ.ศ.2442 ในวันที่ 25 สิงหาคม รศ.118 โปรดเกล้าพระราชทานพระชัยวัฒน์ทองคำองค์เล็ก 1 องค์

    พระราชทาน พ.ศ.2443 รศ.119
    ในวันที่ 29 เมษายน โปรดเกล้าพระราชทานพระชัยวัฒน์ทองคำองค์เล็ก 1 องค์
    ในวันที่ 22 กันยายนโปรดเกล้าพระราชทานพระชัยวัฒน์ทองคำองค์เล็ก 2 องค์


    ผู้ที่จะได้รับพระราชทานพระชัยวัฒน์องค์เล็ก รัชกาลที่ 5 ทรงดำริห์ว่า มี 3 ข้อดังนี้
    1. เป็นผู้มีความเชื่อถือเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาโดยมั่นคง
    2. เป็นผู้มีความรักใคร่ต่อบ้านเมือง และวงษ์ตระกูลของตน
    3. เป็นผู้มีความกตัญญซื่อสัตย์จงรักภัคดี ต่อพระองค์

    หมายเหตุ
    ---จากข้อมูลบันทึกที่พบ มีทั้งที่กล่าวถึงการหล่อพระชัยวัฒน์องค์เล็กทองคำ และพระชัยวัฒน์เนาวโลหะ  ความเป็นไปได้ พระชัยวัฒน์องค์เล็กในสมัยรัชกาลที่ 4 ที่พบเป็นพระชัยวัฒน์นวโลหะชุบทอง(เปียกทอง) ดังนั้นในสมัย ร.5 ที่สร้างพระชัยวัฒน์เนาวโลหะ(นวโลหะ)ก็อาจจะมีการสร้างในลักษณะเปียกทองได้เช่นกัน
    ---พระชัยวัฒน์องค์เล็กที่สร้างในสมัย ร.5 จากบันทึกในการสร้าง 3 ครั้ง มีจำนวน 80 องค์


    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 6  
    พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
    พระชัยวัฒน์ ประจำรัชกาลที่ 6
    รัชกาลที่ 6 พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ สร้างพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล เมื่อปี พ.ศ. 2453 (ร.ศ.129) มีขนาดหน้าตักกว้าง 19 เซนติเมตร สูงถึงยอดรัศมี 30 เซนติเมตร สูงถึงยอดฉัตร 87 เซนติเมตร พระราชพิธีหล่อพระชัยวัฒน์ครั้งนี้ มีทั้งพิธี ทางศาสนาพุทธ และพิธีทางศาสนาพราหมณ์   พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลองค์นี้ มียันต์เช่นเดียวกับ พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 4 และที่ 5 ยันต์ดังกล่าว เป็นยันต์อริยสัจ

    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 7
    พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

    พระชัยวัฒน์ ประจำรัชกาลที่ 7
    รัชกาลที่ 7 พระองค์ได้โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล เมื่อปี พ.ศ. 2468 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีขนาดหน้าตัก 17 เซนติเมตร (เท่ากำลังพระพุธ ซึ่งเป็นวันประสูติ) สูงถึงพระรัศมี 27 เซนติเมตร สูงถึงยอดฉัตร 82 เซนติเมตร จึงมีขนาดใกล้เคียงกับพระชัยวัฒน์ในรัชกาลที่ 5 แต่องค์พระเป็นเงินแบบรัชกาลที่ 1 พุทธลักษณะแบบผสม   พระราชพิธีหล่อพระชัยวัฒน์ ครั้งนี้มีทั้งพิธีทางศาสนาพุทธ และพิธีทางศาสนาพราหมณ์ เสร็จแล้วได้อัญเชิญ พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาล ที่ทรงหล่อใหม่ ไปประดิษฐานในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

    พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 8
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
    ในรัชสมัยของพระองค์ ไม่มีพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาล อาจจะเป็นด้วยเวลาไม่ให้ เมื่อมีงานพระราชพิธีก็ใช้ พระชัยวัฒน์รัชกาลที่ 5 แทน

     พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ 9
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
    พระชัยวัฒน์ ประจำรัชกาลที่ 9
      
    เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร ภายใต้ฉัตร 5 ชั้น หน้าตักกว้าง 7 นิ้ว ความสูงยอดพระรัศมี 9 นิ้ว ทรงพัดแฉก หล่อด้วยเงิน สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2506 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีพระราชพิธี โดยย่อดังนี้
     
    วัน อังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2506 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และพระพุทธรูปฉลองพระองค์แล้ว ทรงจุดธูปเทียนมนัสการทรงศีล สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะรวม 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ถวายน้ำเทพมนต์

    วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2506 เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงประเคนผ้าไตรแด่พระสงฆ์ ทรงจุดเทียนทอง และถวายเทียนทองแด่สมเด็จพระสังฆราช ได้เวลาพระฤกษ์โหรลั่นฆ้องชัย สมเด็จพระสัฆราชจุดเทียนชัย ชาวประโคม ประโคมสังข์แตร บัณเฑาะว์และดุริยางค์ พระราชาคณะอีก 29 รูปเจริญคาถาจุดเทียนชัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชาธรรมที่เตียง พระสงฆ์สวดภาณวาร

    กระทู้บทความอ้างอิงที่เกี่ยวข้อง
    70. มีพระกริ่งปวเรศเหตุไฉนจะไม่มีพระชัยวัฒน์หรือพระไชยวัฒน์
    73. พระชัยวัฒน์ ตอนที่ 2