วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

132 เพชรนาคา

เพชรนาคาหรือเพชร 7 สีมณี 7 แสง

เพชรนาคา หรือเพชร 7 สีมณี 7 แสง เป็นของศักดิ์สิทธิ์มีอาถรรพ์พลังลึกลับเป็นเรื่อง”อจินไตย”

เมื่อวันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ.2554  ผู้เขียนได้พบกับญาติธรรมผู้ครอบครองก้อนดินคล้ายก้อนหิน 2 ก้อน  เมื่อทำการสอบถามพรเบื้องบน...ทำให้ทราบว่ามีพลังพุทธานุภาพ  เมื่อเขย่าจะได้ยินเสียงดังทำให้ทราบว่ามีวัตถุอยู่ข้างใน  สอบถามพระเบื้องบน...เป็นอะไร  ไม่ได้รับคำตอบ  สรุปว่าอยากรู้ให้ทุบออกมาดู
ผู้เขียนจึงทำการขออนุญาตพระเบื้องบน  ญาติธรรมผู้ครอบครองนำฆ้องมาให้ทุบ  บอกว่าอยากรู้มานานแล้วแต่ไม่กล้าทุบสักที  ผู้เขียนจึงสนองความอยากรู้อยากเห็นว่าด้านในจะเป็นเพชรนาคาหรือว่าเป็นรังของเหล็กไหล

 รูปที่ 1 หินก้อนที่ 1 สภาพเดิมๆ

 รูปที่ 2 หินก้อนที่ 2 สภาพเดิมๆ
รูปที่ 3 หินก้อนที่ 1 จัดการเคาะเบาๆไป 2 ที ก้อนดินแตกออก  ดังภาพที่เห็น  พบเพชรนาคาสีเหลือง 1 เม็ด

รูปที่ 4 หินก้อนที่ 2 ยังไม่ได้ทุบวางข้างๆหินก้อนที่ 1 ที่ทุบพบเพชรนาคาสีเหลือง

รูปที่ 5 หินก้อนที่ 2 ทุบเบาๆ 1 ที แตกออกสองซีก พบเพชรนาคาสีชมพู  ในรูปได้วางประกบโชร์บารมีเพชรนาคาทั้ง 2 องค์

รูปที่ 6 หินทั้งสองก้อนด้านในจะมีผงคล้ายทราย เม็ดสีเหลืองจะมีผงสีเข้ม  เม็ดสีชมพูมีสีเหลืองอมน้ำตลาดอ่อน  ผงคล้ายทรายและดินแข็งๆคล้ายหินที่หุ้มเพชรนาคา  มีพลังพุทธคุณ 1 เท่า  จัดได้ว่าเข้าขั้นมาตราฐานพระสมเด็จ  หากนำมาเป็นมวลสารสร้างพระผงจัดเป็นมวลสารที่เหมาะสมประเภทหนึ่ง

รูปที่ 7 ถ่ายใกล้ๆให้เห็นชัดๆ

 รูปที่ 8 ถ่ายคู่กัน แล้วนำมาวางบนฝ่ามือ  สัมผัสถึงพลังของเพชรนาคาวิ่งบนฝ่ามือ  นึกขึ้นมาได้ว่าครั้งก่อนได้อ่านพบในเว็บมีญาติธรรมที่รู้จัก  ได้โดนพิษของพญานาคที่ค้างอยู่ที่เพชรนาคาทำให้ไม่สบาย

 รูปที่ 9  ให้ญาติธรรมผู้ครอบครองนำน้ำสะอาดมาหนึ่งแก้ว  ขออาราธนาบารมีพระเบื้องบน...สงเคราะห์ช่วยล้างพิษของพญานาคให้ ถ้าหากว่ามีหลงเหลือตกค้างอยู่ที่เพชรนาคา  สัมผัสได้ว่าพระเบื้องบนสงเคราะห์...ใช้เวลาพอสมควรในการล้างพิษ


รูปที่ 10 ถ่ายรูปอีกครั้ง  เพื่อชมบารมีของเพชรนาคา

สรุป กระทู้บทความนี้  เป็นเรื่องของความเชื่อ "เมื่อถึงแล้วจะรู้เอง" ถ้าพูดให้เข้าใจอยากหน่อยก็ต้องขอบอกว่าเป็นเรื่องของ ”อจินไตย”  ผู้ครอบครองหินสองก้อนนี้ต่างปิติยินดีกับเพชรนาคาที่ได้ตรงกับจริตของทั้งสองคนพอดี คือ คนผู้ชายชอบสีเหลือง  คนผู้หญิงชอบสีชมพู อีกทั้งยังบังเอิญตรงกับโฉลกสีของวันเกิดทั้งสองคนพอดี