วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

17. ประวัติการสร้างพระกริ่งปวเรศ วาระต่างๆบางส่วน



ขยายรายละเอีดยประวัติการสร้างพระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2404
การสร้าง  พ.ศ. 2404
1.      วันที่  20 มีนาคม พ.ศ.2404  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในขณะพระชันษา 9 พรรษาได้รับการสถาปนาให้ขึ้นทรงกรมเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศตรงกับ ปีระกา พ.ศ. 2404
2.      (ไม่ทราบวันที่) พ.ศ. 2404 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงสร้างพระกริ่งปวเรศ เพื่อทดแทน พระกริ่งน้อยเนื้อทองคำที่หายไปเมื่อปี พ.ศ. 2403ด้วยฝีมือการออกแบบและตบแต่งโดย ช่างหลวง (ช่างสิบหมู่) ในยุคนั้น
3.   พื่อใช้ในพระราชพิธีถวายมหาสมณุตมาภิเษก การตั้งพระนามกรมพระเจ้าลูกยาเธอ รัชกาลที่ 4 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2404 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในขณะพระชันษา 9 พรรษาได้รับการสถาปนาให้ขึ้นทรงกรมเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศตรงกับ ปีระกา พ.ศ. 2404
4.      จำนวนการสร้าง 3 องค์ 
พระกริ่งปวเรศ   พ.ศ. 2404  หรือ พระกริ่งประจำรัชกาลที่ 4 สร้าง พ.ศ.2404
การสร้าง  พ.ศ. 2409
1.      วันที่ 19 กรกฏาคม พ.ศ. 2409 สร้างในพระราชพิธีที่รัชกาลที่ 5 ทรงผนวชเป็นสามเณร
2.      เป็นที่ระลึกถวายรัชกาลที่ 4 และ รัชกาลที่ 5
รูปพระกริ่งปวเรศ   พ.ศ.2409  พิพิธภัณฑ์พระเครื่อง  มรดกต้นตระกูลแสงรื่น.รมย์ เอื้อเฟื้อภาพ




การสร้าง  พ.ศ. 2411
1        กริ่งรุ่นนี้ไม่มีเส้นพระศก
2        ไม่มีส่วนผสมของเนื้อพระพุทธชินสีห์ที่ได้สร้างครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2
3        การสร้างทั้ง 2 วาระ เป็นเนื้อสัมฤทธิ์ มี 3 ชนิด เนื้อสัมฤทธิ์เดช ออกสีแดงแก่ อ่อน, เนื้อสัมฤทธิ์ศักดิ์ ออกสีขาวหรือขาวจัด, เนื้อสัมฤทธิ์โชค ออกสีเหลือง
4        จำนวนการสร้างไม่ได้กล่าวไว้
วาระที่ 1 พ.ศ. 2411
1.      วันพฤหัสบดี ที่ 1 เดือน 11 ขึ้น 15 ค่ำ ปีมะโรง พ.ศ. 2411
2.      สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ถวายรัชการที่ 5 พระชนมายุ 15 พระชันษา ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นครองราชย์สมบัติ 
 - พิมพ์นี้ผู้เขียนตั้งชื่อพิมพ์ว่า "สมบูรณ์ พูนสุข" เป็นการสร้างครั้งแรกที่เกิดขึ้นของพิมพ์ "สมบูรณ์ พูนสุข"
- พิมพ์นี้ การสร้างวาระที่ 1 พ.ศ.2411 เป็นเนื้อสัมฤทธิ์ มี 3 ชนิด 
     *เนื้อสัมฤทธิ์เดช ออกสีแดงแก่ อ่อน หรือ สีนาค
     * เนื้อสัมฤทธิ์ศักดิ์ ออกสีขาวหรือขาวจัด(สีเงิน)
     * เนื้อสัมฤทธิ์โชค ออกสีเหลือง หรือ สีดอกจำปา


