ประวัติศาสตร์ที่ขาดหายไปบางช่วงที่เกี่ยวกับพระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศวิหาร
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ เมื่อทรงเสด็จมาผนวชอยู่ครองวัดบวรนิเวศวิหาร
ได้ทูลขอพระบรมราชานุญาตพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ(รัชกาลที่ 3) อัญเชิญพระพุทธชินสีห์ ย้ายจากมุขหลังออกสถิตหน้าพระพุทธรูปองค์ใหญ่หรือพระโต เมื่อ พ.ศ.2380 ปิดทองก้าไหล่พระรัศมีฝั่งพระเนตรใหม่ และติดพระอุนาโลม ส่วนมุขหลังอัญเชิญพระไสยาสน์เข้าไว้แทน
ต่อมาได้รื้อมุขหลังใน พ.ศ.2382 เพื่อขยายทักษิณพระเจดีย์ออกมาอีกชั้นหนึ่ง
และในปี พ.ศ. 2392 ได้ซ่อมฐานของพระพุทธชินสีห์ ที่ผุตัดออก แล้วทำการซ่อมตบแต่งฐานของ พระพุทธชินสีห์ ใหม่ โลหะที่ผุตัดออกมาจากฐานของ พระพุทธชินสีห์ ได้นำมาเป็นส่วนผสมของพระกริ่งที่สร้างขึ้นในวาระ ปี พ.ศ.2392
ส่วนพระไสยาสน์ยังอยู่หลังพระอุโบสถ ณ ที่ติดพระบาทจำลองในปัจจุบัน ต่อมาปี พ.ศ. 2393 ได้อัญเชิญไปไว้ในวิหารพระศาสดา
เมื่อทรงลาผนวชเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว ตรัสให้แผ่ทองคำทำพระรัศมีลงยาราชาวดีประดับพระรัศมีเดิมอีกชั้นหนึ่ง ถวายฉัตรตาด 9 ชั้นถวายผ้าทรงสพักตาด ต้นไม้ทองเงิน เมื่อพ.ศ. 2394
ผู้เขียนได้เห็นและได้อ่านตำราพระกริ่งปวเรศในอดีต ที่มีผู้อ้างได้ใช้โลหะของฐานพระพุทธชินสีห์ที่ผุเป็นส่วนผสมในการสร้างพระกริ่ง ในอดีตที่ผ่านมาผู้เขียนได้พบพระกริ่งมากมายหลากหลายรุ่น หลากหลายวาระ ในการสร้างพระกริ่งปวเรศมากมาย สอบถามพระเบื้องบน...ไม่พบว่ามีส่วนผสมของฐานพระพุทธชินสีห์ตามตำราพระกริ่งปวเรศที่มีผู้เขียนลอกกันไปลอกันมาสักองค์
วันนี้ (13 สิงหาคม พ.ศ.2554) ผู้เขียนได้พบพระกริ่งองค์หนึ่งดังรูป เมื่อสอบถามพระเบื้องบน...ในครั้งแรกที่พบพระกริ่งองค์นี้ สมเด็จพุฒจารย์โตอธิฐานจิต และมีส่วนผสมของโลหะจากฐานพระพุทธชินสีห์ จึงกล่าวได้ว่าพระกริ่งที่สร้างและมีส่วนผสมของโลหะจากพระพุทธชินสีห์มีจริง ข้อเท็จจริงขัดแย้งกับตำราพระกริ่งปวเรศที่มีผู้เขียนได้เขียนไว้ในตำราพระกริ่งปวเรศที่พบเห็นได้ทั่วไป(ลอกกันไปก็ลอกกันมา) อันที่จริงเป็นพระกริ่งที่สมเด็จพุฒจารย์โตให้สร้างขึ้น โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในขณะนั้นทรงผนวช(บวช)อยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร
1241001 พระกริ่งสมเด็จพุฒจารย์โต ผสมโลหะฐานพระพุทธชินสีห์ พ.ศ.2392 บุเงิน พระกริ่งองค์นี้ได้ถูกผู้ไม่รู้หลายมือบี้พระเพื่อดูเนื้อใน ทำให้ความเก่า(กลับดำ)โดยรวมขององค์พระหายไป ในส่วนที่ไม่ได้ถูกมือบี้จะเผยให้เห็นถึงความเก่ากลับดำของเนื้อพระกริ่งอายุ 162 ปี
พุทธลักษณะขององค์พระกริ่งสมเด็จพุฒจารย์โต ผสมโลหะฐานพระพุทธชินสีห์
- ใบหน้ายิ้มหวาน
- จีวรบุแผ่นเงิน
- ศรีษะองค์พระกริ่งบุแผ่นเงิน
- ใต้ฐานองค์พระกริ่งบุแผ่นเงิน
- มีบัวสองชั้นอยู่ด้านหน้า 7 คู่ ด้านหลังไม่มีบัว
- ฐานพระกริ่งโค้งใหญ่ด้านหลังยื่นออกจากองค์พระ
- ใต้ฐานบรรจุเม็ดกริ่ง
พุทธคุณ: ครอบจักรวาล(ครบทุกด้าน)
เด่นมากที่สุดเรียงลำดับ
1. ภัยพิบัิต
2. สุดยอดมหาเมตตา
3. สุดยอดโภคทรัพย์
4. ส่งเสริมปัญญาเห็นธรรม
5. สุดยอดมหาอุด
6. สุดยอดคงกระพันชาตรี
7 ฯลฯ พุทธคุณมีอีกมายมายครบทุกด้าน(ไม่ขอกล่าวถึงยาวเหยียด)
พลังพุทธานุภาพ : 30 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับพระสมเด็จ 4 เหลี่ยมชิ้นฟักทั่วๆไปที่อธิฐานจิตโดยสมเด็จพุฒจารย์โต
พระกริ่งหน้าตาแบบนี้ มีความแรงของพลังพุทธคุณ 30 เท่า เป็นพลังพลานุภาพที่มีในพระเครื่องที่ผู้เขียนได้พบและสัมผัสองค์นี้เป็นองค์ที่ 3 ผู้เขียนยกให้เป็นพระเครื่องอันดับ TOP องค์หนึ่งของ พระเครื่องทั้งหมดของเมืองไทย ใครพบเห็นที่ใดอย่าสงสัยเก็บครับ แนะให้เก็บอย่างเดียว แพงก็ให้เก็บ หากมีแล้วไม่มั่นใจผู้เขียน
1. ขอ หรือ มอบให้ผู้เขียน (555 ของฟรีและแรงจริงชอบครับ)
2. รับซื้อ(ตามกำลังทรัพย์ที่มี)
ความเห็นส่วนตัว
- พระกริ่งสมเด็จพุฒจารย์โต ผสมโลหะฐานพระพุทธชินสีห์ พ.ศ.2392 บุเงินองค์นี้เมื่อวางบนฝ่ามือ จะสัมผัสถึงพุทธคุณเหมือนมีพลังพุ่งออกลักษณะ เปิด-ปิด, เปิด-ปิด พัดลมทำนองนี้