วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

170. เหล็กไหลดูดทรัพย์

เหล็กไหลที่ผู้เขียนได้กล่าวไ้ว้ในก่อนหน้านี้มีข้อมูลด้วยกันหลายกระทู้  เมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติมจะเขียนเพิ่มอีกครั้งหนึ่ง
     เหล็กไหลของสายวังที่หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) อธิษฐานจิตปลุกเสกมีมากมาย เช่น เหล็กไหลสร้างในลักษณะเม็ดประคำ  ร้อยเป็นสร้อยประคำ ใส่ในองค์พระ ทำเป็นเม็ดกริ่ง  ทำเป็นองค์พระ...ขนาดห้อยบูชาหลากหลายพิมพ์  ที่ผู้เขียนพบเห็นนับได้ว่ามากจริงๆ รวมระยะเวลาการสร้างหลายปีหลายวาระ  ผู้คนที่พบเห็นทั่วๆไป  เกือบ 100% ไม่เชื่อว่าเป็นเหล็กไหล  คนที่มีตาที่ 3 เมื่อพบเห็นสัมผัสต่างเก็บเอาไว้ในครอบครองแบ่งปันในกลุ่มของตน  

     นานเกือบ 30 ปี  ผู้เขียนจึงได้พบและบุคคลที่ครอบครองจากการนำออกมาจากวัดพระแก้ว(วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) ที่เสียชีวิตต่างเป็นที่น่าเวทนาอย่างมาก เกือบทุกคนตกนรกอเวจี ผู้ที่ตกไปแล้วพอมีบุญอยู่บ้างเมื่อได้รับการสงเคราะห์ด้วยอนิสงค์ของบุญเก่าที่ได้สร้างไว้  ส่วนใหญ่จะไปเกิดเป็นเทวดา  ส่วนผู้ที่มีบุญน้อยมากๆยังคงต้องรับผลกรรมที่ตนเองได้กระทำขึ้น   

     ผู้ที่ได้รับซื้อต่อกันมาเป็นทอดๆ  คนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะรู้ว่าเป็นของวัดพระแก้ว...เมื่อได้รับมาเก็บไว้นานเกือบ 30 ปี  คนรุ่นแรกที่ได้มาส่วนใหญ่จะตายหมด  มีส่วนน้อยที่ยังมีชีวิต  และคนที่สืบทอดสมบัติต่อได้ครอบครองสมบัติของที่ออกมาจากวัดพระแก้ว  ยังมีของที่ออกมาจากวัดพระแก้วจำนวนมาก  เมื่อมีผู้สอบถามต้องการจึงได้ระบายออกมาเป็นระยะๆ


     เหล็กไหลที่พบมีที่โดดเด่นที่พบในจำนวนที่มาก คือ เหล็กไหลดูดทรัพย์ ดูดสิ่งที่เป็นสิริมงคล  โชคลาภ  วาสนา  เงินทอง  บุญบารมีเก่า  ฯลฯ  เหล็กไหลดูดทรัพย์โบราณได้เคยกล่าวไว้ในตำราแต่คนในยุคปัจจุบันไม่รู้จัก  ซึ่งก็คือเหล็กไหลไพลดำที่ผู้เขียนเคยกล่าวมาก่อนหน้านี้  มีลักษณะการดูดคล้ายแม่เหล็ก


     การสร้างเป็นเม็ดประคำ หรือ รูปทรงขององค์พระ... หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)ท่านได้ใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุ ขอเทวดา รวมทั้งผู้ดูแลรักษาเหล็กไหล ให้ช่วยเหลือมาร่วมสร้างบุญบารมีกับพระพุทธศาสนา  เพื่ออนาคตผู้ที่มีบุญ...ได้รับการสงเคราะห์จากเหล็กไหลที่ได้สร้างขึ้น