พระกริ่งปวเรศ หรือ พระกริ่งประจำรัชกาลที่ 5 สร้างในวาระที่ 1 พ.ศ. 2411 เนื้อสัมฤทธิ์โชค ออกสีเหลือง
- การตบแต่งก้นของพระกริ่ง ประกอบด้วย
     *องค์พระแบบมาตราฐาน เนื้อสัมฤทธิ์หรือนวโลหะ เกลาตบแต่งความงดงาม ก้นทองแดง
ก้นทองแดง


     *องค์พระแบบมาตราฐาน เนื้อสัมฤทธิ์หรือนวโลหะ เกลาตบแต่งความงดงาม ก้นทองแดง บุแผ่นเงิน ประทับรอยอักขระยันต์
ก้นทองแดง บุแผ่นเงินประทับอักขระยันต์ สร้าง พ.ศ. 2411 วาระที่ 1

     *องค์พระแบบมาตราฐาน เนื้อสัมฤทธิ์หรือนวโลหะ เกลาตบแต่งความงดงาม ก้นทองแดง บุแผ่นทองคำ ประทับรอยอักขระยันต์
ก้นทองแดง บุแผ่นทองคำประทับอักขระยันต์ สร้าง พ.ศ. 2411 วาระที่ 1
วาระที่ 2 พ.ศ. 2411
1.      วันที่ 25 พฤศจิกายน ปีมะโรง พ.ศ. 2411
2.      พิธีบวรราชาภิเษกกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญขึ้นเป็นวังหน้าในสมัยรัชกาลที่ 5

การสร้าง พ.ศ. 2416
1        สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงออกแบบเป็น 2 แบบ และที่พบ 2 แบบจริง แต่มีหลายพิมพ์
2        พระกริ่งปวเรศ รุ่นนี้มีการบรรจุลูกกริ่งไว้
3        สันนิฐานว่าเป็นกริ่งในเก๋งจีนอยู่ที่วัดบวร
4        จำนวนการสร้างไม่ได้กล่าวไว้
5        จดหมายเหตุพระราชกิจรายวันในรับกาลที่ 5 พ.ศ.2411-2416 คณะกรรมการเผยแพร่เอกสารประวัติศาสตร์ สำนักนายกรัฐมนตรีจัดพิมพ์เผยแพร พ.ศ.2516 หน้า 121-129
วาระที่ 1 พ.ศ. 2416
  1. วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2416 รัชกาลที่ 5 ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ
  2. สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สร้างเพื่อทรงถวายในพระราชพิธีทรงผนวช

 รูป  แสดงโค๊ดเมล็ดงาที่ตอกในการสร้างวาระที่ 1 พ.ศ. 2416 สร้างเพื่อถวายในพระราชพิธีทรงผนวช ร.5

http://phantakityothin.blogspot.com/
รูป  แสดงพระกริ่งปวเรศ  พ.ศ. 2416 วาระที่ 1 สร้างเพื่อถวายในพระราชพิธีทรงผนวช ร.5 ที่พบในวาระนี้มีหลายพิมพ์ด้วยกัน  องค์นี้เจ้าของตั้งราคา 15 ล้านบาท(สิบห้าล้านบาท)


http://phantakityothin.blogspot.com/
รูป  แสดงโค๊ดเมล็ดงาที่ตอกในการสร้างวาระที่ 1 พ.ศ.2416 ตอกเมล็ดงากลับด้าน(มีจ๊ะ)
องค์นี้ตอกโต๊ด 8 เมล็ด โค๊ตในเมล็ดจะมีจุดไข่ปลากลมๆ
ระวังถ้าตาไม่ถึง จะเหมาเป็นรุ่นสร้าง พ.ศ.2434

วาระที่ 2 พ.ศ. 2416
1        วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2416  รัชกาลที่ 5 ทรงพระบรมราชาภิเษกครองราชย์เป็นครั้งที่ 2
2         สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สร้างเพื่อทรงถวายในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นครองราชย์สมบัติ
โค๊ตเมล็ดงาจะอยู่ด้านขวาของฐานบัว ในวาระนี้พระกริ่งฯที่สร้างที่พบเห็นมีน้อยมาก 
http://phantakityothin.blogspot.com/
พระกริ่งปวรเรศ   พ.ศ. 2416 วาระที่ 2 รัชกาลที่ 5 ทรงพระบรมราชาภิเษกครองราชย์
องค์นี้คุณถิรวัฒน์  พันธกิจโยธิน เอื้อเฟื้อภาพและได้ตั้งราคา 15 ล้านบาท

