วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

100. ความยิ่งใหญ่ในงานมหาพุทธาภิเษก ปี พ.ศ.2411

         หากกล่าวถึงงานพุทธาภิเษกในปัจจุบัน(พ.ศ.2554) ที่ได้พบเห็นกันทั่วๆไปนั้น  ไม่สามารถที่จะเทียบกับงานพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก ปี พ.ศ.2411 ได้  หากคุยใหญ่คุยโตหน่อยก็จะกล่าวว่า "ยังห่างไกลกันหลายขุมนัก"
         ทำไมงานพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก ปี พ.ศ.2411 ถึงยิ่งใหญ่
--- จากหลักฐานข้อมูลต่างๆไม่ว่าจะเป็นพุทธคุณว่าด้วยความแรงและครบเครื่อง(ครอบจักรวาล)  ผู้ทรงฌานที่ปฏิบัติได้แล้วย่อมทราบดีว่าจริงแท้
--- จากหลักฐานบันทึกที่จารึกไว้ในองค์พระเครื่องที่สร้างในปี พ.ศ.2411 เกี่ยวเนื่องกับการขึ้นครองราชสมบัติของรัชกาลที่ 5 และวังหน้าในปี พ.ศ.2411
--- จากหลักฐานบันทึกทางราชการต่างๆ  เกี่ยวกับเรื่องพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกหรือภาพวีดีโอในสมัยที่รัชกาลที่ 9 ขึ้นครองราชย์สมบัติย่อมเป็นที่ประจัก

         มาศึกษาเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เป็นข่าวเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2554 ดังรูปด้านล่างนี้จะทราบว่าเพียงแค่งานพระศพฯ ยังใช้จ่ายสูงถึง 100 ล้านบาท  แล้วถ้างานพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก พระเครื่องฯในสมัย ร.5 ขึ้นครองราชย์สมบัติหากเทียบกับสมัยนี้ปี พ.ศ.2554 จะยิ่งใหญ่และใช้เงินลงทุนมากมายมหาศาลเพียงใด

รูปที่ 1 

ตารางที่ 1  ข้อมูลต่อไปนี้เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล  เป็นเรื่องรับรู้ได้ด้วยเฉพาะตน  ตารางแสดงรายละเอียด  เกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศและพระสมเด็จพิมพ์พิเศษ  ที่ได้ผ่านพิธีอธิฐานจิตในวาระ ปี พ.ศ. ต่างๆ
สรุป  
         จากรูปในตาราง ข้อมูลดังกล่าวทำให้ทราบว่า  พระกริ่งปวเรศที่อธิฐานจิตในวาระ ปี พ.ศ. 2411  เป็นพระกริ่งปวเรศฯ ที่น่าสนใจมากที่สุด  ดังที่ผู้เขียนเคยเขียนกล่าว "มีพลังพุทธานุภาพแรงมากกว่าสร้างในวาระปี พ.ศ. อื่นๆ"  และเป็นพระกริ่งปวเรศที่ครบเครื่องมากที่สุดตั้งแต่เคยสร้างพระกริ่งฯที่เกิดขึ้นในประเทศไทย 
         - พระเครื่องไม่ว่าจะเป็นรุ่นใด  ถ้าหากเป็นพระแท้ มีพุทธคุณและความเชื่อถือสูง ย่อมเป็นที่ต้องการในตลาดสูง  ราคาย่อมสูงตามกลไกของตลาด
         - หากกล่าวถึงพระกริ่งปวเรศ พิมพ์ที่มีมากที่สุด  ผู้เขียนขอยกให้เป็น พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข  และเป็นพระกริ่งปวเรศของแท้ที่สร้างในวาระ ปี พ.ศ. 2411 เป็นพระกริ่งปวเรศที่สร้างเพียบพร้อมในด้านพิธีกรรมและมวลสารโลหะธาตุที่นำมาหลอมหล่อเ้็ป็นองค์พระกริ่งปวเรศ  เนื้อโลหะที่นำมาหลอมรวมกันสำเร็จเป็น เนื้อทองสัมฤทธิ์ เมื่อสำเร็จเป็นองค์พระโลหะธาตุเปลี่ยนเป็นธาตุกายสิทธิ์  ซึ่งยังหาผู้ใดสร้างเทียบชั้นได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
         - ดังนั้นผู้เขียนมักจะกล่าวแนะนำหลายๆท่านไว้เสมอว่าหามา "ห้อยเดี่ยวขึ้นคอ" สักเดือนแล้วจะรู้สึกมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต
         -  ถ้าหากมีกำลังทรัพย์มากพอ  ที่ไหนมีราคาไม่แพง ได้พบเห็น มีกำลังทรัพย์เพียงพอไม่เดือนร้อน  ซื้อหา (เช่า) นำไปฝากญาติพี่น้องสักคนละองค์  เพื่อเป็นสมบัติประจำตระกูล เพราะพระกริ่งปวเรศออกมาจากกรุย่อมต้องมีเหตุและผลในอนาคตเป็นแน่แท้  อย่างน้อยๆผู้ครอบครองหากเชื่อมั่นสือกับองค์พระ  อาราธนาขอกับพระฯท่านให้สงเคราะห์  หากไม่มีกรรมหนักมากเกินไป  พระฯท่านย่อมสงเคราะห์