     เหล็กไหลที่ได้มอบจากเทวดา รวมทั้งผู้ที่ดูแลรักษาเหล็กไหลได้ให้เหล็กไหลเสด็จมารวมตัวกัน  ช่างสิบหมู่เป็นผู้สร้างหุ่นเทียนขึ้น  หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ท่านใช้วิชา กสิณไฟ (เตโชกสิณ) ด้วยพลังบารมีของหลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ทำให้เหล็กไหลหลอมตัวอยู่ในหุ่นเทียนขี้ผึ้ง และกำหนดจิตให้แข็งตัว อีกทั้งกำกับและอธิษฐานจิตให้มีพลังพุทธานุภาพในการอธิษฐาน


     สร้อยประคำผู้เขียนได้กล่าวและนำรูปมาลงไว้หลายกระทู้  ขอสรุปสั้นๆ ดังนี้  เหล็กไหลจะประกอบด้วย 3 ลักษณะใหญ่ๆ คือ
     1. เหล็กไหลมีลักษณะเป็นเหมือนแม่เหล็ก  ดูดเหล็กติด และดูดเหล็กไหลที่มีลักษณะเหมือนกันติด  แบบนี้เรียกว่า เหล็กไหลดูดทรัพย์ เด่นทางด้านดูดทรัพย์สินเงินทอง โชคลาภ วาสนา ดูดบารมีเก่า ดูสิ่งที่เป็นมงคลฯลฯ  เหล็กไหลดูดทรัพย์จึงเป็นเหล็กไหลที่เหมาะสมที่สุดในการมีไว้ครอบครอง

รูปที่ 1 เหล็กไหลดูดทรัพย์

     2. เหล็กไหลมีลักษณะไม่เป็นแม่เหล็ก  ดูดเหล็กไม่ติด  และไม่ดูดเหล็กไหลที่มีลักษณะเหมือนกันไม่ติด  แต่ที่พิเศษคือ ยอมให้ไหลไหลที่มีลักษณะเหมือนแม่เหล็กดูดติดได้  เหล็กไหลประเภทนี้เรียกว่า เหล็กไหลไพลดำ  เหล็กไหลชนิดนี้มีสร้างในยุคของ หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) มีพุทธคุณด้อยกว่าเหล็กไหลดูดทรัพย์  เนื่องจากแรงดูดต่างกัน


รูปที่ 2 เหล็กไหลไพลดำ ประเภทยอมให้แม่เหล็กดูดติดได้ เช่น สร้อยประคำเหล็กไหลสร้างปี พ.ศ.2411 มีลักษณะไม่ดูดติด ยกเว้นในวงสีขาวเป็นเหล็กไหลดูดทรัพย์มีลักษณะเป็นคล้ายแม่เหล็ก สร้างในสมัย ร.5 อธิษฐานจิตโดยหลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)
 

         หากเป็นเหล็กไหลไพลดำ ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 พุทธคุณจะเน้นการใช้เพื่อการปกป้องและคุ้มครอง  ที่โดดเด่น คือ การใช้เพื่อเรียนวิชากสิณไฟ (เตโชกสิณ) 
รูปที่ 3 เหล็กไหลไพลดำ ประเภทยอมให้แม่เหล็กดูดติดได้ สร้างในยุค ร.6 
     3. เหล็กไหลมีลักษณะไม่เป็นแม่เหล็ก  และแม่เหล็กไม่สามารถดูดติดได้  พระเครื่องหรือวัตถุมงคลต่างๆของสายวัง ที่หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)ไม่นิยมนำมาสร้าง 


วัตถุมงคลที่นำเหล็กไหลมาสร้างลักษณะรูปทรงลูกลักบี้  
     ด้านหน้ามีรูปเหมือน หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)   พระสิวลี  และพระชุดเบญจภาคี ฯลฯ  ที่ผู้เขียนพบสร้างด้วยเหล็กไหลดูดทรัพย์เกือบทั้งหมด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุมงคลที่เซียนพระมองข้าม  แต่กลุ่มผู้มีตาที่ 3 เก็บกวาดเรียบถ้าหากพบเห็น  ผู้เขียนได้พบมาจำนวนหนึ่ง  และเก็บมอบให้กับผู้ที่เชื่อและศรัทธาไปมากกว่าครึ่ง เช่น