การสร้าง พ.ศ. 2434
1        บันทึกบรรณานุกรมหอสมุดแห่งชาติ มหามกุฎราชวิทยาลัย หน้า 5 วรรค 2
2        สมเด็จฯกรมพระยาปวเรศฯไม่ได้ออกแบบ
3        จัดสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ทรงได้รับมหาสมณุตมาภิเษก สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 8 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
4        ออกแบบโดย ช่างสิบหมู่ พระบรมวงศานุวงศ์ ไวยาวัชกรวัดบวรนิเวศ สมัยนั้น
5        มีหลายแบบทรงพิมพ์
5.1       บางแบบใช้แม่พิมพ์เก่า
5.2       บางองค์ก็เป็นแม่พิมพ์ใหม่
5.3       โลหะก็ไม่เหมือนกัน
5.4        มีทั้งแบบที่อยู่ในขันน้ำมนต์
5.5        ตลับสีผึ้ง
6        จำนวนการสร้างไม่ได้ระบุไว้
7        การสร้าง พระกริ่งปวเรศ   พ.ศ. 2434 หลวงชำนาญเลขา (หุ่น) เป็นผู้ขออนุญาตสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
วาระที่ 1 พ.ศ.2434
1.      วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2434
พระกริ่งปวเรศ   พ.ศ.2434 พิมพ์สมบูรณ์ พูนสุข ได้ร่วมในพิธีวาระที่ 1 พ.ศ.2434
วาระที่ 2 พ.ศ.2434
1.      วันที่24 - 27 พฤศจิกายน  พ.ศ. 2434
2.      พระราชพิธีเฉลิมพระนามในพระสุพรรณบัตร พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าบริพัตร ภายหลังเปลี่ยนเป็น "สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
3.      พระราชพิธีเฉลิมพระนามในพระสุพรรณบัตร พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ ภายหลังเปลี่ยนเป็น "สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
4.      เป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอทั้งสองพระองค์ (พระราชโอรสรัชกาลที่ 5)
พระกริ่งปวเรศ   พ.ศ.2434 พิมพ์สมบูรณ์ พูนสุข ได้ร่วมในพิธีวาระที่ 2 พ.ศ.2434
พระกริ่งปวเรศ  จีวรลายดอก พิมพ์ก้นใหญ่หลังไม่มีบัว องค์นี้ขัดด้วยน้ำยา wenol เนื้อในสีนาค 

พระกริ่งปวเรศ   พ.ศ.2434 พิมพ์บัวรอบ
พระกริ่งปวเรศ  พ.ศ. 2434 พิมพ์บัวรอบ องค์นี้ผ่านการขัดน้ำยา เนื้อในสีนาค

พระกริ่งปวเรศ   จีวรายดอก พิมพ์ A

 พระกริ่งปวเรศ   พ.ศ.2434 จีวรรายดอก พิมพ์ B
พระกริ่งปวเรศ   พ.ศ.2434 พิมพ์แบบจีวรลายดอกและไม่มีลายดอก ที่ยกตัวอย่างมาทั้ง 8 พิมพ์ล้วนแต่ได้เข้าร่วมในพิธีวาระที่ 2 พ.ศ.2434  ในวาระนี้เป็นการสร้างพระกริ่งรุ่นแบบจีวรมีลายดอกและแบบจีวรไม่มีลายดอก  เพื่อพระราชพิธีเฉลิมพระนามในพระสุพรรณบัตร พระเจ้าลูกยาเธอฯทั้งสองพระองค์
วาระที่ 3 พ.ศ.2434
1.      วันที่ 24 - 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2434  
2.      พระราชพิธีมหาสมณุตตมาภิเศก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ "กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์" ได้รับสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศขึ้นเป็นพระเจ้าบรมวงศ์เธอ "กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์"


พระกริ่งปวเรศ  พ.ศ.2434 พิมพ์สมบูรณ์ พูนสุข ได้ร่วมในพิธีวาระที่ 3 พ.ศ.2434

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

16. วงการพระกริ่งปี 2553-2554

ในวงการพระกริ่งปวเรศ  คนมีเงินเหลือเก็บและเซียนฯที่ยึดตามตำราเขาเล่นซื้อ-ขายหน้าตาพระกริ่งรุ่นไหนและราคเท่าไร?


