160. เบญจภาคีเนื้อทองคำ

พระชุดเบญจภาคี เนื้อ ทองคำสายวังที่สร้างออกแบบโดยฝีมือช่างสิบหมู่มีมานานเกินกว่า 100 ปี  อดีตที่ผ่านมาเสี้ยนไม่มีจึงไม่ได้เขียนไว้ในตำราเพื่อสอนให้เซียนตำราได้รู้จัก  อีกทั้งนักสะสมพระทั่วๆไปไม่สามารถที่จะมีไว้ครอบครอบ เพราะสร้างจำกัดจำนวนเพียงน้อยนิดในแต่ละวาระ(พิธีแต่ละครั้ง)  พระเนื้อทองคำส่วนใหญ่อยู่ในมือของราชวงศ์ชั้นสูงและเกือบทั้งหมดอยู่ในกรุวัดพระศรีรัตนศาสดารามที่สร้างเพื่อบูชาพระรัตนเท่านั้น  

เมื่อพระฯเนื้อทองคำหลากหลายพิมพ์ออกสู่ตลาดพระเครื่องในจำนวนที่มาก  เกิดจากพระเนื้อทองคำต่างๆเหล่านี้ได้สร้างไว้หลายวาระ(หลายพ.ศ.) ซึ่งพระเนื้อทองคำเกือบทั้งหมดล้วนผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษกหลวง ที่อธิษฐานจิตในยุคสมเด็จพุฒจารย์โตพรหมรังสี(หลวงปูโต) วัดระฆัง ยกเว้นตั้งแต่ พ.ศ. 2415 เป็นต้นไปที่ไม่ได้ปลุกเสกโดยหลวงปูโต  

พระเนื้อทองคำทั้งหมดเมื่อเสี้ยนและเซียนไม่มีอีกทั้งไม่รู้จัก  จึงมีคำตอบสถานะเดียว คือ ของปลอมเรียนแบบ

แต่มีกลุ่มๆหนึ่งที่สะสมด้วยการด้วยการดูพร้อมทั้งวิเคราะห์ความเก่าของวัตถุและมีความฉลาดขอเมตตาจากพระอริยสงฆ์ตรวจสอบ  จึงได้ของดีราคาไม่แพง  ภายหลังของเริ่มหมดไปจากตลาด  ของปลอมระบาดกันมากมาย  ผู้เขียนนั้นได้พบพระฯลักษณะเนื้อคล้ายทองคำในตลาดมีมากมายต่างเป็นของปลอมเกือบทั้งสิ้น  อีกทั้งราคาถูกเหมือนกับได้เปล่า  เพราะไม่ใช่เนื้อทองคำ  มีตั้งแต่องค์ละไม่ถึง 1,000 บาท  ไปจนถึงกระทั้งหลักราคาถูกกว่าเนื้อทองคำที่ร้านทองคำเขารับซื้อขายทองคำกัน  ผู้เขียนถามว่า "คนขายพระโง่ขนาดที่ไม่รู้จักทองคำใช่ไหม"

มีญาติธรรมท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า  

 "ในอดีตตัวของท่าน "ลุ่มหลงในวัตถุมงคล(รูปธรรม)" ปัจจุบันค่อย ๆ เปลี่ยนไป หลังจากที่ได้พบกับนักปฏิบัติธรรมหลาย ๆ ท่าน ความลุ่มหลงในรูปธรรมลดลง หันมาสนใจการปฏิบัติมากขึ้น  แต่เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับเตือนใจอีกหลาย ๆ คน ที่อาจไม่ต้องหลงทาง ดังเช่นผม ที่ทุ่มเทไปเกินกว่าที่ควรเป็น  จึงขอให้ท่านที่สามารถชี้แนะผู้อื่น ได้นำข้อมูลไปเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่อง พระเนื้อทองคำ ที่ต้องใช้เงินสูงในการสะสมและไม่รู้ด้วยว่า เนื้อทองคำจริงหรือเปล่า โดยไม่ต้องอ้างถึงผมก็ได้ครับ"