เหล็กไหลดูดทรัพย์ รูปเหมือน พระสิวลี ทรงลักบี้ สร้างอธิษฐานจิตโดย หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ในปี พ.ศ.2404

  
รูปที่ 4 เหล็กไหลดูดทรัพย์ พระสิวลี ทรงลักบี้(ปิดทองคำเปลว)
 
 เผยให้เห็น เหล็กไหลดูดทรัพย์มีเนื้อสีดำมันวาว  และรูปเหมือนพระสิวลีเป็นเนื้อผงนำมาประกบติดกับเหล็กไหลดูดทรัพย์  เด่นทางด้าน ดูดทรัพย์  ทางด้านทรัพย์สิน โชคลาภ วาสนา บุญบารมี ฯลฯ

*** ขอเตือนผู้ครอบครองรับมาจากตลาด เหล็กไหลดังรูปที่ 4 นี้  ผู้ครอบครองเดิม  หวงและได้ลง ของอัปมงคลไว้ คือ จิตของวิญญาน และตะปู  เพื่อเป็นการ "ลองของ" ผู้ที่ได้พบว่ามีวิชา และสามารถแก้ได้หรือไม่  ถ้าแก้ได้เขาก็ให้ไป  แต่เขาไม่ได้มุ่งหวังชีวิต  เนื่องจากมีผู้ตามหาเหล็กไหลมาก  ผู้ครอบครองเขาแบ่งให้แต่สร้างเื่งื่อนไขเอาไว้
     ดังนั้นผู้ที่ได้เก็บมาจากตลาด  ผู้เขียนขอเตือน  ให้หาผู้รู้ช่วยแก้ไขให้  แต่ถ้าท่านใดได้รับจากผู้เขียนไป  "สบายใจได้" เพราะพระเบื้องบน...ท่านเมตตาสงเคราะห์ปัดเป่าให้เรียบร้อย  เหลือแต่สิ่งดีๆดังเช่น เมื่อครั้งที่ หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) อธิษฐานจิตในปี พ.ศ.2404
     ผู้เขียนขอกล่าวขอบคุณท่านผู้ครอบครองเดิมที่มีเมตตาสงเคราะห์  แบ่งปันสมบัติที่ท่านครอบครองให้ผู้ที่มีบุญวาสนาได้ครอบครอง ขอโมทนาบุญด้วยทุกประการ



เหล็กไหลดูดทรัพย์ รูปเหมือน หลวงพ่อ สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)   ทรงลักบี้สร้างอธิษฐานจิตโดย หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ในปี พ.ศ.2404

รูปที่ 5 เหล็กไหลดูดทรัพย์ รูปเหมือน หลวงพ่อ สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ทรงลักบี้(ปิดทองคำเปลว)

เหล็กไหลดูดทรัพย์ ชุด เบญจภาคี ทรงลักบี้สร้างอธิษฐานจิตโดย หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ในปี พ.ศ.2404
ประกอบด้วย พิมพ์
     พระสมเด็จวัดระฆัง ที่สร้างโดย ท่านเจ้าพระคุณ หลวงพ่อ สมเด็จพุฒาจารย์(โต)พฺรหฺมรังษี เป็นตัวแทนยุค รัตนโกสินทร์
     พระรอด กรุวัดมหาวัน จังหวัดลำพูน เป็นตัวแทนยุค ลพบุรี
     พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นตัวแทนยุค อู่ทอง-สุพรรณภูมิ
     พระซุ้มกอ จังหวัดกำแพงเพชรเป็นตัวแทนยุค สุโขทัย
     พระนางพญา กรุวัดนางพญา จังหวัด พิษณุโลก เป็นตัวแทนยุค อยุธยา-พระพิษณุโลกสองแคว
         พระทั้ง 5 พิมพ์นี้จะเป็นเนื้อมวลสารพิเศษที่ยึดติดกับเหล็กไหลดูดทรัพย์ทรงลักบี้
         