        (ซ้าย) พระกริ่งปวเรศ องค์สุทิน      (ขวา) พระกริ่งปวเรศ องค์กำพล

พระกริ่งปวเรศ ในปีนี้มีการซื้อขายย้ายกุฏิ 2 องค์ จากข่าวไทยรัฐโดยสีกาอ่าง ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2553

องค์แรกขวามือสภาพ สวยดูง่าย ถูกนิมนต์ออกจาก รังระดับชาติ โดย เสี่ยหมึก ท่าพระจันทร์ เช่าไปในราคาประมาณ 15 ล้าน เพื่อให้ เสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ ในราคา 20 ล้านบาท และเพื่อตัดหนทางการธุดงค์ของพระ เสี่ยกำพล จึงตั้งราคากันท่าไว้ที่ 30 ล้านบาทหรือ 1 ล้าน USD ณ ราคาปัจจุบัน

องค์ที่ 2 องค์ซ้ายมือ เสี่ยเช็ง สุพรรณ เห็นว่า เสี่ยสุทิน จิรมณีกุล มีพระกริ่งปวเรศอยู่ตั้ง 3 องค์ จึงไปนิมนต์ออกมา ในราคาไม่ห่างกัน เพราะมี ใบสั่ง รออยู่  และถ้าการเจรจากับ ผู้ซื้อ จบ คาดว่าองค์นี้จะทำราคาได้ประมาณ 25 ล้าน!
ราคาซื้อ-ขาย พระกริ่งปวเรศ รุ่ ราคาระดับ 30 ล้านบาทไม่ใช่เรื่องแปลก ในอดีตลีกาชิงอภิมหาเศรษฐีระดับเจ้าพ่อแห่งเกาะฮ่องกงเคยซื้อพระกริ่งปวเรศ รุ่น 1 ตกลงราคาลับๆกันที่ต่างประเทศด้วยราคา 1 ล้าน USD    ปัจจุบันนี้เขานั่งเก้าอี้บริหารบริษัทที่จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ถึง 4 บริษัท คือ Cheung Kong (Holdings) Ltd., Hutchison Whampoa Ltd., Cheung Kong Infrastructure Holdings Ltd. และ Hong Kong Electric Holdings Ltd. โดยมีมูลค่าการลงทุนทั้งหมด (ในปี 2004 ) ประมาณสี่แสนห้าหมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง ภายใต้กลุ่มบริษัท 4 กลุ่มนี้มีบริษัทลูกและกิจการย่อยดำเนินธุรกิจต่างๆ อันได้แก่ ธุรกิจพัฒนาและลงทุนในเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจค้าปลีก การผลิต การสื่อสาร การขนส่ง พลังงาน ฯล  กิจการของเขามีอยู่ทั่วโลก  มากกว่า 24 ประเทศ

องค์ที่ 3 และ 4  ข่าวล่าแจ้งมาพระกริ่งปวเรศ  หน้าผากหมุดทองคำ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข องค์หน้าปกนิตยสาร บุญพระเครื่อง ฉบับที่ 67 ปีที่ 6 พ.ศ. 2553 ได้ขายเรียบร้อยที่ราคา 9 ล้านบาท(เก้าล้านบาท) ผู้เช่าขอสงวนนามเนื่องจากเกรงความปลอดภัยเมื่อนิมนต์ท่านขึ้นคอ  ผู้เช่าให้ข้อมูลกับผู้ให้เช่าเพิ่มเติมรายละเอียดหลายๆเรื่องแบบคนรู้จริง  จึงทำให้เกิดการซื้อ-ขายขึ้น  นับว่าผู้เช่าโชคดีที่ได้พระกริ่งปวเรศ  ไปในราคาที่ไม่ถึง 8 หลัก  เนื่องจากวงการเล่นหาพระกริ่งปวเรศ  ในอดีตที่ราคาสูงสุดถึง 1 ล้าน USD หรือประมาณ 30 ล้านบาทในปัจจุบัน

