วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

95. สมเด็จโต กับ พระบาทสมเด็จฯ ปวเรศ

ถ้าหากผู้เขียนบอกว่า  "ลูกศิษย์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต มีอยู่คนหนึ่งชื่อ ปวเรศ " ท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่?


แต่ลูกศิษย์ที่นามเรียกขานว่า "ปวเรศ " ไม่ใช่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้าฤกษ์) วัดบวรนิเวศวิหาร ท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่? และมีความคิดเห็นเช่นไร?


เข้าเรื่องครับผม...



พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2394

สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์  (มีคำว่าเรศอยู่ในท้ายชื่อ) หรือ  ทรงเป็นพระอนุชาของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาล ที่ 4 ทรงได้รับพระบวรราชาภิเษกเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (พระมหาอุปราช) หรือที่ออกพระนามกันว่า "วังหน้า" มีพระเกียรติยศเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ที่ 2 เสมอด้วยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2394  

มีพระนามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระปวเรนทราเมศ มหิศเรศ รังสรรค์ มหรรต วรรคโชไชย มโหฬารคุณอดุลยพิเศษ สรรพเทเวศรานุรักษ์ บวรจักรพรรดิราช บวรนาถบพิตร พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ชื่อของพระองค์ท่านที่เรียกกันสั้นๆในหมู่พระบรมวงศานุวงศ์ คือ "ปวเรศ"

ประวัติย่อสั้นๆ ของพระบาทสมเด็จฯปวเรศ หรือ สมเด็จพระปวเรน

เมื่อพระองค์มีพระชนมายุได้ 16 พรรษา พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระประชวรและเสด็จสวรรคต 

พระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ พระราชโอรสพระองคใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จขึ้นครองราช สมบัติพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว 

พระองค์จึงสด็จกลับไปประทับ ณ พระราชวังเดิม พร้อมกับพระราชมารดา ส่วนสมเด็จพระเชษฐาของพระองค์นั้นทรงสมณเพศประทับอยู่ ณ วัดมหาธาตุและวัดสมอราย 
เมื่อพระองค์มีพระชนมายุได้ 21 พรรษา ทรงผนวชเป็นพระภิกษุวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเสด็จไปประทับ ณ วัดระฆังโฆษิตาราม หลังจากลาผนวชพระองค์จึงเข้ารับราชการในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

*** พระบาทสมเด็จฯ ปวเรศ  จึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต ในฐานะลูกศิษย์กับอาจารย์ *** ก่อให้เกิดพระกริ่งปวเรศ ขึ้นในวงการพระเครื่องในในยุคปัจจุบันที่เรียกกันว่า "พระกริ่งปวเรศ" เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วท่านคิดว่าเชื่อข้อมูลของผู้เขียนหรือเชื่อข้อมูลตำราของเซียนตำราที่ลอกๆกันมา  ข้อมูลของใครน่าเชื่อถือกว่ากัน?  

ผู้เขียนขอสรุปว่า ไม่ได้จ้างให้ใครมาเชื่อตามผู้เขียน  "ผู้ทรงฌาน" มี  "พระอริยสงฆ์" เก่งๆมี(ไม่นับของปลอม) ขอความเมตตาขอให้ท่านสงเคราะห์ครับ  ว่าที่ผู้เขียนนี้จริงหรือเท็จประการใด

รูปที่ 1  พระองค์นี้เป็นพิมพ์พิเศษของสมเด็จโต สร้างเมื่อในวาระที่  พระบาทสมเด็จฯปวเรศ ขึ้นครองราชย์คู่กับ ร.4 เมื่อ พ.ศ.2394  ด้านหน้าเป็นเนื้อผงของสมเด็จฯโต  ด้านหลังฝังพระกริ่ง  ฐานพระกริ่งมีคำว่า " ปวเรศ " ดูให้เต็มตาครับ  ของแท้ต้องเป็นแบบนี้  ไม่ใช่ไปเชื่อเซียนตำรา  ที่ลอกตำราสืบต่อๆกันมาแบบคิดไปเอง

รูปที่ 2 ขยายให้เห็นกันชัดๆ  
ตัว " ป "  เขียนแตะให้เห็นกันชัดๆ 
ต่อมาด้วยตัว " ว "
และตัว " เ " จิ้มลงในเนื้อพระลากและก็จิ้มลึกอีกครั้ง
ส่วนตัว " ร " ดูกันจะๆ
ตามด้วยตัว " ศ "
รวมกัน ได้คำว่า " ปวเรศ "














รูปที่ 3 ถึง รูปที่ 8 ไม่ขอบรรยาย  ดูกันเอาเอง  คิดกันเอาเอง  ว่าจะเชื่อเซียนตำราที่ลอกๆ กันมา กับของพระกริ่งปวเรศของแท้ของจริง  จากผู้ครอบครองพระสายวังหน้าที่สืบทอดกันต่อๆกันมาก็เชิญตามสะดวก

*** ของจริง  ของแท้  ต้องมีคู่แฝดหลายองค์  ***  ถ้าหากพบเพียงองค์เดียวโดดๆ ผู้เขียวกล่าวได้เพียงสั้นๆว่าเรียบร้อยโรงเรียนเซียนตำรา


+++ กล่าวสรุปได้ว่า " พระวังหน้า " หรือ คำว่า " ปวเรศ " ล้วนมีความหมายถึง พระบาทสมเด็จพระปวเรนทราเมศมหิศเรศรังสรรค์ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งหมดทั้งสิ้น


เมื่อกาลเวลาผ่านไปถึงยุคของ กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (6 กันยายน พ.ศ. 238128 สิงหาคม พ.ศ. 2428)  พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ หรือ พระองค์เจ้ายอดยิ่งประยุรยศบวรราโชรสรัตนราชกุมาร เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ใน พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล หรือ ตำแหน่ง " วังหน้า " ในยุคสมัยของ กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ  ได้สร้างพระเครื่องหลากหลายพิมพ์ รวมไปถึงพิมพ์พระสมเด็จและพระกริ่งหลากหลายหน้าตา  ล้วนแต่เป็นพระนอกกำมือของเซียนตำรา


ไม่ว่าจะสร้างในยุคของ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า (พระบาทสมเด็จฯ ปวเรศ) หรือ ในยุคของ กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ล้วนแล้วแต่เป็นพระวังหน้า  จะประกอบด้วยพระ 2 ประเภท ดังนี้


ประเภทที่ 1 พระวังหน้าที่ทันสมเด็จฯ โต ร่วมอธิฐานจิต
ประเภทที่ 1 พระวังหน้าที่ ไม่ทัน สมเด็จฯ โต  ไม่ได้ร่วมอธิฐานจิต