         พระพิมพ์ที่ท่านเจ้าพระคุณ หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) อธิษฐานจิต  มีมากมายหลากหลายทรงพิมพ์และชุดเบญจภาคี ในสมัย ที่หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) มีชีวิตอยู่นั้น  ไม่มีใครรู้จักคำว่าชุดเบญจภาคีพระเครื่องชุดดังของวงการในยุคนี้  แต่ในปี พ.ศ.2404 พระพิมพ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นก่อนหน้าที่จะมีผู้บัญญัติเกิดขึ้น
         
         เซียนตำราเขากล่าวว่า สุดยอดพระเครื่องของเมืองไทยเป็นที่นิยมมาไ่ม่ต่ำกว่า 50 ปี และครองความนิยมและสุดยอดปรารถนา ของเหล่านักเลงพรชุดเบญจภาคี อันประกอบด้วยพระ 5 องค์ เป็นที่สุดยอดของแต่ละยุคสมัย และเป็นสุดยอดของพุทธคุณ ผู้ใดได้ครอบครองเป็นเจ้าของ ย่อมเชื่อได้ว่า คนผู้นั้นเปี่ยมด้วยวาสนา บารมี ราคาเช่าหามีมูลค่าสูงมากถือว่าเป็นอันดับหนึ่ง  ใครมีไว้มักจะหวงแหนมาก  จะขอชมยาก กลัวถูกโจรกรรม  จึงไม่ไม่ให้ใครชม  







เหล็กไหลดูดทรัพย์ พระสมเด็จวัดระฆัง ทรงลักบี้ สร้างอธิษฐานจิตโดย หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ในปี พ.ศ.2404

รูปที่ 6 เหล็กไหลดูดทรัพย์ พระสมเด็จวัดระฆัง ทรงลักบี้ (ปิดทองคำเปลว)


เหล็กไหลดูดทรัพย์ พระรอด ทรงลักบี้ สร้างอธิษฐานจิตโดย หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ในปี พ.ศ.2404

รูปที่ 7 เหล็กไหลดูดทรัพย์ พระรอด ทรงลักบี้ (ปิดทองคำเปลว)
 

เหล็กไหลดูดทรัพย์ พระผงสุพรรณ์ ทรงลักบี้ สร้างอธิษฐานจิตโดย หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ในปี พ.ศ.2404

รูปที่ 8 เหล็กไหลดูดทรัพย์ พระผงสุพรรณ์ ทรงลักบี้ (ปิดทองคำเปลว)
 

เหล็กไหลดูดทรัพย์ พระซุ้มกอ ทรงลักบี้ สร้างอธิษฐานจิตโดย หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ในปี พ.ศ.2404

รูปที่ 9 เหล็กไหลดูดทรัพย์ พระซุ้มกอ ทรงลักบี้ (ปิดทองคำเปลว)
 

เหล็กไหลดูดทรัพย์ พระนางพญา ทรงลักบี้ สร้างอธิษฐานจิตโดย หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ในปี พ.ศ.2404

รูปที่ 10 เหล็กไหลดูดทรัพย์ พระนางพญา ทรงลักบี้ (ปิดทองคำเปลว)

การห้อยพระเบญจภาคีเซียนตำรายังกล่าวอีกว่า 
          พระ เครื่องชุดเบญจภาคี งามหมดจดด้วยพุทธศิลป์ เปี่ยมด้วยพุทธบารมีเป็นที่น่าเกรงขาม ถ้าได้มาห้อยคอผู้ใดแม้เพียงองค์เดียว ก็เหมือนหมุนให้ผู้นั้น มีรัศมีเรืองรองจับขึ้นมาทันที 
          ถ้าเราจะอาราธนามาเข้าชุดในสร้อยเส้นเดียวกัน  
          1. สมเด็จวัดระฆัง อยู่ตรงกลาง 
          2. พระนางพญา อยู่ล่างซ้าย 
          3. พระซุ้มกอ อยู่ล่างขวา 
          4. พระผงสุพรรณ อยู่บนซ้าย 
          5.พระรอด อยู่บนขวา 
          ดูจะสมดุลได้สัดส่วนเหมาะสมเป็นที่สุด อ้างอิงลิงก์บทความ...(คลิก)
  