องค์ที่ 5  เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2554  ผู้เขียนได้พบกับผู้ซื้อ(เช่า)(ขอสงวนนามเนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตเปิดเผย)ได้สนใจพระกริ่งปวเรศพิมพ์สมบูรณ์พูนสุข สร้าง พ.ศ.2411 ซื้อไปจำนวน 1 องค์   โดยการอ่านบทความของผู้เขียนแล้วตัดสินใจ  แต่...ไม่เคยคุยกับผู้เขียนมาก่อนที่จะตัดสินใจเช่า(ซื้อ)จากแหล่งอื่น  จ่ายไปราคา 5 ล้านบาท  ภายหลังจากที่ซื้อแล้วเกิดไม่มั่นใจได้มาพบพูดคุยกับผู้เขียน  ซึ่งผู้ซื้อท่านนี้ในอดีตชาติเคยเป็นญาติผู้ใหญ่ของผู้เขียนมาก่อน  เมื่อได้สอบถามพระ...เบื้องบนทำให้ทราบว่าได้เช่า(ซื้อ)พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2411 ผู้ซื้อได้พระดีมีพุทธานุภาพครอบจักรวาล  เป็นพระกริ่งปวเรศในตำนานของแท้ราคาไม่แพง  ถือว่าโชคดีที่ได้พระแท้

15. ออร่าของพระกริ่งปวเรศ พิมพ์ สมบูรณ์ พูนสุข

ภาพถ่าย ออร่า แสดงพุทธานุภาพของพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์ พูนสุข ปี พ.ศ.2411

พระเครื่องฯทั่วๆไปที่ผ่านการอธิฐานจิตสามารถนำไปถ่ายรูปออร่าได้ที่ร้านถ่ายรูปที่ร้บถ่ายด้วยกล้องออร่าโดยเฉพาะ ค่าถ่ายรูปพระเครื่อง 700 บาท  แต่ถ้าเป็นรูปคนราคา 500 บาท  ผลที่ได้มีดังนี้

รูปแสดงสีของภาพถ่ายออร่า ของพระกริ่งปวเรศ   พิมพ์สมบูรณ์ พูนสุข

1. สีชมพู ในรูปจะพบสีชมพูเกิดเป็นชั้นๆ และเป็นหย่อมๆ ลักษณะที่เกิดจะไม่พบในวัตถุมงคลทั่วๆไป ถือว่าส่งผลทางเมตตามหานิยมขั้นสูงระดับสูงและมีมหาเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น แบ่งได้ดังนี้
               1.1  เมตตามหานิยมขั้นสูงระดับสูง : ทำให้ทุกคนรัก เช่น อาชีพ นักร้อง นักพูด นักเทศน์ วิเศษยิ่งนัก
               1.2  มหาเสน่ห์  เป็นที่รักของ 3 โลก : ไปไหนนำติดตัวไปด้วยทำให้คนรักใคร่ ที่รักชอบแก่คนทั้งหลาย ใครไม่รู้จักก็มารู้จัก รักชอบเป็นมิตรสหาย ประกอบด้วย 1. พรหม เทวดา       2.มนุษย์     3.ชาวโลกทิพย์

2. สีม่วง กระจายเป็นหย่อมๆ จึงแบ่งได้เป็น 2 กรณี
               2.1 ช่วยการวิปัสสนา  กรรมฐาน : เจริญพระกรรมฐานสมาธิและโน้มเอียงไปทางศาสนา
               2.2 สีม่วงหากปรากฏในวัตถุมงคลถือว่ามีเทพระดับสูงรักษา(แรงครูบาอาจารย์)วัตถุ มงคลที่มีสีม่วงแสดงว่ามีญาณทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าลางสังหรณ์
               2.3 โชคลาภ : บันดาลโชคลาภ เจริญด้วยลาภยศสรรเสริญ
          2.4 โภคทรัพย์ : รักษาทรัพย์สมบัติให้เยือกเย็นทรงตัว ร่ำรวยยิ่ง ๆ ขึ้นไป ทำให้เงินพอกพูนเพิ่มขึ้น

