หากกล่าวถึงงานพุทธาภิเษกในปัจจุบัน(พ.ศ.2554) ที่ได้พบเห็นกันทั่วๆไปนั้น ไม่สามารถที่จะเทียบกับงานพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก ปี พ.ศ.2411 ได้ หากคุยใหญ่คุยโตหน่อยก็จะกล่าวว่า "ยังห่างไกลกันหลายขุมนัก"
ทำไมงานพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก ปี พ.ศ.2411 ถึงยิ่งใหญ่
--- จากหลักฐานข้อมูลต่างๆไม่ว่าจะเป็นพุทธคุณว่าด้วยความแรงและครบเครื่อง(ครอบจักรวาล) ผู้ทรงฌานที่ปฏิบัติได้แล้วย่อมทราบดีว่าจริงแท้
--- จากหลักฐานบันทึกที่จารึกไว้ในองค์พระเครื่องที่สร้างในปี พ.ศ.2411 เกี่ยวเนื่องกับการขึ้นครองราชสมบัติของรัชกาลที่ 5 และวังหน้าในปี พ.ศ.2411
--- จากหลักฐานบันทึกทางราชการต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกหรือภาพวีดีโอในสมัยที่รัชกาลที่ 9 ขึ้นครองราชย์สมบัติย่อมเป็นที่ประจัก
มาศึกษาเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เป็นข่าวเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2554 ดังรูปด้านล่างนี้จะทราบว่าเพียงแค่งานพระศพฯ ยังใช้จ่ายสูงถึง 100 ล้านบาท แล้วถ้างานพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก พระเครื่องฯในสมัย ร.5 ขึ้นครองราชย์สมบัติหากเทียบกับสมัยนี้ปี พ.ศ.2554 จะยิ่งใหญ่และใช้เงินลงทุนมากมายมหาศาลเพียงใด
รูปที่ 1
ตารางที่ 1 ข้อมูลต่อไปนี้เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล เป็นเรื่องรับรู้ได้ด้วยเฉพาะตน ตารางแสดงรายละเอียด เกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศและพระสมเด็จพิมพ์พิเศษ ที่ได้ผ่านพิธีอธิฐานจิตในวาระ ปี พ.ศ. ต่างๆ
สรุป
จากรูปในตาราง ข้อมูลดังกล่าวทำให้ทราบว่า พระกริ่งปวเรศที่อธิฐานจิตในวาระ ปี พ.ศ. 2411 เป็นพระกริ่งปวเรศฯ ที่น่าสนใจมากที่สุด ดังที่ผู้เขียนเคยเขียนกล่าว "มีพลังพุทธานุภาพแรงมากกว่าสร้างในวาระปี พ.ศ. อื่นๆ" และเป็นพระกริ่งปวเรศที่ครบเครื่องมากที่สุดตั้งแต่เคยสร้างพระกริ่งฯที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
- พระเครื่องไม่ว่าจะเป็นรุ่นใด ถ้าหากเป็นพระแท้ มีพุทธคุณและความเชื่อถือสูง ย่อมเป็นที่ต้องการในตลาดสูง ราคาย่อมสูงตามกลไกของตลาด
- หากกล่าวถึงพระกริ่งปวเรศ พิมพ์ที่มีมากที่สุด ผู้เขียนขอยกให้เป็น พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข และเป็นพระกริ่งปวเรศของแท้ที่สร้างในวาระ ปี พ.ศ. 2411 เป็นพระกริ่งปวเรศที่สร้างเพียบพร้อมในด้านพิธีกรรมและมวลสารโลหะธาตุที่นำมาหลอมหล่อเ้็ป็นองค์พระกริ่งปวเรศ เนื้อโลหะที่นำมาหลอมรวมกันสำเร็จเป็น เนื้อทองสัมฤทธิ์ เมื่อสำเร็จเป็นองค์พระโลหะธาตุเปลี่ยนเป็นธาตุกายสิทธิ์ ซึ่งยังหาผู้ใดสร้างเทียบชั้นได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
- ดังนั้นผู้เขียนมักจะกล่าวแนะนำหลายๆท่านไว้เสมอว่าหามา "ห้อยเดี่ยวขึ้นคอ" สักเดือนแล้วจะรู้สึกมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต
- ถ้าหากมีกำลังทรัพย์มากพอ ที่ไหนมีราคาไม่แพง ได้พบเห็น มีกำลังทรัพย์เพียงพอไม่เดือนร้อน ซื้อหา (เช่า) นำไปฝากญาติพี่น้องสักคนละองค์ เพื่อเป็นสมบัติประจำตระกูล เพราะพระกริ่งปวเรศออกมาจากกรุย่อมต้องมีเหตุและผลในอนาคตเป็นแน่แท้ อย่างน้อยๆผู้ครอบครองหากเชื่อมั่นสือกับองค์พระ อาราธนาขอกับพระฯท่านให้สงเคราะห์ หากไม่มีกรรมหนักมากเกินไป พระฯท่านย่อมสงเคราะห์