รูปที่ 11  เหล็กไหลดูดทรัพย์ชุดเบญจภาคี จัดตามชุดในสร้อยเส้นเดียวกันที่เซียนตำราบัญญัติ

 
 
 

เหล็กไหลดูดทรัพย์ ชุด เบญจภาคี สร้างอธิษฐานจิตโดย หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ในปี พ.ศ.2404
ประกอบด้วย พิมพ์
     พระสมเด็จวัดระฆัง ที่สร้างโดย ท่านเจ้าพระคุณ หลวงพ่อ สมเด็จพุฒาจารย์(โต)พฺรหฺมรังษี เป็นตัวแทนยุค รัตนโกสินทร์

     เหล็กไหลดูดทรัพย์ ชนิดที่มีอายุมากที่สุดของกลุ่มเหล็กไหลที่อยู่ในกลุ่มประเภทเดียวกัน หากจะพูดให้เข้าใจ ผู้เขียนขอยกตัวอย่างได้ ชื่อ ต่างๆ กัน ดังนี้

     - ถ้าเป็น ต้นไม้ คือ วงปีของต้นไม้วงในสุด
     - เหล็กไหลดูดทรัพย์จะมีการเกิดรวมตัวกันเป็นครอบครัว  เริ่มต้นแต่  รุ่นปู่ รุ่นพ่อ รุ่นลูก รุ่นหลาน รุ่นเหลน เรียกว่า โคตรเหล็กไหลดูดทรัพย์
     - ต้นตระกูลของไหลไหลดูทรัพย์
     - แกนเหล็กไหลดูดทรัพย์
รูปที่ 12  พระสมเด็จวัดระฆังเหล็กไหลดูดทรัพย์

พระสมเด็จองค์นี้ หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ท่านใช้วิชา กสิณไฟ (เตโชกสิณ) ทำให้เหล็กไหลหลอมตัวอยู่ในหุ่นเทียนขี้ผึ้ง และกำหนดจิตให้แข็งตัว อีกทั้งกำกับและอธิษฐานจิตให้มีพลังพุทธานุภาพในการอธิษฐาน

 รูปที่ 13  พระสมเด็จวัดระฆัง เหล็กไหลสีปีกแมลงทับ (ไม่ใช่เหล็กไหลดูดทรัพย์)

พระสมเด็จองค์นี้ หลวงพ่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ท่านใช้วิชา กสิณไฟ (เตโชกสิณ) ทำให้เหล็กไหลหลอมตัวอยู่ในหุ่นเทียนขี้ผึ้ง และกำหนดจิตให้แข็งตัว อีกทั้งกำกับและอธิษฐานจิตให้มีพลังพุทธานุภาพในการอธิษฐาน

      พระรอด กรุวัดมหาวัน จังหวัดลำพูน เป็นตัวแทนยุค ลพบุรี
     พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นตัวแทนยุค อู่ทอง-สุพรรณภูมิ
     พระซุ้มกอ จังหวัดกำแพงเพชรเป็นตัวแทนยุค สุโขทัย
     พระนางพญา กรุวัดนางพญา จังหวัด พิษณุโลก เป็นตัวแทนยุค อยุธยา-พระพิษณุโลกสองแคว
         พระทั้ง 5 พิมพ์นี้ เป็นหล็กไหลดูดทรัพย์ (ปิดทองคำเปลว)

รอคอยกำลังถ่ายรูปและเพิ่มเติมข้อมูลชุดพระเบญจภาคีเนื้อเหล็กไหล