3. สีขาว ปรากฏเป็นกลุ่มสีขาว แบ่งได้ดังนี้
               3.1 สื่อกับมิติอื่นได้ เป็นสีของญาณสมาบัติ
               3.2 พบในมงคลวัตถุแสดงว่าผู้เสกสร้างได้สมาธิระดับสมาบัติ ชั้นสูง
               3.3 สีขาวผสมกับสีต่างๆอย่างสมดุลลงตัว เป็นสีที่บอกประการหนึ่งของพลังด้านบวก เป็นตัวปรับสมดุล ช่วยหนุนดวง : ป้องกันอุปัทอันตรายทั้งปวง  กันเสนียด จังไร  เกื้อหนุนดวงที่ตกต่ำให้โดดเด่นขึ้นมาได้  หากดวงดีหนุนให้ดียิ่งๆขึ้นมีชื่อเสียง เป็นเจ้าคน นายคน
               3.4 ส่งเสริมให้จิตใจผู้สวม ใส่เป็นสมาธิได้ง่าย
               3.5 ใช้ในการอธิษฐานขอเรื่องต่างๆ เปรียบเสมือนมี  แก้สารพัดนึก : อธิษฐานตามใจปรารถนา (ขอได้ไม่เกินกว่าบุญในอดีตที่เคยสร้างไว้)
               3.6 ทำน้ำพุทธมนต์ : รักษา สิ่งอัปมงคล คุณไสยอวิชา คุณผี คุณคน รักษาโรคภัยไข้เจ็บ โรคระบาด โรคเวร โรคกรรม สะเดาะเคราะห์-หนุนดวง รักษาการสัมผัสโดนสารของนิวเคลียร์ อาวุธเคมี รักษาแก้พิษ ต้องพิจารณาถึงสีทองที่เกิดขึ้นว่ามีพลังมากน้อยเพียงใด หากเป็นแนวใหญ่ยาวโค้งเหมือนกับมีโล่ป้อกัน แสดงสือถึงใช้ได้ครอบจักรวาล

4. สีน้ำเงิน กระจายเป็นหย่อมๆ ผสมกับสีต่างๆอย่างสมดุลลงตัว จึงแบ่งได้เป็น 2 กรณี
               4.1 ดูดทรัพย์ : เรียกเงินเรียกทอง ค้าขายให้มีกำไรดี ร่ำรวยเงินทอง
               4.2 โชคลาภ : บันดาลโชคลาภ เจริญด้วยลาภยศสรรเสริญ
          4.3 การกระจายของสีเป็นหย่อมๆ มีอำนาจช่วยหนุนดวง : ป้องกันอุปัทอันตรายทั้งปวง  กันเสนียด จังไร  เกื้อหนุนดวงที่ตกต่ำให้โดดเด่นขึ้นมาได้  หากดวงดีหนุนให้ดียิ่งๆขึ้นมีชื่อเสียง เป็นเจ้าคน นายคน