แสดงรูป พระกริ่งพิมพ์สมบูรณ์พูนสุข สร้างวาระ ปี พ.ศ. 2411
พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ. 2411 พิมพ์นี้จะมีเนื้อโลหะที่พบ ดังนี้
1. พระกริ่งฯ เนื้อทองคำ = มีค่าดั่งทองคำ แต่ไม่ใช่โลหะธาตุกายสิทธิ์
2. พระกริ่งฯ เนื้อเงิน = มีค่าดั่งเงิน แต่ไม่ใช่โลหะธาตุกายสิทธิ์
3. พระกริ่งฯ เนื้อนาค = มีค่าดั่งนาค แต่ไม่ใช่โลหะธาตุกายสิทธิ์
พระกริ่งฯ เนื้อสัมฤทธิ์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
4. เนื้อสัมฤทธิ์สีเงินกลับดำ
5. เนื้อสัมฤทธิ์สีแดงอ่อน(นาค)กลับดำ
6. เนื้อสัมฤทธิ์สีเหลืองอ่อน(จำปา) หรือ เนื้อทองสัมฤทธิ์ กลับดำ = มีค่าดั่งทองสัมฤทธิ์ มีส่วนผสมเป็นโลหะธาตุกายสิทธิ์ ผู้เขียนให้น้ำหนักน่าสนใจมากที่สุด จากโลหะธาตุทั้ง 6 ชนิด
ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับ หมุดที่หน้าผากเป็นหมุดสีทองคำ และก้นติดแผ่นทองคำมีประทับอักขระยันต์นั้น ไม่ได้บอกว่ามีส่วนที่ทำให้องค์พระกริ่งวิเศษเข้มขังขึ้น เป็นเพียงตบแต่งองค์พระกริ่งฯเพื่อการบูชาให้งดงามเ่ท่านั้น ผู้เขียนมองว่าจะมีหรือไม่มีระหว่างเนื้อโลหะธาตุเหมือนกัน ผู้เขียนให้น้ำหนักทางด้านพุทธคุณเท่ากัน
หมายเหตุ พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พิมพ์นี้ได้มีการสร้างขึ้นวาระ พ.ศ.2411 และวาระ พ.ศ.2434 ช่างสิบหมู่ได้ใช้เบ้าพิมพ์ประกบชุดเดียวกันในการทำหุ่นเทียน อีกทั้งโลหะธาตุที่นำมาเป็นส่วนผสม 9 ชนิด เป็นสูตรโลหะธาตุที่เหมือนกันเกือบ 100% ผู้เขียนกล่าวได้แต่เพียงสั้นๆว่า มองด้วยตาธรรมดาแยกไม่ออก ยกเว้นดูด้วยตาในเท่านั้น
ทำไมงานพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก ปี พ.ศ.2411 ถึงยิ่งใหญ่
--- จากหลักฐานข้อมูลต่างๆไม่ว่าจะเป็นพุทธคุณว่าด้วยความแรงและครบเครื่อง(ครอบจักรวาล) ผู้ทรงฌานที่ปฏิบัติได้แล้วย่อมทราบดีว่าจริงแท้
--- จากหลักฐานบันทึกที่จารึกไว้ในองค์พระเครื่องที่สร้างในปี พ.ศ.2411 เกี่ยวเนื่องกับการขึ้นครองราชสมบัติของรัชกาลที่ 5 และวังหน้าในปี พ.ศ.2411
--- จากหลักฐานบันทึกทางราชการต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกหรือภาพวีดีโอในสมัยที่รัชกาลที่ 9 ขึ้นครองราชย์สมบัติย่อมเป็นที่ประจัก
มาศึกษาเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เป็นข่าวเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2554 ดังรูปด้านล่างนี้จะทราบว่าเพียงแค่งานพระศพฯ ยังใช้จ่ายสูงถึง 100 ล้านบาท แล้วถ้างานพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก พระเครื่องฯในสมัย ร.5 ขึ้นครองราชย์สมบัติหากเทียบกับสมัยนี้ปี พ.ศ.2554 จะยิ่งใหญ่และใช้เงินลงทุนมากมายมหาศาลเพียงใด
รูปที่ 1
ตารางที่ 1 ข้อมูลต่อไปนี้เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล เป็นเรื่องรับรู้ได้ด้วยเฉพาะตน ตารางแสดงรายละเอียด เกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศและพระสมเด็จพิมพ์พิเศษ ที่ได้ผ่านพิธีอธิฐานจิตในวาระ ปี พ.ศ. ต่างๆ
สรุป