แสดงรูป  พระกริ่งพิมพ์สมบูรณ์พูนสุข สร้างวาระ ปี พ.ศ. 2411




พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ. 2411 พิมพ์นี้จะมีเนื้อโลหะที่พบ ดังนี้
1. พระกริ่งฯ เนื้อทองคำ  = มีค่าดั่งทองคำ  แต่ไม่ใช่โลหะธาตุกายสิทธิ์
2. พระกริ่งฯ เนื้อเงิน        = มีค่าดั่งเงิน        แต่ไม่ใช่โลหะธาตุกายสิทธิ์
3. พระกริ่งฯ เนื้อนาค      = มีค่าดั่งนาค       แต่ไม่ใช่โลหะธาตุกายสิทธิ์
พระกริ่งฯ เนื้อสัมฤทธิ์  แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
4. เนื้อสัมฤทธิ์สีเงินกลับดำ
5. เนื้อสัมฤทธิ์สีแดงอ่อน(นาค)กลับดำ
6. เนื้อสัมฤทธิ์สีเหลืองอ่อน(จำปา) หรือ เนื้อทองสัมฤทธิ์ กลับดำ  = มีค่าดั่งทองสัมฤทธิ์  มีส่วนผสมเป็นโลหะธาตุกายสิทธิ์  ผู้เขียนให้น้ำหนักน่าสนใจมากที่สุด จากโลหะธาตุทั้ง 6 ชนิด 

ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับ หมุดที่หน้าผากเป็นหมุดสีทองคำ และก้นติดแผ่นทองคำมีประทับอักขระยันต์นั้น  ไม่ได้บอกว่ามีส่วนที่ทำให้องค์พระกริ่งวิเศษเข้มขังขึ้น  เป็นเพียงตบแต่งองค์พระกริ่งฯเพื่อการบูชาให้งดงามเ่ท่านั้น  ผู้เขียนมองว่าจะมีหรือไม่มีระหว่างเนื้อโลหะธาตุเหมือนกัน  ผู้เขียนให้น้ำหนักทางด้านพุทธคุณเท่ากัน

หมายเหตุ พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พิมพ์นี้ได้มีการสร้างขึ้นวาระ พ.ศ.2411 และวาระ พ.ศ.2434 ช่างสิบหมู่ได้ใช้เบ้าพิมพ์ประกบชุดเดียวกันในการทำหุ่นเทียน  อีกทั้งโลหะธาตุที่นำมาเป็นส่วนผสม 9 ชนิด  เป็นสูตรโลหะธาตุที่เหมือนกันเกือบ 100%   ผู้เขียนกล่าวได้แต่เพียงสั้นๆว่า มองด้วยตาธรรมดาแยกไม่ออก  ยกเว้นดูด้วยตาในเท่านั้น