5. สีทอง ในรูปวิ่งเป็นแนวใหญ่ยาวจากซ้ายไปขวา เป็น สีของพลังจักรวาล พลังแห่งทิพย์ เป็นพลังอำนาจนอกมิติ มีรายละเอียดดังนี้
           5.1 มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองผู้บูชาและดูแลรักษาองค์พระกริ่ง
        5.2 คงกระพัน : หนังเหนียวไม่แตกง่าย มีดแทงไม่เข้า หรือมีบาดแผลน้อย ทนทานต่อศัสตราวุธ  แต่ยังมีความเจ็บปวดเกิดขึ้น
          5.3 ชาตรี :  ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเลย  ทำให้ของหนักต่างๆที่จะมากระทบตัวจะเบาไปหมด นะจังงัง ยิง ฟัน แทงไม่เข้า
        5.4 แคล้วคลาด: เป็นวิชาที่เหนือกว่าวิชาคงกระพันและวิชาชาตรี  แม้มีคนมุ่งร้ายหมาย  จะทำอันตรายก็มิอาจจะทำอันตรายได้ เป็นแคล้วคลาดทุกครั้งไป คือไม่เจอ  ไม่โดน และไม่เจ็บ ถึงแม้จะสู้กันซึ่งหน้า ไม่ว่าจะเป็นยิงหรือฟันจะหลบเลี่ยงหลุดรอดได้ทุกครั้ง  โดยฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถทำอันตรายได้ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
          5.5 มหาอำนาจ : เมื่อจะไปในสถานที่ใด คนเกรงขาม มีตะบะเดชะมาก เป็น มีอำนาจดังราชสีห์ เดินป่าป้องกันสัตว์ร้าย 
          5.6  มหาอุด :  ใช้กันปืน เมื่อครั้งมีเหตุให้โดยปืนยิง  ที่จะยิงจะยิงไม่ออก  หรือในบางครั้งอาจจะทำให้ปืนแตกคามือของผู้ยิง  หากยิงออกก็ไม่โดน หากโดนก็ไม่เข้า  เป็นต้น
          5.7 มหาระงับ : นะจังงัง ยิง ฟัน แทงไม่เข้า
          5.8  อาถรรพ์ มนต์ดำ ยาสั่ง : ป้องกันขับไล่สิ่งชั่วร้าย ถอนแก้กระทำย่ำยีต่างๆ คุณไสยทุกอย่าง กันคุณผี คุณคน
          5.9 กันไฟและขโมย : กันฟ้า กันไฟ กันควัน กันโจรภัย และคุ้มกันสารพัดภัย
          5.10 ป้องกันนิวเคลียร์  อาวุธเคมี : ป้องกันอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธเคมีต่างๆ จากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นแคล้วคลาด
          5.11. กันและแก้สารพัดโรคภัย : ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ กันโรคระบาด กันภูตผีรบกวน ทำน้ำมนต์คลอดบุตรง่าย กันคุณไสยลมเพลมพัด บ้านหรือที่ใดร้ายอยู่ยาก ให้อธิษฐานน้ำมนต์ฝังดินแก้ไขกลับร้ายเป็นดี

6. สีเหลือง  เกิดเป็นแนวผสมสีทอง สีขาวและสีชมพู ได้อย่างสมดุล แบ่งเป็นรายละเอียดดังนี้
           6.1 แสดงถึงบารมีขององค์พระพุทธ
           6.2 ความฉลาด ความเมตตา มองโลกในแง่ดี เป็นสีที่มีภูมิคุ้มกันโรค
               6.3 ส่งผลทางโภคทรัพย์ : รักษาทรัพย์สมบัติให้เยือกเย็นทรงตัว ร่ำรวยยิ่ง ๆ ขึ้นไป ทำให้เงินพอกพูนเพิ่มขึ้น
               6.4 เป็นสีของ มหาอำนาจ : เมื่อจะไปในสถานที่ใด คนเกรงขาม มีตะบะเดชะมาก เป็น มีอำนาจดังราชสีห์ เดินป่าป้องกันสัตว์ร้าย
           6.5 ป้องกันสารพัดโรคภัย : ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ กันโรคระบาด กันภูตผีรบกวน ฯลฯ

7. สีแดง เกิดเป็นแนวโค้งเหมือนโล่ มีรายละเอียดดังนี้
               7.1 ผสมสีสมดุลกับสีส้ม สีทอง สีเขียว สีคราม ในวัตถุมงคลถือว่าเป็นอำนาจปกป้องคุ้มครอง รักษา ข่มอาถรรพ์คุณไสยและทางมหาอำนาจ
               7.2 เป็น เครื่องวัตถุประเภทคงกระพันชาตรี  พบออร่าสีแดงผสมสมดุลลงตัวกับสีทองและสีส้มยิ่ง แสดงถึงอำนาจในการป้องกันสูงมากยิ่งขึ้น
                   7.3 พบสีแดงผสมกับสีเขียวเป็นแสดงถึงอำนาจเรื่องการรักษา