ในกระทู้ที่ 155 ผู้เขียนได้กล่าวถึง พระสมเด็จจิตรดา(พิมพ์พิเศษ)  ย้อนกลับดูกระทู้ดังกล่าว คลิกลิงก์..........  เพื่อให้เรื่องประติดประต่อกันขอนำพระชุดเบญจภาคีชุดบุแผ่นทองคำ หลังประทับตราครุฑมาให้ได้ชื่นชมบารมีของพระเครื่องสายวังที่สร้างโดยฝีมือช่างสิบหมู่ในสมัยโบราณ ซึ่งเป็นพระแท้ไม่ใช่พระเก๊ปลอมอย่างที่เซียนตำรากล่าว  เพราะเป็นพระฯที่เซียนตำราไม่มีในกำมือ

พระในกระทู้นี้เป็นพระเครื่องฯ ของญาติธรรมฯ นำมาเปิดเผยให้ผู้ที่สนใจ เพื่อให้เนื้อหาครอบคลุมสมบูรณ์มากยิ่งๆขึ้น

ชุดที่ 1 พระเบญจภาคี วังหลวง บุแผ่นทองคำ ฝีมือช่างสิบหมู่  ในสมัยเมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมา  ยังไม่มีการจัดชุดพระเบญจภาคี  แต่พระที่สร้างขึ้นมามีทุกพิมพ์ดังนั้นจึงนับพระพิมพ์ฯของสายวังแต่เป็นที่นิยมในสมัยนี้มาจัดชุดตามเสี้ยนได้ครบ 5 องค์ดังรูป

601001 พระชุดเบญจภาคี วังหลวง บุแผ่นทองคำ ด้านหน้า (ฝีมือช่างสิบหมู่)

601002 พระชุดเบญจภาคี วังหลวง บุแผ่นทองคำ ด้านหลังประทับตราครุฑ (ฝีมือช่างสิบหมู่)

601003 พระผงสุพรรณ วังหลวง บุแผ่นทองคำ ด้านหลังประทับตราครุฑ (ฝีมือช่างสิบหมู่)

601004 พระซุ้มกอ วังหลวง บุแผ่นทองคำ ด้านหลังประทับตราครุฑ (ฝีมือช่างสิบหมู่)

 

601005 พระนางพญา วังหลวง บุแผ่นทองคำ ด้านหลังประทับตราครุฑ (ฝีมือช่างสิบหมู่) 

601006 พระรอด วังหลวง บุแผ่นทองคำ ด้านหลังประทับตราครุฑ (ฝีมือช่างสิบหมู่) 

601007 พระสมเด็จ(พิมพ์พิเศษ) วังหลวง บุแผ่นทองคำ ด้านหลังประทับตราครุฑ (ฝีมือช่างสิบหมู่) 

ชุดที่ 2 พระเบญจภาคี เนื้อทองคำ ฝีมือช่างสิบหมู่  เกือบ 80% ส่วนผสมของโลหะใกล้เคียงกัน น่าจะสร้างโดยฝีมือช่างสิบหมู่ในยุคสมัยเดียวกัน

601008 พระเบญจภาคี  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง  กล่องบรรจุเป็นของใหม่ ทำให้เก่าดูขลังดี

601009 พระเบญจภาคี  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง เมื่ออยู่นอกกล่อง

601010 พระสมเด็จ เนื้อทองคำ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง ของแท้หน้ามีหลายแบบ หลายพิมพ์  ที่สร้างมีหลายยุคหลากหลาย พ.ศ. ส่วนใหญ่จะอยู่ในมือคนมีสตางค์ตั้งแต่ราคาหกหลักไปจนถึงราคาเจ็ดหลักกลาง  ว่ากันด้วยน้ำหนักที่เคยได้ยินพบมีน้ำหนักตั้งแต่น้ำหนักประมาณ 2 บาทไปถึงน้ำหนักทองคำประมาณ 5 บาท

601011 พระซุ้มกอ เนื้อทองคำ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง

601012 พระนางพญา เนื้อทองคำ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง  ด้านหลังลายมือ  มองแล้ว งง  ทำไมถึงเหมือนกับพระเนื้อดิน มีลายมือเช่นกัน  ไม่ต้องงงครับ  ช่างสิบหมู่ถอดพิมพ์มาจากพระเนื้อดินที่แตกกรุฯออกมาในสมัยนั้น