จากรูปในตาราง ข้อมูลดังกล่าวทำให้ทราบว่า พระกริ่งปวเรศที่อธิฐานจิตในวาระ ปี พ.ศ. 2411 เป็นพระกริ่งปวเรศฯ ที่น่าสนใจมากที่สุด ดังที่ผู้เขียนเคยเขียนกล่าว "มีพลังพุทธานุภาพแรงมากกว่าสร้างในวาระปี พ.ศ. อื่นๆ" และเป็นพระกริ่งปวเรศที่ครบเครื่องมากที่สุดตั้งแต่เคยสร้างพระกริ่งฯที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
- พระเครื่องไม่ว่าจะเป็นรุ่นใด ถ้าหากเป็นพระแท้ มีพุทธคุณและความเชื่อถือสูง ย่อมเป็นที่ต้องการในตลาดสูง ราคาย่อมสูงตามกลไกของตลาด
- หากกล่าวถึงพระกริ่งปวเรศ พิมพ์ที่มีมากที่สุด ผู้เขียนขอยกให้เป็น พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข และเป็นพระกริ่งปวเรศของแท้ที่สร้างในวาระ ปี พ.ศ. 2411 เป็นพระกริ่งปวเรศที่สร้างเพียบพร้อมในด้านพิธีกรรมและมวลสารโลหะธาตุที่นำมาหลอมหล่อเ้็ป็นองค์พระกริ่งปวเรศ เนื้อโลหะที่นำมาหลอมรวมกันสำเร็จเป็น เนื้อทองสัมฤทธิ์ เมื่อสำเร็จเป็นองค์พระโลหะธาตุเปลี่ยนเป็นธาตุกายสิทธิ์ ซึ่งยังหาผู้ใดสร้างเทียบชั้นได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
- ดังนั้นผู้เขียนมักจะกล่าวแนะนำหลายๆท่านไว้เสมอว่าหามา "ห้อยเดี่ยวขึ้นคอ" สักเดือนแล้วจะรู้สึกมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต
- ถ้าหากมีกำลังทรัพย์มากพอ ที่ไหนมีราคาไม่แพง ได้พบเห็น มีกำลังทรัพย์เพียงพอไม่เดือนร้อน ซื้อหา (เช่า) นำไปฝากญาติพี่น้องสักคนละองค์ เพื่อเป็นสมบัติประจำตระกูล เพราะพระกริ่งปวเรศออกมาจากกรุย่อมต้องมีเหตุและผลในอนาคตเป็นแน่แท้ อย่างน้อยๆผู้ครอบครองหากเชื่อมั่นสือกับองค์พระ อาราธนาขอกับพระฯท่านให้สงเคราะห์ หากไม่มีกรรมหนักมากเกินไป พระฯท่านย่อมสงเคราะห์
แสดงรูป พระกริ่งพิมพ์สมบูรณ์พูนสุข สร้างวาระ ปี พ.ศ. 2411
พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ. 2411 พิมพ์นี้จะมีเนื้อโลหะที่พบ ดังนี้
1. พระกริ่งฯ เนื้อทองคำ = มีค่าดั่งทองคำ แต่ไม่ใช่โลหะธาตุกายสิทธิ์
2. พระกริ่งฯ เนื้อเงิน = มีค่าดั่งเงิน แต่ไม่ใช่โลหะธาตุกายสิทธิ์
3. พระกริ่งฯ เนื้อนาค = มีค่าดั่งนาค แต่ไม่ใช่โลหะธาตุกายสิทธิ์
พระกริ่งฯ เนื้อสัมฤทธิ์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
4. เนื้อสัมฤทธิ์สีเงินกลับดำ
5. เนื้อสัมฤทธิ์สีแดงอ่อน(นาค)กลับดำ
6. เนื้อสัมฤทธิ์สีเหลืองอ่อน(จำปา) หรือ เนื้อทองสัมฤทธิ์ กลับดำ = มีค่าดั่งทองสัมฤทธิ์ มีส่วนผสมเป็นโลหะธาตุกายสิทธิ์ ผู้เขียนให้น้ำหนักน่าสนใจมากที่สุด จากโลหะธาตุทั้ง 6 ชนิด
ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับ หมุดที่หน้าผากเป็นหมุดสีทองคำ และก้นติดแผ่นทองคำมีประทับอักขระยันต์นั้น ไม่ได้บอกว่ามีส่วนที่ทำให้องค์พระกริ่งวิเศษเข้มขังขึ้น เป็นเพียงตบแต่งองค์พระกริ่งฯเพื่อการบูชาให้งดงามเ่ท่านั้น ผู้เขียนมองว่าจะมีหรือไม่มีระหว่างเนื้อโลหะธาตุเหมือนกัน ผู้เขียนให้น้ำหนักทางด้านพุทธคุณเท่ากัน
หมายเหตุ พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พิมพ์นี้ได้มีการสร้างขึ้นวาระ พ.ศ.2411 และวาระ พ.ศ.2434 ช่างสิบหมู่ได้ใช้เบ้าพิมพ์ประกบชุดเดียวกันในการทำหุ่นเทียน อีกทั้งโลหะธาตุที่นำมาเป็นส่วนผสม 9 ชนิด เป็นสูตรโลหะธาตุที่เหมือนกันเกือบ 100% ผู้เขียนกล่าวได้แต่เพียงสั้นๆว่า มองด้วยตาธรรมดาแยกไม่ออก ยกเว้นดูด้วยตาในเท่านั้น