8. สีส้ม/แสด มีรายละเอียดดังนี้
               8.1 มีอำนาจในทางบำบัดสุขภาพสมบูรณ์ มีความสุขทั้งทางกายและทางใจ
               8.2 มีอำนาจผลทางมหาเสน่ห์ โดย เฉพาะอันเกิดจากสีส้มผสมสมดุลกับสีทองส่งผลทางเสน่ห์สูงมากยิ่งขึ้น
 

9. สีเขียว ได้ผสมสมดุลกับสีคราม มีรายละเอียดดังนี้
               9.1 แสดงถึงอำนาจสร้างความสมดุลของสภาพร่างกาย(ปรับร่างกาย ขัน 5) การผสมของออร่า สีเขียว สีทองและสีเหลืองเป็นการแสดงถึงมีอำนาจการปรับความสมดุลทางขัน 5 มากยิ่งขึ้น
               9.2 ส่งผลทางป้องกันรักษา โดยเฉพาะการรักษาโรค และล้างคุณไสย

10. สีคราม ช่วยการวิปัสสนา  กรรมฐาน : เจริญพระกรรมฐานสมาธิและโน้มเอียงไปทางศาสนา สีของพลังจิต มีสัมผัสที่ ๖ มีความฉลาดล้ำลึก ความคิดสร้างสรรค์  สีครามผสมสมดุลกับสีเขียวเป็นการแสดงอำนาจมากยิ่งขึ้นในการช่วยปรับวิปัสสนา  กรรมฐานของผู้นับถือสวมใส่ให้สูงยิ่งๆขึ้น

การตรวจอำนาจมงคลวัตถุโดยออร่า เช่นภาพถ่ายเป็นกระบวนการที่ใช้วิทยาศาสตร์มารองรับว่ามีพลังงานประจุอยู่ จริง พลังสีต่างๆที่ปรากฏในวัตถุมงคล ให้ความหมาย พละพลังของวัตถุมงคลสีนั้นๆที่เปล่งอานุภาพออกมา พิจารณารายละเอียดดังนี้
·                 ความใส และ ความกว้างของแถบสีออร่าที่เกิดขึ้น
·                 ผลที่พบจากสีของออร่า  การนำวัตถุมงคลไปใช้จะเกิดผลตาม ปรารถนาหรือไม่  อยู่ที่ตัวผู้ใช้ และความสามารถในการต่อจิตสัมพันธ์กับพลังในวัตถุนั้นๆ
·                 การอ่านออร่าสีต่างๆที่ปรากฏนั้นมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ดูการเกิดของสีที่ต้องการทราบ  และการผสมสีกับสีรอบข้างมีความสมดุลมากน้อยเพียงใด  รวมทั้งสีที่ผสมกันมีการจับตัวรวมกลุ่มในลักษณะที่เกิดส่งผลอะไรบ้าง  แต่ละที่แต่ละสถาบัน อาจมีความเห็นไม่ตรงกันได้  ทั้งนี้ก็เนื่องจากมีการค้นคว้าและมีความเข้าใจลึกซึ้งที่ต่างกันและสีที่ปรากฏบางครั้งเกิดการผสม กันจนเป็นอีกสีหนึ่ง จึงต้องพิจารณาทั้งสีพื้น สีแซม และสีที่แฝงด้วยการพิจารณาที่ถูกต้องจึงต้องเจาะให้ลึกถึงระดับออร่าเป็น ชั้นต่างๆ

สรุป ผลจากรูปถ่ายพลังงานออร่า  สีที่พบเริ่มตั้งแต่การเรียง จับกลุ่ม รายละเอียดอยู่ด้านบนได้กล่าวไว้ทั้งหมดแล้ว จึงบอกได้แต่เพียงสั้นๆ พุทธานุภาพของพระกริ่งปวเรศ  พิมพ์สมบูรณ์ พูนสุข ที่ได้อธิฐานจิต ใน 1 องค์ครบถ้วนสมบูรณ์ ดังคำกล่าวที่ว่า องค์เดียวเที่ยวทั่วโลก