601013 พระรอด เนื้อทองคำ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง 

601014 พระผงสุพรรณ เนื้อทองคำ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง  ด้านหลังลายมือ  องค์นี้มีลายมือเช่นกัน  ช่างสิบหมู่ถอดพิมพ์มาจากพระเนื้อดินที่แตกกรุฯออกมาในสมัยนั้น

ชุดที่ 3 พระเบญจภาคี เนื้อทองคำ ฝีมือช่างสิบหมู่ เนื้อทองคำชุดนี้ลดน้อยลง 30-60% ส่วนผสมของโลหะอื่น ๆ แตกต่างกันออกไป ที่สำคัญมีส่วนของสังกะสีผสมเข้าไปด้วย ซึ่งเป็นฝีมือช่างสิบหมู่คนละยุคคนละสมัยกับพระเบญจภาคี ชุดที่ 2 และที่พบเป็นพิเศษ คือมีส่วนผสมของเนื้อปรอท 5-10%  

ผู้ที่จะได้ครอบครองพระเหล่านี้ในจำนวนที่มาก จะต้องมีบารมีและเคยร่วมสร้างกันมาในอดีตชาติเก่าก่อน

601015 พระเบญจภาคี  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง  กล่องบรรจุเป็นของใหม่ทำให้เก่า มีระบุอายุความเก่าของพระเครื่องแต่ละสมัยดูมีความเข้มขลังดี

601016 พระสมเด็จ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง  ด้านหลังยันต์ดวง ระบุ พ.ศ.2411 พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ที่มีการปลอมในตลาดมากที่สุด หาซื้อของเก๊ของปลอมได้ราคาต่ำกว่าทองคำ  แต่ระวังของแพงก็ใช่ว่าจะแท้เสมอไป

601017 พระรอด เนื้อทองคำ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง ด้านหลังมีลายมือจาร

601018 พระนางพญา เนื้อทองคำ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง

601019 พระผงสุพรรณ เนื้อทองคำ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง

601020 พระซุ้มกอ เนื้อทองคำ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง

พระเครื่องชุดเบญจภาคีเนื้อทองคำฯเหล่านี้ล้วนแต่เป็นของญาติธรรมที่นำมาเปิดเผยเป็นวิทยาทาน ของจริงนั้นหายาก  และมีราคาแพง  ของปลอมหาง่ายเพราะมีราคาถูก  ผู้เขียนเคยพบของปลอมมามาก ของจริงที่ขายในเว็บหรือตามร้านฯพระเครื่องระดับสูงราคาว่ากันเลขเจ็ดหลัก บางท่านอาจจะรู้จักหรือมีคนแบ่งปันให้ราคาว่ากันหลักหลายหมื่นถึงราคาหลายแสนต่อองค์ 

ผู้เขียนไม่แนะนำให้สะสมพระฯเนื้อทองคำถ้าท่านไม่ใช่เศรษฐีเงินถุงเงินถัง เพราะมีของปลอมระบาดมาก  ยกเว้นท่านจะมีผู้ที่สามารถตรวจสอบด้วยตาในว่าใช่พระฯที่สมเด็จโต(หลวงปูโต)วัดระฆังอธิษฐานจิตใช่หรือไม่ 

เพิ่มเติมข้อมูล วันที่ 12 ธันวาคม 2554

ชุดที่ 4 พระเบญจภาคี เนื้อโลหะกะหลั่ยทองคำ ฝีมือช่างสิบหมู่  พระชุดนี้เป็นของญาติธรรมเปิดเผยเพื่อเป็นวิทยาทาน

          เป็นชุดที่มีเนื้อโลหะกะหลั่ยทอง แตกต่างกับทั้ง 3 ชุดที่ก่อนหน้านี้  ซึ่งมีส่วนผสมของทองคำสูง  ชุดกะหลั่ยทองนี้ จะมีส่วนผสมของทองคำ เพียง 1-3 % เท่านั้น   ที่น่าสนใจมากขึ้น เพราะมี 2 องค์ที่มีส่วนผสมของ ทองแดง สังกะสี ในสัดส่วนที่สูง 90%  และอีก  3 องค์ ที่มีส่วนผสมขิงนิเกิ้ลสูงถึง 80-90% บางองค์มีส่วนผสมของปรอทด้วย

ผลจาก X-ray Fluorescent มีดังนี้

601021 พระสมเด็จเนื้อโลหะกะหลั่ยทอง  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง มีส่วนผสมของ Au = 3.21% Cu = 58.3% Zn = 34.8% Ni = 0.26 Hg = 1.94% Other = 1.49% 

 
 
601022 พระนางพญาเนื้อโลหะกะหลั่ยทอง  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง มีส่วนผสมของ Au =2.82% Cu = 4.5% Zn = 0 Ni = 92.57 Hg = 0% Other = 0.11%

601023 พระซุ้มกอเนื้อโลหะกะหลั่ยทอง มีส่วนผสมของ Au = 2.42% Cu = 7.95% Zn = 0 Ni = 89.53 Hg = 0% Other = 0.1%

601024 พระผงสุพรรณเนื้อโลหะกะหลั่ยทอง มีส่วนผสมของ Au = 1.24% Cu = 12% Zn = 0.13% Ni = 84.25 Hg = 0.16% Other =2.22 %

601025 พระรอดเนื้อโลหะกะหลั่ยทอง มีส่วนผสมของ Au = 2.86% Cu = 65.6% Zn = 30.4% Ni = 0.18 Hg = 0.46% Other = 0.5%

นอกจากนี้ ชุดพระเบญจภาคี เนื้อโลหะกะหลั่ยทองคำ ฝีมือช่างสิบหมู่ ยังมีพระลีลากำแพงเพชรอยู่ในชุด แต่ไม่มีส่วนผสมของสังกะสี มีนิเกิ้ลสูง ซึ่งทำให้ทราบว่าเป็นการสร้างต่างวาระ(พ.ศ.)
 
601026 พระลีลากำแพงเพชรเนื้อโลหะกะหลั่ยทอง  มีส่วนผสมของ Au = 2.16% Cu = 8.68 Ni = 88.72 Hg = 0.08% Other = 0.36

เพิ่มเติมข้อมูล วันที่ 17 ธันวาคม 2554

ชุดที่ 5 พระเบญจภาคี เนื้อทองคำ ฝีมือช่างสิบหมู่  พระชุดนี้เป็นของญาติธรรมเปิดเผยเพิ่มเติม เพื่อเป็นวิทยาทาน

          ในวาระ พ.ศ. 2411 มีน้อยคนนักที่จะรู้เกี่ยวกับการสร้างพระเครื่อง  ซึ่งมีระยะเวลาการสร้างยาวนานเกือบ 6 เดือน  ได้อาราธนาพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นับถือทั่วประเทศ  มารวมตัว ร่วมกัน สร้าง อธิษฐานจิตปลุกเสก พระของใครรับผิดชอบ อธิษฐานจิตไม่ยุ่งเกี่ยวกัน

         มีเกจิอาจารย์ดังๆ หลายๆรูป  ได้นำพระเครื่องฯที่ตนเองมาร่วม  แต่มีพระเครื่องที่นำมาจำนวนน้อย  ดังนั้นจึงได้สร้างเพิ่ม  

         เฉพาะพระสมเด็จฯที่เป็นพิมพ์สี่เหลี่ยมชิ้นฟักเพียงอย่างเดียวมีมากกว่า 1 ล้านองค์  ไม่เพียงแต่พระเครื่องของสายสมเด็จฯโต  ยังมีหลวงพ่อแก้ว  ในสมัยนั้นท่านยังไม่ได้จำวัดอยู่ที่ชลบุลีได้นำพระเครื่องของท่านมาสร้าง  ในยุคแรกจะเป็นพระเนื้อผงสีขาว  ว่ากันว่าท่านได้นำผงของสมเด็จฯโต มาร่วมสร้างผสมอยู่ในองค์พระของหลวงพ่อแก้ว  ภายหลังท่านจึงได้สร้างเป็นเนื้อดำขึ้น...

         ในวันนี้จึงได้นำพระสมเด็จ เนื้อทองคำมาเปิดเผยข้อมูล  เพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดต่างๆในการสร้าง ด้วย ผลจาก X-ray Fluorescent มีดังนี้

601026 พระสมเด็จ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง  ด้านหลังยันต์ดวง ระบุ พ.ศ.2411 พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ที่มีการปลอมในตลาดมากที่สุด องค์นี้เป็นองค์เดียวกันกับรูป 601016 ผลจาก X-ray Fluorescent มี ทองคำ AU = 61.67%  Ag = 3.48% Cu = 13.99% Zn = 11.55% Hg = 9.32%

 601027 พระสมเด็จ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง  ด้านหลังยันต์ดวง ระบุ พ.ศ.2411 พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ที่มีการปลอมในตลาดมากที่สุดพิมพ์หนึ่ง ผลจาก X-ray Fluorescent มี ทองคำ Au = 78.26% Ag = 5.3% Cu = 14.53% Other = 1.91%

601028 พระสมเด็จ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง  ด้านหลังยันต์ดวง ระบุ พ.ศ.2411 พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ที่มีการปลอมในตลาดมากที่สุดพิมพ์หนึ่ง ผลจาก X-ray Fluorescent มี ทองคำ  Au = 66.03% Ag = 0.6% Cu = 23.56% Other = 9.81%

*** ข้อสังเกตุ พระสมเด็จหลังยันต์ดวงทั้ง 3 องค์
องค์ที่ 1(601026) Au = AU = 61.67%,  
องค์ที่ 2(601027) Au = 78.26%  
และองค์ที่ 3(601028) Au = 66.03%  
จากการสร้างพระเครื่อง...ในปี พ.ศ.2411 ใช้เวลาการสร้างยาวนานเกือบ 6 เดือน  ไม่ว่าจะเป็นวัสดุส่วนผสมโลหะต่างๆ รวมไปถึงฉนวนโลหะ(เชื้อโลหะเดิม) ย่อมมีความผิดแตกต่างตามวาระการสร้าง

601029 พระสมเด็จ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง  สมเด็จที่ด้านหลังเป็นรูปเหมือนปู่โต ในกรอบทอง องค์นี้สร้าง อธิษฐานจิต ในปี พ.ศ. 2414 ผลจาก X-ray Fluorescent มี ทองคำ  Au = 80.82% Ag = 5.73% Cu = 11.37% Other = 2.08%

601030 พระสมเด็จ  (ฝีมือช่างสิบหมู่) สายวัง  สมเด็จ ด้านหลังเป็นรูปรัชกาลที่ 5 องค์นี้สร้าง อธิษฐานจิต ในปี พ.ศ. 2446 ในวาระที่ประเทศไทย - สยามประกาศเลิกทาสโดยตราพระราชบัญญัติทาส ร.ศ. 124 (1 เมษายน)   
ผลจาก X-ray Fluorescent มี ทองคำ  Au = 65.60% Ag = 0.61% Cu = 20.06% Other = 13.73%

สมเด็จ ด้านหลังเป็นรูปรัชกาลที่ 5  อธิษฐานจิต ในปี พ.ศ. 2446

สมเด็จ ด้านหลังเป็นรูปรัชกาลที่ 5  อธิษฐานจิต ในปี พ.ศ. 2446

 

รูปเหมือน ร.5 หน้าตาพิมพ์ทรงแบบนี้ไม่ทันสมเด็จโต พรหมรังสี ได้มรณะภาพ พ.ศ.2415



มีแต่ ผลจาก X-ray Fluorescent แล้วใบรับรองหน้าตาเป็นอย่างไร  ญาติธรรม ท่านดังกล่าว  ส่งมาให้ชมหน้าตาใบรับรองผลทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ดังรูป    นำพระไปตรวจซะเยอะ เลยนำต้นฉบับองค์อื่นมาให้ดูซะงั้น 555+ เพื่อให้ทราบว่านำพระ...ไปตรวจมาเยอะ 

601031 ใบรับรองเหรียญ ร.๙ ตึกเฉลิมพระเกียรติ

601032 ใบรับรอง เหรียญจตุคาม เนื้อหยก